ไฟป่าเชียงใหม่ปะทุอีกรอบ! เร่งระดมดับไฟ - อช.ทับลาน ลาดตระเวนป่าจุดเสี่ยง หวั่นไฟป่าต่อเนื่อง

ไฟป่าอุทยานแห่งชาติออบหลวงยังรุนแรง พบมีรวม 191 จุด มีพื้นที่ถูกไฟไหม้แล้ว 33,000 ไร่แล้ว  ล่าสุดไฟปะทุอีกช่วงค่ำ เปลวเพลิงแดงฉานไปทั่ว


เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.67)  สถานการณ์ไฟป่าบริเวณผาดำ อุทยานแห่งชาติออบหลวง  ติดถนนสาย 108 ฮอด-แม่สะเรียง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่  ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง  เนื่องจากสภาพพื้นที่ป่าประมาณ 340,000 ไร่ ซึ่งร้อยละ 77 เป็นป่าเต็งรังและภูเขาสูง  ยากต่อการเข้าถึงและดับไฟ ประกอบมีใบไม้แห้งสะสมอยู่จำนวนมาก เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟป่าไหม้ลามอย่างรวดเร็ว  แม้หลายวันที่ผ่านมา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่  ระดมกำลังจากทุกพื้นที่เข้ามาช่วยสกัดไฟตามจุดสำคัญ  ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ แต่ยังไม่สามารถดับไฟได้ เพราะไฟเกิดขึ้นหลายจุดกระจายออกไป และยังพบมีคนลักลอบเข้าไปจุดไฟเผาป่าเพื่อหาของป่าล่าสัตว์อยู่อย่างต่อเนื่อง


วานนี้ (26 ก.พ.67) มีการใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าโปรยน้ำดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ตามภูเขาสูง ที่ห่างไกล และเป็นหน้าผาสูงชัน ที่กำลังภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง โดยเป็นปฏิบัติการต่อเนื่องเป็นวันที่ 3  โดยเฉพาะบริเวณผาดำ  ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยากลำบากต่อการเข้าถึง หากเดินเท้า จะต้องใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง  เจ้าหน้าที่จึงใช้เฮลิคอปเตอร์ตักน้ำจากอ่างห้วยสะแพด ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง  รวมถึงอ่างเก็บน้ำใกล้เคียง  มาดับไฟป่าในอำเภอฮอด


รวมทั้งประสานรถแบ็คโฮ ขุดแอ่งน้ำในลำน้ำแม่แจ่ม  เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ตักน้ำได้สะดวกขึ้น  และสนธิกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฝ่ายปกครอง ทหาร ผู้นำชุมชนและชาวบ้าน 250 นาย ลงพื้นที่เร่งช่วยสกัดไฟ โดยเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง ดับไฟป่าให้จบโดยเร็ว หากพบคนจุดไฟเผาป่าอีกให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด


เจ้าหน้าที่ ระบุว่า  น่าเศร้าใจมาก  เพราะเมื่อดับไฟได้แล้ว แต่ก็ยังมีการลักลอบเผาเพิ่มขึ้นมาอีก  มีคนแอบเข้าไปจุดไฟขยายแนวเขตเพิ่มไปอีก และตอนนี้จุดตักน้ำเริ่มแห้งขอดแล้ว จนต้องใช้รถแบ็คโฮมาขุดร่องน้ำให้ลึกขึ้น เพื่อตักน้ำได้สะดวกขึ้น


สำหรับข้อมูลการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 พบมีรวม 191 จุด  มีพื้นที่ถูกไฟไหม้แล้ว 33,000 ไร่  และเมื่อวานนี้ (26 ก.พ.67) อำเภอฮอดตรวจพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นใหม่อีก 42 จุด


ด้านสถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงบ่ายวานนี้ (26 ก.พ.67) พบ 2 อำเภอ จาก 25 อำเภอ ที่ค่า PM2.5 เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน คือ อำเภอฝางและอำเภอไชยไชยปราการ วัดได้ 87 และ 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ นอกนั้นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม ระหว่าง 54 – 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

---------------------------------------------

อุทยานแห่งชาติทับลานลาด ตระเวนจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง หลังเกิดไฟป่าต่อเนื่อง

ส่วนที่ จ.นครราชสีมา  เจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังไฟป่า ยังคงต้องลาดตระเวนโดยรอบพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน  โดยจุดที่มีความเสี่ยงสูงบริเวณภูเขา 3 ลูก ประกอบด้วย เขากะบุด เขาจอมทอง และเขาคอกช้าง  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะลาดตระเวนระยะทางกว่า 50 กิโลเมตรเป็นประจำทุกวัน  เพื่อป้องกันการลักลอบเผาและเกิดไฟป่าซ้ำ  เนื่องจากตอนนี้สภาพอากาศร้อนและแล้งจัด  ทำให้เชื้อไฟอย่างเศษกิ่งไม้และใบไม้แห้งกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ 

อีกทั้งเขาทั้ง 3 ลูกนี้ แม้ว่าจะอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติทับลาน แต่ก็มีสภาพเป็นภูเขาที่แยกออกจากผืนป่าทับลานอย่างชัดเจน  และมีพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอยู่โดยรอบ สามารถเข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าได้ง่ายเช่นเดียวกัน  โดยเฉพาะสาเหตุของการจุดไฟเพื่อหาของป่าอย่างผักหวาน และแมงจีนุน เป็นต้น


สำหรับพื้นที่เสี่ยงจุดนี้ มีเนื้อที่ป่าอนุรักษ์ที่อยู่ในการดูแลรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติทับลาน รวมประมาณ 30,000 ไร่  เป็นป่าที่อนุญาตให้ชาวบ้านได้เข้ามาใช้ประโยชน์ ด้วยการเก็บหาของป่า ตามมาตรา 65 ได้ แต่ในห้วงที่ผ่านมา ผืนป่าบริเวณนี้กลับถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ลักลอบเผาป่าเป็นประจำทุกปี ทำให้ต้องสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าไปจำนวนมาก เฉพาะในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา


เกิดเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปีนี้ ที่เขาคอก ยาวนานต่อเนื่องกว่า 3 วัน สร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 2,000 ไร่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษต่อเนื่องไปจนกว่าจะแน่ใจว่าจะไม่เกิดไฟป่าซ้ำอีก โดยได้มีการจัดเวรยามลาดตระเวนทั้งโดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์และการเดินเท้า ซึ่งประเมินว่าจะต้องเฝ้าระวังกันอย่างเข้มข้นไปจนถึงเดือนเมษายนนี้