‘เดวิด’ ยื่นประกันตัวสู้คดี รับเงื่อนไขเข้ม ห้ามทำงาน-ออกนอกประเทศ รายงานตัวทุก 15 วัน

ภูเก็ตคุมตัว “เดวิด” เข้าห้องกัก ตม.ภูเก็ต ผบช.สตม.ยันถอนวีซ่า "เดวิด" ขึ้นแบล็คลิสต์ -ขับพ้นประเทศ เจ้าตัวมีสิทธิ์อุทธรณ์ ภายใน 48 ชั่วโมง  ล่าสุดยื่นประกันตัวต่อสู้คดี รับเงื่อนไขเข้มห้ามทำงาน ห้ามเดินทางออกนอกประเทศจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พร้อมให้รายงานตัวกับ ตม.จว.ภูเก็ต ทุก 15 วัน


เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.67)  ตำรวจ สภ.ถลาง  นัดนายเดวิดมาพบ เพื่อส่งตัวฟ้องต่อพนักงานอัยการภูเก็ต ในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจแพทย์หญิงธารดาว  โดยหลังจากนายเดวิดมอบช่อดอกไม้และไหว้ขอโทษคนขับรถพยาบาลคู่กรณีอีกคดีแล้ว  เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต  2 นาย  ก็มารอรับตัวนายเดวิด โดยนำเอกสารการเพิกถอนวีซ่าของนายเดวิด มาแสดงให้ดูเพื่อรับทราบและชี้แจงว่ายังสามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ 48 ชั่วโมง พร้อมแนะนำให้นายเดวิด เไปขอวีซ่าต่อสู้คดี ภายใน 48 ชั่วโมงนี้  หากไม่รีบดำเนินการ นายเดวิดก็จะมีความผิดในฐานอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่ากำหนด

หลังจากนั้น ตำรวจ สภ.ถลาง ได้นำตัว นายเดวิด ขึ้นรถเดินทางไปสำนักงานอัยการ เพื่อให้ตรวจสอบสำนวน และสอบปากคำเพิ่มเติม ว่านายเดวิด จะให้การรับสารภาพ ตามสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาหรือไม่ จากนั้นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็รับตัวนายเดวิด เดินทางไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต

เพื่อไปยังสถานที่ควบคุมผู้ต้องกัก  เพื่อรอการส่งกลับที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากนายเดวิดถูกเพิกถอนวีซ่า ซึ่งนายเดวิดยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งในการเพิกถอนวีซ่าได้ พร้อมกับสามารถยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีได้

ทั้งนี้ พลตำรวจโท อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บอกว่า กรณีของนายเดวิด คณะกรรมการจังหวัดฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า นายเดวิด มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคม กระทบต่อความมั่นคง ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และเสนอมติต่อ ตม.ภูเก็ต ให้เพิกถอนวีซ่า ซึ่งผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 เป็นผู้พิจารณา ก็ได้ลงนามอนุมัติให้เพิกถอนวีซ่าของนายเดวิดแล้ว  เนื่องจากพิจารณาในรายละเอียดของพฤติการณ์แล้วเห็นว่า "กระทำความผิดในลักษณะที่เป็นการกระทบต่อสังคมและความสงบสุขมาแล้วหลายครั้ง มากกว่า 3-4 เหตุการณ์ จึงน่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม"

โดยตำรวจ ตม.ภูเก็ต จะแจ้งกับนายเดวิด ว่าสิทธิในการอยู่ในราชอาณาจักรได้หมดลงแล้ว และทำการควบคุมตัว ซึ่งจะต้องดำเนินการภายในเมื่อวานนี้

แต่นายเดวิด ก็สามารถที่จะยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว เพื่อต่อสู้คดีความที่ยังไม่สิ้นสุดได้ และเมื่อประกันตัวไปแล้ว  จะสามารถอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไปได้  จนกว่าคดีความจะสิ้นสุดด้วยวีซ่าต่อสู้คดีความ โดยระหว่างนี้จะต้องมารายงานตัวตามเงื่อนไขการประกันตัวที่กำหนด และเมื่อคดีความสิ้นสุดลงแล้ว ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด นายเดวิดจะต้องถูกควบคุมตัวส่งมาที่ ตม. เพื่อทำการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป และถูกขึ้นแบล็คลิสต์ ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก

นอกจากนี้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังถูกเพิกถอนวีซ่า นายเดวิดก็สามารถใช้สิทธิขออุทธรณ์คำสั่งได้เช่นกัน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้พิจารณาคำร้อง

ต่อมาเวลา 21.00 น. พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.1 ในฐานะรองโฆษก สตม. เปิดเผยว่า ภรรยาของนายเดวิด ได้ยื่นขอประกันนายเดวิด พร้อมวางเงินประกันจำนวน 100,000 บาท  โดยให้เหตุผลว่าอยู่ในระหว่างต่อสู้คดีในชั้นศาล

ภายหลังรับเรื่อง ผบก.ตม.6 พิจารณาอนุมัติให้ประกันตัวได้ 30 วันตามระเบียบ  โดยมีเงื่อนไขดังนี้

1.ต้องพักอาศัยอยู่ในบ้านพักที่มีการยื่นคำร้องไว้กับทาง ตม.จว.ภูเก็ต เท่านั้น

2.ต้องมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุก 15 วัน

3.ห้ามรับจ้าง ทำงาน หรือกระทำการใดอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายเด็ดขาด

4.ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

นอกจากนี้นายเดวิด ยังได้มอบอำนาจให้ผู้แทนยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองอีกด้วย

พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของนายเดวิดที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอน  ตม.จว.ภูเก็ต ไม่ได้มีความกังวลอะไร และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ใช้เป็นเหตุผลในการเพิกถอน ขอยืนยันว่า สตม. ทำตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ โดยยึดถือความสงบสุขของสังคมและประชาชนเป็นที่ตั้ง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Yi2pucLPA_8