สังคม

ป.ป.ช. ขอสอบเอง 'บิ๊กโจ๊ก' พัวพันเว็บพนันมินนี่ เหตุ 'ตำแหน่งระดับสูง-ความผิดร้ายแรง'

โดย nattachat_c

5 มี.ค. 2567

923 views

ป.ป.ช. รับคดี “บิ๊กโจ๊ก” พัวพันเว็บพนันออนไลน์มินนี่ไว้สอบเอง ไม่ส่งคืนตำรวจ เหตุ ผู้ถูกกล่าวหามีตำแหน่งระดับสูง-ความผิดร้ายแรง พร้อมเรียกคืนสำนวน “พ.ต.อ.ภาคภูมิ” กลับมาพิจารณาด้วยเนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน


'บิ๊กเต่า' พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก ได้เผยว่า คดีเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ มีสำนวนดังนี้ 


สำนวนที่ 1

ผู้ต้องหารวม 61 คน (ตำรวจ + ประชาชน) ความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท โดย ป.ป.ช. มอบให้ทาง บก.ปปป. ดำเนินการ


สำนวนที่ 2

กรณีกล่าวหา 'บิ๊กโจ๊ก' + ลูกน้อง รวม 5 นาย ด้าน ป.ป.ช. รับคำร้องไว้ดำเนินการสอบสวนเอง

-------------------

วานนี้ (4 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการประชุมพิจารณากรณีพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) มีบันทึกขอคืนสำนวนคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กับพวก ถูกกล่าวหาพัวพันกับเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 149 ซึ่งเป็นสำนวนคดีที่ 2 ที่ บก.ปปป.ส่งไปยัง ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.66 กลับไปดำเนินการ


เวลา 16.00 น. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า ที่ประชุมมีมติรับสำนวนดังกล่าวไว้ดำเนินการเอง ซี่งไม่มีการส่งสำนวนคืนให้กับทางตำรวจตามที่มีการร้องขอ เนื่องจากว่า เป็นผู้ถูกกล่าวหามีตำแหน่งระดับสูงกว่าระดับผู้อำนวยการ รวมทั้งการถูกกล่าวหาความผิด เป็นความผิดประเภทร้ายแรง ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่สมควรต้องดำเนินการเอง พร้อมกับเรียกสำนวนเดิม หรือสำนวนแรกกลับมาทำ นั่นคือ สำนวนคดี พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัยกับพวก เนื่องจากว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน


ส่วนกระบวนการต่อจากนี้ หาก ป.ป.ช.รับมาพิจารณา แล้วหากพบว่าข้อมูลชัด พนักงานสอบสวนในสำนวนคดีแรก ของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ หากตำรวจดำเนินการสั่งฟ้องแล้ว ป.ป.ช. ก็ต้องดำเนินการสั่งไต่สวน โดยคณะการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะไต่สวน เพราะสำนวนแรกจะเกี่ยวข้องกับสำนวนที่ 2 นั่นคือสำนวนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์


เมื่อถามว่าทาง ป.ป.ช.หนักใจหรือไม่เนื่องจากสังคมมองว่าเรื่องนี้เป็นการสกัดกันของตำรวจ แล้วในส่วนของ ป.ป.ช. ต้องรับหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิด นายนิวัติไชย กล่าวว่า “ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเรื่องนี้อยู่ในหน้าที่ของ ป.ป.ช. ตามข้อกฎหมาย ป.ป.ช.ต้องรับสำนวน เพราะ เขาบอกว่าให้ ป.ป.ช.ทำเรื่องร้ายแรง ถ้าเรื่องไม่ร้ายแรงค่อยมอบหมายไป แล้วเรื่องนี้จากรายงานเพิ่มเติม ปรากฏว่าพบผู้ต้องหาเพิ่ม เป็นระดับ รอง ผบ.ตร. ประกอบกับข้อกล่าวหาร้ายแรง รวมทั้งบอกว่ามีบัญชีม้า วงเงิน 200-300 ล้าน”


ส่วนกรอบเวลานั้น เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า ต้องดูข้อมูลก่อนว่าตำรวจมีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ หากชัดเจนเพียงพอก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่เห็นสำนวนว่าตำรวจทำอะไรไปบ้าง แต่ในส่วนของกรอบเวลาการไต่สวน คณะกรรมการไต่สวนจะทำให้แล้วเสร็จตามกฎหมาย 2 ปี แต่โดยหลัก ป.ป.ช. จะทำให้เสร็จภายใน 1 ปี

------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/anNPGD54_wk

คุณอาจสนใจ

Related News