อุทาหรณ์! ลูกอมติดคอลูกชาย 3 ขวบ ตาหเ็นทันรีบเรียกแม่ช่วยชีวิตรอดหวุดหวิด

วันที่ 4 มีนาคม 2567 มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งใช้ชื่อว่า NOng SAii โพสต์ข้อความว่า “นาทีชีวิตของรถบัสพอเกิดเหตุกับลูกตัวเองแม่แทบไม่มีสติเลย ขอบคุณป้าแม่บ้านคุณยายหลวยสังเกตเห็นอาการผิดปกติได้เร็ว และคุณตาผู้มีสติมากๆ เหตุเกิดจากลูกอมตะโกนแล้วหลุดลงคอ”


พร้อมกันนี้ก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอเด็กชายคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นอยู่บนเก้าอี้ โดยมีชายสูงอายุซึ่งเป็นคุณตานั่งอยู่ด้วย ต่อมามีหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาพูดคุย คุณตาจึงเดินเข้าไปในบ้าน ขณะนั้นเด็กชายมีอาการเหมือนหายใจไม่ออก หญิงวัยกลางคนจึงถามว่าเป็นอะไร ประกอบกับคุณตาเดินกลับมาที่เดิมจึงรีบเข้าไปดูเด็กชาย สักพักได้มีหญิงสาววิ่งออกมาจากบ้าน พร้อมกับตะโกนว่าลูกอมน่าจะติดคอ


จากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวกับคุณตาก็ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลและช่วยเหลือเบื้องต้นจนกระทั่งลูกอมหลุดออกมา ทำให้เด็กชายคนดังกล่าวรอดตายอย่างหวุดหวิด


หลังจากคลิปนี้เผยแพร่ไปได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะแสดงความห่วงใย และชื่นชมคุณตากับคุณแม่ที่ได้ช่วยเหลือจนปลอดภัย


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบคุณณัฐคฤตา หรือคุณทราย อายุ 30 ปี ชาว ม.8 บ้านท่ากกแก ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเปิดเป็นรีสอร์ต เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 1 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ตนเองกับลูกชายวัย 3 ขวบ ชื่อว่าน้องรถบัส นั่งที่เก้าอี้หน้าบ้านกับคุณตา เพื่อกินขนมและลูกอมตามประสา และได้พูดหยอกล้อวิ่งเล่นอยู่ในบ้านตามปกติ


ต่อมาลูกชายได้นำลูกอมมา 1 เม็ด ให้แม่แกะให้กิน ซึ่งตนก็ลืมไปว่าปกติจะแบ่งครึ่งให้ลูกกิน แต่ไม่ได้เอะใจ สักพักแม่บ้านรีสอร์ตและคุณตาได้สังเกตเห็นอาการผิดปกติคือ น้องรถบัสไอและเอามือพยายามล้วงในคอ ไม่สามารถพูดออกมาได้ เมื่อสังเกตเห็นดังนั้น จึงได้พากันอุ้มขึ้นและหาทางช่วยเหลือหลาน และตนเองซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพ เห็นเหตุการณ์ได้ทำการช่วยชีวิตลูกด้วยการกระทุ้งตามหลักการแพทย์ จนในที่สุดลูกอมเม็ดดังกล่าวได้หลุดออกจากคอ น้องรถบัสปลอดภัย ทำเอาทุกคนถึงกับโล่งอกกับเหตุการณ์นาทีชีวิตที่เกิดขึ้น


ตนจึงอยากขอฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับผู้ปกครองคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กให้ตระหนักถึงเรื่องนี้เวลาทานอะไรที่ชิ้นเล็กๆ ให้ระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องภัยที่ใกล้ตัวมาก หากช่วยเหลือไม่ทันภายใน3-4นาที อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ หากเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นควรจะตั้งสติ และช่วยเหลืออย่างถูกวิธีโดยเร็ว ซึ่งกรณีของน้องรถบัสนี้ก็เกือบมีการสูญเสียโชคดีที่มีผู้ใหญ่อยู่ใกล้