หนุ่มเสพยาในวัดคลั่ง วิ่งเข้าโบสถ์ ปีนองค์พระประธาน พลาดถูกเศียรพระเสียบอก ดับสยอง

เมื่อวานนี้ (27 ก.พ.67)  เวลา 13.00 น. ตำรวจสายตรวจตำบลหนองไผ่แก้ว สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี  ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีชายคุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายพระในวัดและวิ่งเข้าไปในโบสถ์  ขังตัวเองเอาไว้ พร้อมทำลายข้าวของในโบสถ์ เหตุเกิดที่วัดนิมมานราษฏร์บำรุง (หนองปรือ)

พ.ต.อ.สมชาย ทิวงษา ผกก. สภ.บ้านบึง  สั่งกำลังเสริมเข้าตรวจสอบเหตุ เนื่องจากเกรงว่า ผู้ก่อเหตุจะมีอาวุธและไม่สามารถเปิดประตูโบสถ์ได้  จนกระทั่งหน่วยสนับสนุนนำโล่และไม้ง่ามค้ำยันมาถึงที่เกิดเหตุ  โดยแบ่งกำลังตำรวจ ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร ตชด.และพลเมืองดี เป็น 4 ชุด กระจายกำลังโอบล้อมโบสถ์ พร้อมกับตะโกนเรียกผู้ก่อเหตุ หรือ นายปรีชา ให้เปิดประตูออกมา แต่เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ  เจ้าหน้าที่จึงค่อยๆ ใช้ไม้ง่ามดันประตู  และพบว่าประตูหน้าต่างถูกล็อกจากข้างใน  

ผ่านไปหลายนาที เจ้าหน้าที่ลองย้อนมาเปิดประตูหลังโบสถ์อีกครั้ง  คราวนี้สามารถเปิดประตูได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้โล่บังพร้อมกับไม้ง่าม เดินเข้าไปเปิดประตูโบสถ์อีกฝั่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่อีกชุดเข้ามาในโบสถ์ พร้อมร้องเรียกผู้ก่อเหตุ  แต่ก็ยังเงียบ  

กระทั่งเจ้าหน้าที่เดินมาถึบบริเวณองค์พระประธาน ก็พบภาพน่าตกตะลึง นายปรีชา นอนหงายสิ้นลมหายใจ โดยมีพระพุทธรูปพระพุทธสิหิงค์ ทั้งองค์ เสียบปักคาหน้าอก ในลักษณะเศียรพระพุทธรูปปักเข้าไปบริเวณลิ้นปี่ นอนจมกองเลือด เสียชีวิตในลักษณะตายตาไม่หลับ

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ  พบเศษแก้วแตกกระจัดกระจายบริเวณหน้าพระประธาน โต๊ะหมู่บูชาที่ตั้งวางพระพุทธสิหิงค์เอียงล้มมาทางด้านหน้า เชิงเทียน พานพุ่ม ล้มระเนระนาด ส่วนที่กำแพงด้านหลังองค์พระประธาน พบคราบรอยเท้าเปรอะผนัง คาดว่า ผู้ตายใช้เท้ายันกำแพง และเอามือยันองค์พระประธาน ค่อยๆ ไต่ขึ้นด้านบน แล้วคว้าเอาเศียรองค์พระประธาน จนส่วนยอดด้านบนหลุดร่วงลงมา ส่วนตัวนายปรีชาก็พลัดตกลงมา โดนเศียรพระพุทธสิหิงค์ที่ตั้งอยู่ข้างๆองค์พระประธาน เสียบเข้าหน้าที่อก โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์ เข้าตรวจสอบสภาพศพ พบว่า ผู้ตายถูกแทงเข้าที่หัวใจและปอด เสียชีวิตทันที  

จากการสอบถามอดีตพระเบส พระลูกวัด ซึ่งถูกจับลาสิกขา เพราะเสพยาบ้า เล่าว่า เมื่อวันมาฆบูชาที่ผ่านมา นายปรีชามาหาตนที่กุฏิ  มาขออาศัยนอนพัก ซึ่งก็ปกติดีทุกอย่าง แต่เช้าวานนี้ (27 ก.พ.67) ผู้ตายทะเลาะกับตน แล้วเอาหลอดไฟมาฟาดแขนตน ตนจึงวิ่งหนีออกมานอกกุฏิ เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระรูปอื่นๆ ส่วนผู้ตายวิ่งหนีเข้าไปในโบสถ์ ปิดประตูไม่ให้ใครเข้าไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบว่าเสียชีวิต ส่วนตัวพระเบสนั้น ถูกจับได้ว่า เย็นวันที่ 26 ก.พ.เสพยาบ้าเข้าไป 1 เม็ด รวมทั้งค้นในกุฏิพบยาบ้า จึงถูกจับลาสิกขา

พระครูอนุชา วังสระธรรมโม เจ้าอาวาสวัด  เปิดเผยว่า ได้ยินแต่เสียงเอะอะโครมครามอยู่ในโบสถ์  สักพักเสียงเงียบหายไป กระทั่งมาทราบข่าวว่านายปรีชาเสียชีวิต  ซึ่งตัวนายปรีชานั้น เคยบวชเป็นพระมาก่อน แต่บวชที่วัดอื่น จากนั้นมาขอจำวัดที่วัดนิมมานราษฏร์บำรุงแห่งนี้เพียงช่วงเวลาสั้น ตอนที่ญาติมาทำบุญอัฐิ หลังทำบุญเสร็จ ก็กลับไปยังวัดที่บวช และทราบว่าเพิ่งจะสึกได้ประมาณ 1 เดือน  ส่วนอดีตพระเบส บวชที่วัดแห่งนี้ได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนกรณีอดีตพระเบสที่เสพยาบ้า ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

ต่อมาช่วงเย็น  พระมงคล ภูริปัญโญ เลขานุการเจ้าคณะตำบลหนองอิรุณ  มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า พระพุทธสิหิงค์ ที่แทงอกนายปรีชา ถูกอัญเชิญกลับมาที่วัดแล้ว โดยไม่มีร่องรอยความเสียหาย ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ มีขนาดความกว้าง 8 นิ้ว สูง 12 นิ้ว มาประดิษฐานในพระอุโบสถในช่วงที่มีงานยกช่อฟ้า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2561


ส่วนองค์พระประธานนั้น นอกจากยอดเศียร ที่หลุดออก ที่องค์พระด้านหลัง มีร่องรอยเปรอะเปื้อนจากการที่นายปรีชาปีนป่ายองค์พระ

สอบถามนายชาญ  ชาวบ้านในพื้นที่  เปิดเผยว่า พระพุทธสิหิงค์รูปนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพศรัทธากันมาก ที่นายปรีชาถูกเศียรพระแทงจากตาย คาดว่าอาจจะเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ

ด้านพระมงคล ภูริปัญโญ เลขานุการเจ้าคณะตำบลหนองอิรุณ กล่าวว่า ช่วงที่ผู้ตายขังตัวเองอยู่ในโบสถ์นั้น ตัวท่านเองได้มาช่วยเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้เปิดประตูออกมามอบตัวด้วย แต่ไม่มีเสียงตอบรับ และตัวท่านกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งพระรูปอื่นๆในวัด ก็ไม่ทราบว่า ที่นายปรีชาเข้าไปขังตัวเองในโบสถ์นั้น ทำเพื่ออะไร  ส่วนที่ชาวบ้านมองว่านายปรีชาถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษนั้น ท่านมองว่า คงเป็นเรื่องของความประมาทมากว่า จึงทำให้เสียชีวิตแบบนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/054fcG2jt6M