ต้องมีคนรับผิดชอบ! ลิงลพบุรีเหิมชิงถุงกับข้าว โดดถีบสาวล้มเข่าหลุด ปรึกษาทนายฟ้องกรมอุทยานฯ

ลิงลพบุรีหัวโจกอาละวาดกระโดดถีบขาแย่งถุงกับข้าวในมือสาววัย 38 ขณะเดินกลับจากตลอด ล้มกระแทกพื้นจนสะบ้าข้อเข่าหลุด เผย เคราะห์ดีหัวไม่ฟาดพื้นหากพิการใครจะรับผิดชอบ หมอให้พัก 15-30 วัน ขาดรายได้ ปรึกษาทนายฟ้องกรมอุทยานฯ

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จ่าไอซ์ ทัพฟ้า ได้โพสต์คลิปภาพหญิงสาวนอนอยู่บนพื้นถนน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ พร้อมโพสต์ข้อความว่า

“ปัญหาจากลิงลพบุรี สุดท้ายก็เกิดครอบครัวผม ทั้งที่ ระวังสุด ๆ แล้ว ลิงตัวใหญ่กระชากของจากมือ จนล้มลง สะโพกกับเข่าน่าจะหลุดครับ” เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 6 มี.ค. 2567 เวลาประมาณ 19.30 น.

โดย กล้องวงจรปิดก่อนเกิด เหตุจะเห็นว่า

ผู้บาดเจ็บ และน้องชาย เดินหิ้วถุงอาหารกลับจากตลาด เพื่อเดินไปขึ้นรถจะกลับบ้าน โดยน้องชายเดินนำหน้า ส่วนพี่สาว (ผู้บาดเจ็บ) เดินตามหลัง

และจะเห็นว่ามีลิง 1 ตัว วิ่งตามหลังมา กระโดดถีบข้อพับขา แล้วแย่งถุงอาหาร ทำให้พี่สาวของผู้โพสต์ล้มลง นอนกับพื้นถนน เพราะได้รับบาดเจ็บ

---------------

ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับ นางสาวอริย์กันตา กาญจนสินเมธา หรือ อ้อม อายุ 38 ปี ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า 

หลังจากซื้อของในตลาดนัดสวนราชา อ.เมือง จ.ลพบุรี เดินหิ้วถุงกับข้าวสองมือ กำลังเดินขึ้นรถ ลิงมันวิ่งจากด้านหลัง กระโดดถีบแบบไม่ทันตั้งตัว จนล้มหงายท้อง

ขณะนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพราะรู้สึกเจ็บชาที่เข่า ขยับตัวไม่ได้เพราะกระดูกขาผิดปกติ จึงบอกน้องชายว่าลุกไม่ไหว จุดที่เกิดเหตุมืดมาก มองไม่เห็นว่าลิงมันจ้องเราอยู่ตรงไหน

ทีแรก ตนเองไม่รู้เป็นลิง แต่คนที่เห็นบอกว่า ลิงกระโจนใส่แย่งของ หลังเกิดเหตุเธอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนจะกลับมาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน โดยหมอสั่งให้พักประมาณ 15-30 วัน

ตอนนี้ รู้สึกผวา ลิงลพบุรีค่อนข้างดุร้าย ชาวบ้านเจอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เจอแต่จอดรถไว้ แล้วลิงมาดึงคิ้วรถ

--------------

ขณะที่ รองผู้ว่าฯ ลพบุรี มาเยี่ยม บอกว่า

จะดูแลประสานโรงพยาบาลให้เป็นเคสพิเศษ ตนไม่รู้ว่า ถ้าไปฟ้องร้องกรมอุทยานฯ จะยุ่งยากหรือไม่ และเสียเวลหรือไม่

“เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง เคราะห์ดีที่หัวไม่ได้ฟาดกับพื้น หากพิการ ใครจะรับผิดชอบ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบ เพราะตอนนี้ขาดรายได้ รวมถึงเร่งแก้ปัญหาลิงที่ก่อปัญหากับชาวบ้าน”

