นร. ม.2 ไร้ที่พักอาศัย มาขอพักพิงที่บ้านเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ไม่กล้ากลับบ้านเพราะถูกพ่อทำร้าย

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.00 น. บ้านหลังหนึ่งในตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ไม่ได้เข้ามาเรียนหนังสือตั้งแต่ ม.2 เทอมต้น เพราะสาเหตุที่พ่อแม่แยกทางกัน และแม่ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 และพ่อก็มีอารมณ์ร้อนตีน้องอย่างรุนแรงอยู่เสมอ จึงประสานไปยัง ทางผู้ใหญ่ นายเชาวลิต เป็นผู้ใหญ่หมู่ที่ 4 ต.ท่าข้าม ทาง นางสาววรรณเพ็ญ นักพัฒนาชุมชน อบต.ท่าข้าม ทาง ร.ต.ต พิษณุ ปุระณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ เข้าตรวจสอบและเข้าช่วยเหลือน้อง นร. ม.2 ให้เข้าพักที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร พร้อมให้มารับตัวในเบื้องต้น

นางสาวนวลอนงค์ อายุ 36 เป็นแม่ของเพื่อน นร.ม.2 ที่ให้ที่พักพิงมาตลอด 1 อาทิตย์ เล่าว่า ได้มีพ่อของน้องมาติดตามน้องและบังคับให้น้อง นร.ม.2 กลับบ้าน แต่ท่ากลับบ้านทีไรก็จะถูกทำร้ายอยู่เรื่อยๆ จึงมาพักอยู่ที่บ้านตลอดและได้ให้อาหารและทีพักอาศัยอยู่กับลูกชายที่เรียนอยู่ทีโรงเรียนเดียวกัน จากกล้องวงจรปิดเห็นพ่อของน้อง นร.ม.2 มา ถามหา น้องและยังพกพาอาวุธมาด้วย พอมีอาวุธมีดมาด้วยทางเราก็กลัว และก็ข่มขู่ เลยคิดหาทางออกที่ดีจึงถามน้อง นร. ม.2 น้องก็บอกว่าไม่มีที่ไปเช่นกัน จึงติดต่อเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ

นางสาววรรณเพ็ญ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีน้องผู้ชายที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ และก็ไม่เลี้ยงดู และถูกทำร้ายเป็นบ้างครั้ง ทำร้ายระดับไหมนั้นยังไม่แน่ใจ แต่น้องเขาไม่ประสงค์จะอยู่กับพ่อ เพราะคิดว่าพ่อเสพ และก็ทำร้ายรุนแรง จริงๆ น้องต้องการอยากอยู่กับแม่ แต่แม่ได้หนีไป เลยออกมาอยู่กับเพื่อนบ้านเพื่อนเป็นร้านเสริมสวยโดยมีคุณแม่ของเพื่อนเป็นข่างเสริมสวย

โดยมาอยู่กับเพื่อนไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ยกเว้นโทรศัพท์ 1 เครื่อง มาอาศัยอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ จริงๆทางร้านก็ให้อยู่ได้แต่ ทางพ่อของน้องนักเรียนมาโวยวาย กลัวว่าจะเกิดการทำร้ายร่างกาย ให้เกิดอันตราย แก่เด็กและ ตัวเจ้าของร้าน จึงได้แจ้งประสานเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ

โดยประสานไปทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้ง สภาพของน้องไปแล้ว ประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ของบ้านพักเด็กและครอบครัวจะเดินทางมารับน้อง ไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวชั่วคราว เพื่อสืบเสาะประวัติ และติดตาม พ่อ แม่ หรือ ญาติ ผู้ปกครองมาคุยรายละเอียด อีกครั้งหนึ่ง ตามความประสงค์ของเด็ก ในวันนี้เด็กยินยอมที่จะไปเพราะในวันนี้เด็กไม่มีที่จะไป สอบถามถึงการเรียนทราบว่าไม่ไปโรงเรียนตั้งแต่ ม.2 เทอมต้น หยุดยาวมาเลย และต่อไปจะต้องจัดหาโรงเรียนให้น้องได้เรียนหนังสือต่อไป