สังคม

ทหารสาวผวาหนัก ถูกจ่าเอกพยายามพังประตู คุกคามกลางดึก อ้างไปเรื่อย พยายามยัดเงินให้จบเรื่อง

โดย passamon_a

11 มี.ค. 2567

454 views

ทหารสาวผวาหนัก ถูกทหารหนุ่มยศจ่าเอก ใส่บ๊อกเซอร์คุกคามกลางดึก พยายามพังประตูบุกห้องพัก อ้าง "นี่เป็นห้องผม ผมจะเข้าไป" จับได้ทำตีมึน พยายามยัดเงินให้จบเรื่อง ลั่นต้องการคำขอโทษที่สำนึกผิดจากเจ้าตัว เป็นห่วงชีวิต เผยกรณีถูกกักย้ายออกจากข้างห้องแล้ว


เมื่อวันที่ 10 มี.ค.66 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นทหารหญิงสังกัดหนึ่งที่สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้โพสต์ภาพทหารหนุ่ม ยศจ่าเอก ใส่บ๊อกเซอร์ พยายามพังประตูบุกห้องพัก เธอระบุว่า "ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ตนเองเป็นพนักงานราชการ คนที่พยายามเข้ามาก็เป็นข้าราชการ ตอนตี 2 กว่า ๆ ตนตั้งสติไม่ทัน ตอนเขาพยายามเปิดห้องเขย่าแรงมาก อ้างขอความช่วยเหลือ ลูกป่วยจะให้ตนช่วย และอ้างว่าห้องของตนเป็นห้องเขา พยายามบิดลูกบิดประตู จะเข้าให้ได้ อันตรายสำหรับตนเองมาก ประตูห้องพักไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น"


นอกจากนี้ยังได้โพสต์คลิปวิดีโอ เขียนแคปชั่นว่า "ตี 2 ครึ่ง เตือนภัย ผญ.ที่อยู่คนเดียวกลัวมาก" โดยเธอได้โทรศัพท์ไปแจ้งความ ร้องไห้ ระบุว่า อยู่ที่แฟลตแห่งหนึ่งที่สัตหีบ โทรแจ้ง สห.แล้วไม่มีใครรับสาย ตนเองเป็นผู้หญิงคนเดียว มีผู้ชายมาอยู่หน้าห้อง กลัวมาก เขาพยายามเปิดประตูห้อง ทีแรกคิดว่าเป็นลม (ลมพัด) ตอนนี้ไม่สามารถโทรติดต่อใครได้เลย ช่วยหนูได้มั้ยคะ ติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่มีใครอยู่เลย


และมีคลิปหลังจากพี่ที่รู้จักมาถึงหน้าห้องเพื่อช่วยทหารสาว รุ่นพี่คนนี้ยืนคุยกับทหารหนุ่มยศจ่าเอก อยู่หน้าห้อง จากนั้นทหารสาวก็เปิดประตูห้องออกมาพูดว่า "วันนี้ถ้าหนูไม่ล็อคประตูข้างบน จะเจออะไรไม่โอเคนะ" ทหารหนุ่มยกมือไหว้ อ้างว่าจะเข้าห้องตัวเองเฉย ๆ ไม่อะไรขนาดนั้น ตนเองเพิ่งมาอยู่ใหม่ นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ สอบถามไปยังผู้โพสต์ เล่าว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 02.30 น. ตนนอนหลับอยู่ แล้วรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระแทกประตูห้องเสียงดัง ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นลมพัด คิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อฟังไปฟังมา มันรู้สึกว่าเหมือนมีคนบิดกลอนประตู เขย่าและใช้ตัวกระแทกประตูจากด้านนอก เพื่อต้องการจะเปิดเข้ามา ตนเลยตะโกนถามไปว่า "เข้าห้องผิดหรือเปล่า" อีกฝ่ายก็ตะโกนตอบกลับมาว่า "นี่เป็นห้องผม ผมจะเข้าไป" ซึ่งตนก็บอกให้อีกฝ่ายไปดูชื่อหน้าห้อง เพราะว่าห้องนี้ มีชื่อของตนอยู่หน้าห้อง เราให้โอกาสเขาในการทบทวน เผื่อเขาจะเข้าห้องผิดจริง ๆ


จากนั้นตนก็เข้ามาในห้องนอนของตัวเองแล้วล็อกประตูอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้อีกฝ่ายมีสติและเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านไป อีกฝ่ายก็ตะโกนกลับมาอีก บอกว่า "ช่วยผมด้วยครับลูกผมไม่สบาย" ตอนนั้นตนเกือบรู้สึกใจอ่อนเพราะสงสาร แต่เมื่อตั้งสติได้ก็รู้สึกว่าเหตุผลมันย้อนแย้งกันมาก ตอนแรกบอกว่าห้องนี้เป็นห้องของตัวเอง พอต่อมาบอกว่าลูกไม่สบายขอความช่วยเหลือ ตนจึงรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงหยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่งขึ้นมาอัดวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมด และใช้โทรศัพท์อีกเครื่องเพื่อโทรขอความช่วยเหลือ


ตนโทรหาเจ้าหน้าที่ในที่ทำงาน แต่โทรไปหลายสายมาก กลับไม่มีคนรับสายเลย จึงจำเป็นต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับเรื่องไว้เบื้องต้น แต่ตำรวจไม่สามารถเข้ามาหาได้ เพราะเป็นหน่วยงานทหาร ซึ่งตนไม่สามารถโทรแจ้งหน่วยงานอื่นได้ ต้องแจ้งหน่วยงานของตัวเองก่อน ตนพยายามปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่ในตอนนั้นโทรหาหน่วยงานไม่มีใครรับสายเลย จึงตัดสินใจโทรหาตำรวจเพื่อความอุ่นใจ เพราะมันเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวมาก เพราะเขาอยู่หน้าห้องเกือบ 1 ชั่วโมงแล้ว