--------------

ด้าน นายธนณัฐฐนันท์ ธีรโกธารภัณธิ์ อายุ 37 ปี คุณไอซ์ (น้องชายคุณอ้อม) กล่าวว่า

ก่อนเกิดเหตุ เขากับพี่สาว เดินทางไปซื้อกับข้าวที่ตลาดนัดสวนราชา อ.เมือง จ.ลพบุรี ระหว่างเดินมาขึ้นรถกลับบ้าน เจอฝูงลิงนั่งอยู่ริมทาง ซึ่งขณะนั้น ทั้งตนและพี่สาว ถือของมาเยอะมาก ทั้ง 2 มือ

โดยตนเดินนำหน้าพี่สาวประมาณ 3 ก้าว จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงพี่สาวร้องกรี๊ด ๆ ๆ ตนหันหลังกลับไป เห็นลิงไม่รู้มาจากไหน มากัน 2 ตัว อีกตัวพุ่งเข้ามากระชากของที่พี่สาวถืออยู่ จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันระหว่างพี่สาวกับลิง จนทำให้พี่สาวล้มลงนอนได้รับบาดเจ็บ จึงรีบโทรแจ้งกู้ภัยฯ ให้มาช่วยเหลือ ขณะนั้น เท่าที่ดู ลิงกระชากแรงมาก

เบื้องต้น พี่สาวได้รับบาดเจ็บสะโพก และหัวเข่าหลุด แต่ไม่ได้หัก เอกซเรย์ 2 ครั้ง และหมอได้ดันกลับเข้าสะบ้าให้ตรง ตอนนี้ใส่เฝือก และกลับมารักษาต่อที่บ้าน

ตอนนี้ พี่สาวอาการปลอดภัย ยอมรับ ยังระแวง และผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ขนาดเป็นคนในพื้นที่ยังกลัว แต่ตรงจุดเกิดเหตุมันมืด อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยทำไฟส่องสว่าง จัดการปัญหาลิงอย่างจริงจัง ช่วยแยกให้หน่อยระหว่างคนที่อนุรักษ์ลิง และคนที่เดือดร้อนจริงๆ

“คนที่อยู่ในพื้นที่ลพบุรีประสบปัญหาทุกวัน ขับรถเข้าไปในเมือง สิ่งที่ต้องระวังคือลิงกระโดดเกาะรถ ดึงคิ้วรถ กัดเด็ก แต่ไม่เป็นข่าว ทำอะไรรุนแรงกับลิงไม่ได้เพราะมีกลุ่มคนรักสัตว์ เราได้แต่ระวัง และดูแลตัวเอง

ส่วนการฟ้องร้องนั้น ฟ้องจังหวัดฯ ไม่ได้ เพราะลิงขึ้นอยู่กับกรมอุทยานฯ เบื้องต้นได้ปรึกษาหารือกับทนายความแล้ว ตนเป็นประชาชนจะไปฟ้องกรมอุทยานอย่างไร ตนอยู่ลพบุรีมา 20 ปี ชินกับการอยู่กับลิง แต่ก็ยังถูกทำร้าย”

--------------

ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณตลาดจุดเกิดเกตุ ได้คุยกับ นางนงนุช บุญถึง อายุ 47 ปี แม่ค้าขายบาร์บีคิว หน้าตลาดนัดสวนราชา กล่าวว่า

ต้องพกไม้ไว้ไล่ลิงตลอด เวลาใครมาจอดรถ หรือกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ก็ช่วยดูลิงให้ บางครั้ง มันชอบทำร้ายคนที่มายืนกดเงิน ถ้าไม่ใช่คนลพบุรีจะไม่รู้เลยว่า เดือดร้อนจริง ๆ แต่ก็สามารถอยู่กับลิงได้ เพราะบ้านเราอยู่ที่นี่ รักและไม่ได้เกลียด แต่มันดื้อสร้างปัญหา

