สังคม

แห่สักการะ 'พระบรมสารีริกธาตุ - พระอรหันตธาตุ' แน่นสนามหลวง วันสุดท้าย - 'เชียงใหม่' เตรียมจัดขบวนใหญ่รอรับ

โดย nattachat_c

4 มี.ค. 2567

214 views

ปชช.กว่า 5 หมื่นคน สวมชุดขาวแห่เดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ที่ท้องสนามหลวงเป็นวันสุดท้าย ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรับพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2567 เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


วานนี้ (3 ก.พ. 67) เวลา 18.30 น.บรรยากาศวันสุดท้าย การเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของ 'พระสารีบุตร - พระโมคคัลลานะ' เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ที่ประดิษฐานบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เนืองแน่นด้วยพุทธศาสนิกชน


โดยพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมากราบสักการะ สามารถรับดอกไม้ และพวงมาลัยฟรี จากเจ้าหน้าที่ที่บริเวณประตูทางเข้า บางคนเตรียมนํามาเอง แต่ไม่อนุญาตให้จุดธูปเทียน ซึ่งพุทธศาสนิกชนได้เดินเวียนวนขวา 3 รอบ รอบมณฑปฯ พร้อมอธิษฐาน จากนั้น นําดอกไม้ และพวงมาลัย ไปวางไปยังจุดต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา


ตลอดทั้งวันแม้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว แต่พลังความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ต่างไม่ย่อท้อ ส่วนใหญ่แต่งกายนุ่งขาวห่มขาวมุ่งหน้าเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ จนเต็มพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่จิตอาสา เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยดูแลอำนวยความสะดวกผู้เข้ามาสักการะอย่างเป็นระบบ

-----------------

ต่อมา เวลา 20.00 น. มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ลงจากมณฑปที่ประดิษฐาน ขึ้นขบวนรถตู้เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร เพื่อเตรียมไปประดิษฐานที่หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่


ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมพิธีด้วย โดยระหว่างที่มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ลงจากมณฑปประดิษฐานท้องสนามหลวงนั้น พุทธศาสนิกชนได้นั่ง และยืนน้อมจิตภาวนา


นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา ระบุว่า

วันที่ 3 มี.ค. 2567 เป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ประชาชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ  ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งได้อำนวยความสะดวก และดูแลประชาชนที่เข้ามาสักการะอย่างดีที่สุด ทั้งในส่วนการจัดการพื้นที่ด้านนอก และด้านใน


โดยเฉพาะการจัดระบบผู้เข้าสักการะ การแจกดอกไม้ ธูปเทียน และการจัดระบบเข้าชมนิทรรศการภายในพื้นที่ท้องสนามหลวง ทั้งนี้ จากการประมาณการประชาชนที่เข้าสักการะตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.- 3 มี.ค. มีจำนวนกว่า 9 แสนคน


ขณะที่ การสัญจรเข้ามาภายในพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลจัดการจราจรเพื่อเร่งระบายรถให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยตั้งแต่ช่วงเย็นยันค่ำ ถนนราชดำเนินมุ่งหน้าสนามหลวงรถติดยาวเหยียด โดยรอบตั้งแต่ถนนรอบสนามหลวงไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เกิดการติดขัดจรเป็นอัมพาต และเส้นทางก่อนขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า

---------------

ทีมข่าวได้พูดคุยกับประชาชนที่มาสักการะ โดยนางสาวพิไลยวรรณ ศรันย์พานิช อายุ 60 ปี ระบุว่า


ตนมาจากราชบุรี กับกลุ่มเพื่อน และหลาน 3 คน รู้สึกปลื้มปีติมาก เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ตนมาเห็นคนเยอะขนาดนี้ เชื่อว่าประเทศไทยน่าจะเป็นหน่วยกล้าตายประเทศแรก ที่จะเป็นศูนย์กลางศาสนา สืบทอดพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ถึง 5,000 ปี


นางสาวพิไลยวรรณ กล่าวอีกว่า อัฐิของพระอัครสาวก เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก อย่างพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ท่านเป็นอัครสาวก เป็นบุคคลสำคัญในพระพุทธศาสนา สามารถสืบทอดพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้


วันนี้ เห็นลูกหลานจูงมือผู้เฒ่าผู้แก่มาปลื้มใจมาก เมื่อเช้า ตนก็ได้พาคณะทัวร์มาไหว้สักการะไปแล้ว โดยไม่คิดเงิน เพื่ออยากให้พวกเขามาเห็น การที่เราเห็นคนเยอะ มันเกิดความศรัทธา เกิดพลัง


นายวชิรพงศ์ สุขมณีประเสริฐ อายุ 35 ปี กล่าวว่า


ตนอยู่ปทุมธานี ได้ไปรับแม่จากลพบุรี เพื่อมาสักการะ รู้สึกปลาบปลื้มที่เห็นทุกคนตั้งใจมาสักการะ มองว่า ไม่ได้มีมาบ่อย ตอนเช้า ก็เพิ่งไปทำบุญยกช่อฟ้าที่วัดดำรงบุญ จ.ลพบุรี แล้วตนก็รีบมาที่นี่ต่อเลย ไม่คิดว่าจะทัน ถือเป็นพระมหากรุณาที่คุณที่ในหลวง ร.10 เมตตาด้วย ที่ทานทรงขอพรให้ทุกคนมีความสุข และมีสุขภาพแข็งแรง

------------------

ใน วันนี้ (4 มี.ค. 67) จะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่


โดยช่วงเวลา 17.00 น. จังหวัดเชียงใหม่จะจัดริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยจัดเป็นขบวนเครื่องสักการะล้านนา ขบวนช่างฟ้อนพื้นเมือง ขบวนธงชาติไทย ธงชาติอินเดีย ธงธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี ขบวนรถบุษบกประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ขบวนเฉลิมพระเกียรติฯ ข้าราชการ จิตอาสา ศาสนิกสัมพันธ์ และศาสนิกชน เคลื่อนขบวนจากบริเวณประตูช้างค้ำมายังหอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ขึ้นสู่มณฑปที่ประดิษฐานบนหอคำหลวง


จากนั้น ในวันที่ 5 - 8 มีนาคม 2567 จะเปิดให้ศาสนิกชนเข้ากราบสักการะ โดยจะเปิดรับบัตรคิวรอบเช้าเวลา 08.00 น. จำนวนไม่เกิน 3,000 คน และรอบบ่าย เวลา 12.00 น. จำนวนไม่เกิน 3,000 คน ณ บริเวณเต็นท์ลงทะเบียน วงเวียนราชพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์


และในทุก ๆ เย็น เวลา 18.00 – 19.00 น. จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้กับศาสนิกชน ที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ซึ่งสามารถไหว้สักการะรอบ ๆ หอคำหลวงได้ และจะปิดการเข้าสักการะในเวลา 21.00 น.

------------------

ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 10 - 13 มีนาคม ณ วัดมหาวนาราม จ.อุบลราชธานี


ส่วนภาคใต้ วันที่ 15 - 18 มีนาคม ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่


ก่อนอัญเชิญกลับไปประดิษฐานยังสาธารณรัฐอินเดีย.

------------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/XEZl56epf3g






คุณอาจสนใจ

Related News