ตนไม่รู้จะทำยังไง จึงตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็มีพี่ที่รู้จักกันกำลังกลับจากพัทยา ก็ได้ทักมาหาตนบอกว่า จะรีบเข้ามาช่วย และพี่ชายของตนก็มาถึงก่อนเจ้าหน้าที่หน่วย ในตอนแรกพี่ชายมาถึง ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักตน และสอบถามฝ่ายที่มาเคาะประตูหน้าห้องว่า "มีเรื่องอะไรหรือเปล่า" ซึ่งอีกฝ่ายก็โกหกบอกว่า "นี่เป็นห้องเขา มีเด็กต่างด้าวเอากุญแจห้องเขาไป" ซึ่งเขาก็พยายามหาข้อแก้ตัวต่าง ๆ นานา อ้างว่าพยายามจะเข้าห้องของตน เพื่อที่จะปีนข้ามไปห้องของเขา ทั้งที่ห้องของเขาก็ไฟเปิดอยู่ และกระเป๋าเงินต่าง ๆ ก็อยู่ในห้อง ซึ่งมันไม่มีเหตุผลเลย


จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยของตนก็มา จึงได้ออกไปนอกห้อง ก็พบว่าอีกฝ่ายใส่กางเกงเหมือนบ๊อกเซอร์ ซึ่งเจตนาดูแล้วเหมือนต้องการจะเข้ามาที่ห้องของตนแน่นอน และอีกฝ่ายก็ขอโทษตนแบบส่ง ๆ ไม่ได้ดูสำนึกผิดอะไรเลย พยายามจะยัดเงินให้ตนเพื่อขอจบเรื่อง ให้ตนถ่ายรูปคู่กับกระเช้า ซึ่งตนไม่ยอมถ่าย และยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด


ขณะที่หน่วยงานต้นสังกัดของเขา ไม่มีการเข้ามาไกล่เกลี่ยอะไรกับเราเลย บอกเพียงว่า จะดำเนินการตามระเบียบวินัยของทางทหาร ทั้งนี้ตนอยากจะย้ายไปตึกอื่น เพราะว่าห้องของตนยังติดอยู่กับห้องของอีกฝ่าย หวั่นเรื่องความปลอดภัยมาก เพราะตนเป็นนักร้องทหารเลิกงานดึกดื่น เวลาเดินทางกลับมาห้องก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ขณะเดียวกันตนก็ได้ไปแจ้งความเพื่อปกป้องตัวเองเรียบร้อยแล้ว


ต่อมาทหารสาว โพสต์ว่า ตอนนี้หนูต้องการความยุติธรรม คำขอโทษที่สำนึกผิด! จากเจ้าตัว "ไม่ใช่เงิน"!!!! ไม่ใช่การพูดขอโทษแบบส่ง ๆ ไม่สำนึกผิดของคนกระทำผิด ไม่มีคำพูดไหนที่พูดยอมรับผิด (จากเจ้าตัวแบบจริงใจ) ไม่ได้พูดยอมรับว่าตัวเองผิด ยังคงใช้คำว่าเคาะห้องผิด แต่สิ่งที่ทำเขย่าประตูข้างห้องได้ยิน หลักฐานที่แขนเขากระแทกชัดเจนและหนูไม่ได้ต้องการเงิน ต้องการความสำนึกผิดของคู่กรณี และความคุ้มครอง การรับผิดชอบ คำขอโทษที่มันจริงใจ ไม่ใช่การขอโทษส่ง ๆ และมอบกระเช้าเงินเยียวยาแล้วจบ ทั้งที่คนทำไม่สำนึกว่าตัวเองผิดอะไร หนูห่วงชีวิตตัวเอง หนูผิดเหรอค่ะเด็กกำพร้า ผญ. คนเดียว


ทหารสาวยังได้ขอบคุณทุกคนและทุกส่วนที่เป็นห่วง ตนเองยังเสียขวัญอยู่ หวาดระแวง เพราะห้องอยู่ชั้น 5 อยู่คนเดียว ตอนนี้ ผบ.ของหน่วยงานที่ตนทำงาน ได้มาซ่อมประตูให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น และทางสำนักงานได้ดำเนินการที่จะย้ายที่พักที่ใหม่ให้ ทางคู่กรณีได้ถูกกักและย้ายออกจากข้างห้องแล้ว แต่ตอนนี้กำลังจะแจ้งความลงบันทึกประจำวันเบื้องต้น เพื่อป้องกันความปลอดภัยในอนาคต


ตนไม่มีเจตนาที่จะให้เขาออกจากราชการ อยากให้เป็นเคสกรณีตัวอย่างว่า เมาแค่ไหนก็ต้องมีสติ เพราะ 2-3 ชม.น่าจะหายเมาแล้ว แต่ยังพยายามเข้าห้องคนอื่น เราพูดคุยกันด้วยเหตุผลตั้งแต่เมื่อคืน ทั้งที่ตนยังหวาดกลัว ตอนนี้ผู้กระทำผิดเองก็ไม่ได้ขอโทษแบบสำนึกผิด เป็นการขอโทษแบบส่ง ๆ และยังไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด ซึ่งตนมีหลักฐานชัดเจนและต้องการคำขอโทษอย่างจริงใจ ส่วนญาติพี่น้องของคู่กรณีทราบหรือยังก็ไม่รู้ เพราะไม่มีการโทรติดต่ออะไร  


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WXngnG5X1Zs

คุณอาจสนใจ

Related News