หน่วยงานไหนก็ได้ช่วยหน่อย จนไม่มีใครอยากขายของแล้ว ตึกรามบ้านช่องร้างหมด เห็นแล้วหดหู่ ส่วนตัว ถ้ามีทุนก็อยากจะไปขายของอยู่ที่อื่น ลงทุนขายของ ก็ขายไม่ได้ ไม่มีลูกค้ากล้าจอดรถมาซื้อ ในพื้นที่เหม็นสกปรก

ลิงที่ทำลายคนเจ็บรายดังกล่าวเป็นลิงตึก เพราะจุดนี้ ไม่มีคนให้อาหาร จึงทำให้มันดุร้าย หิวก็แย่งอาหารคน ต่อให้ตีมันก็ไม่ปล่อย ไม่เหมือนลิงพระปรางค์สามยอด และลิงศาลพระกาฬ ที่มีคนนำอาหารไปให้ ยอมรับ ลิงเยอะจนอยู่ยาก

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ไปเจอ รปภ. ธนาคารแห่งหนึ่ง ยืนเฝ้าเวรยาม และคอยรักษาความปลอดภัยของธนาคาร

รปภ.ยังต้องถือปืนปลอมเอาไว้ยิงขู่ลิงแต่ไม่ได้ยิงโดนตัว เพราะลิงมักเข้ามาก่อกวนภายในธนาคาร และแย่งสิ่งของลูกค้า รวมทั้งสมุดบัญชี และบัตรเอทีเอ็มของชาวบ้านที่มายืนกดเงิน รถคันไหนจอดอยู่หน้าธนาคาร มันก็จะรื้อข้าวของ ตนเห็นก็จะช่วยยิงปืนปลอมไล่ พอยกปืนขึ้น มันเห็นก็จะวิ่งหนี
----------------
วานนี้ (7 มี.ค.) นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึง การแก้ปัญหาลิงลพบุรีก่อกวนประชาชน

จากการที่ 3 ฝ่าย ประกอบด้วยกรมอุทยานฯ จังหวัดลพบุรี และเทศบาลเมืองลพบุรี ร่วมทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือทางวิชาการด้านการบริหารจัดการ เพื่อแก้ไขปัญหาลิงในเขตบริเวณเมืองเก่า อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า จะต้องย้ายลิงส่วนหนึ่ง ที่ทำหมันแล้วออกไปนอกพื้นที่ ซึ่งจำนวนขึ้นอยู่กับท้องถิ่น และประชาชนว่า จะย้ายออกไปเท่าไร

ขณะนี้ ทางเทศบาลเมืองลพบุรี กำลังอยู่ในขั้นตอนปรับปรุงที่พักพิงใหม่ของลิง ปรับสภาพภายในให้มีความเหมาะสมกับการอยู่อาศัยของลิง แต่จะใช้เวลาปรับปรุงนานเท่าไรนั้น ขณะนี้ ต้องดูว่า จะมีพื้นที่อื่นที่ย้ายลิงออกไปได้เพิ่มเติมหรือไม่

แต่ทางเทศบาลเมืองลพบุรี ตั้งใจว่า จะเริ่มย้ายลิงบางส่วนที่ทำหมันออกไปในเดือนมีนาคมนี้ แต่ต้องเตรียมการให้รอบคอบว่า การย้ายไปพื้นที่ใหม่ จะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ใหม่ ดังนั้น ทุกอย่างจะต้องมีความพร้อมก่อนทำการย้าย

นอกจากนั้น ทางลพบุรีกำลังจะเตรียมพื้นที่รองรับลิงเพิ่มเติมเป็นเฟสที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบรั้วว่า แบบไหนจะเหมาะสมกับการอยู่อาศัยของลิง

ขณะเดียวกัน กรมอุทยานฯยังได้ไปพบ พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ที่กำลังจัดทำเมืองวานร ให้เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของลิง ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการทดลองระบบ เพื่อให้ลิงสามารถอาศัยอยู่ได้ตามธรรมชาติ ในส่วนนี้ถ้าเฟส 1 เรียบร้อยดี หลวงพ่ออลงกต ก็มีแนวคิดจะสร้างเมืองวานร เฟส 2 และ 3 ต่อไป

ส่วนสิ่งที่กรมอุทยานฯเร่งทำขณะนี้ คือการทำหมัน และหาที่รองรับลิงเพิ่มเติม ในสถานที่ที่ลิงสามารถเรียนรู้การอยู่อาศัยได้ตามธรรมชาติ โดยการนำลิงไปอยู่ในพื้นที่กว้าง และมีคอก ลิงไม่สามารถออกมาได้ แต่อยู่ได้ตามธรรมชาติ โดยจะไปอยู่ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าต่าง ๆ

สำหรับจำนวนลิงในเมืองเก่าลพบุรี ขณะนี้ มีทั้งหมดประมาณ 2,200 - 2,300 ตัว หากเปรียบเทียบกับปี 2561 ถือว่า จำนวนขณะนี้ ได้ลดลงแล้ว เพราะว่าอัตราทำหมันถือว่าแล้วเสร็จไปประมาณ ร้อยละ 80

ส่วนการจะเหลือลิงไว้ในพื้นที่เท่าไร อยู่ที่ประชาชน และท้องถิ่นว่า ต้องการให้เหลือลิงอยู่เท่าไร ขึ้นอยู่กับมาตรการดูแลจัดการในพื้นที่

นายเผด็จ (ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)กล่าวถึงกรณีที่เกิดปัญหาลิงแย่งอาหาร แย่งสิ่งของของชาวบ้าน ว่า

ลิงทำไปตามสัญชาตญาณเพราะลิงเป็นสิ่งมีชีวิต มีการเรียนรู้ตามสัญชาตญาณ เพราะก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีปัญหาลิงมาแย่งสิ่งของจากมือคน แต่ช่วงหลัง มีคนใจบุญ นำอาหารมาให้ลิง โดยไม่วางไว้ในจุดที่จัดเตรียมไว้ให้ ทำให้ลิงเรียนรู้ และเข้าใจว่า ทุกคนที่ถือของมาจะนำอาหารมาให้ตนเอง จนกลายเป็นการแย่งสิ่งของตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการจดจำ และเรียนรู้ว่า มนุษย์เป็นผู้ให้อาหาร จึงเกิดพฤติกรรมการแย่งสิ่งของตามสัญชาตญาณ ดังนั้น สิ่งสำคัญต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้อาหาร และไม่จำเป็นต้องแสดงตัวว่า 'เราเป็นผู้ให้อาหาร' เพียงแค่นำอาหารไปให้ในจุดที่มีการเตรียมไว้ก็เพียงพอแล้ว แต่ช่วงหลังมนุษย์ติดโชเชียลมีเดีย เวลานำอาหารมาให้ลิง ต้องมีการถ่ายร็ให้เห็นลิงว่าเราเป็นคนนำอาหารมาให้ จนทำให้พฤติกรรมลิงเปลี่ยนไป

สุดท้าย ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า แนะนำประชาชนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับลิง ในช่วงรอการเคลื่อนย้ายลิงออกไปนอกพื้นที่ ว่า

ขอให้ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว เรียนรู้พฤติกรรมของลิง เหมือนกับเรียนรู้พฤติกรรมของภัย ถ้าเรารู้ว่าตรงไหนเสี่ยง น่ากลัว เราจะไม่เอาตัวไปเสี่ยง เช่นเดียวกับเวลาเราเจอลิง เราก็ต้องรู้ว่าเสี่ยง ก็ต้องเลี่ยง หรือถ้าจำเป็นต้องเดินผ่าน ก็ต้องเตรียมตัว หามาตรการป้องกัน มีไม้ หรืออุปกรณ์ป้องกันตัว

และที่สำคัญประชาชนหรือนักท่องเที่ยว ต้องปรับพฤติกรรมการให้อาหารลิง ถ้ามนุษย์ไม่ปรับเปลี่ยนการให้อาหาร ลิงก็จะไม่เปลี่ยนนิสัย เพราะตามนิสัยแล้ว ลิงถ้ากินอิ่ม ก็จะไม่อาละวาด และจะไม่ไปรบกวนคน

--------------------------------------------------