สังคม

ตำรวจแถลงโค่น 8 เครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้า 25 ล้านเม็ด-ไอซ์ 1,000 กก.

โดย gamonthip_s

26 ม.ค. 2567

437 views

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มุ่งเน้นในการเร่งรัดดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและเป็นภัยสังคม  


วันนี้ 26 ม.ค.67 เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมแถลงผลการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์สินรายสำคัญ 8 คดี ผู้ต้องหา 16 คน ของกลางยาบ้า 25 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,000 กก. และยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 15 ล้านบาท


คดีแรกสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พ.ค.66 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านพักของ “เครือข่ายนายจรัญ” สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ของกลางยาไอซ์ 36 กิโลกรัม พร้อมยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบได้กว่า 41 ล้านบาท จากนั้นได้ขยายผลพบเครือข่ายชื่อ“หมูอ้วน” มีความเชื่อมโยงกับ “เครือข่ายนายจรัญ” จึงได้ติดตามพฤติการณ์พบว่า น.ส.คณาปภัสฯ หรือ หมูอ้วน และน.ส.อรัญญาฯ ติดต่อสั่งยาบ้าจากผู้ค้าในประเทศเพื่อนบ้านให้ลำเลียง จากภาคเหนือมาส่งที่บ้านพักย่านพื้นที่ปทุมธานี กระทั่งกลางดึกวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหา ขณะขับรถกระบะซุกซ่อนยาบ้า 1,240,000 เม็ด มาส่งให้กับน.ส.คณาปภัส และน.ส.อรัญญา บริเวณหน้าหมู่บ้านกรีนวิลล์ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมกันนี้ได้ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบจำนวน 4 รายการ อาทิ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 1 หลัง, ทาวเฮาส์ 2 ชั้น 1 หลัง, รถกระบะ และรถยนต์ อย่างละ 1 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 15 ล้านบาท


คดีที่ 2 ตำรวจตรวจสอบพบเครือข่ายลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยลำเลียงจากพื้นที่กทม. ไปส่งกลุ่มเครือข่ายภาคใต้ ต่อมากลางดึกวันที่ 9 ม.ค.67 พบรถเป้าหมายเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เข้ามายังกทม. เพื่อรับยาเสพติดนำไปส่งยังพื้นที่ภาคใต้ กระทั่งเช้ามืดวันที่ 10 ม.ค.67 พบรถมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ขับเข้าไปจอดเติมน้ำมันภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.กุยบุรี ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นและจับกุม นายเชษฐ์พงษ์ หรือโจ้ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถได้บริเวณหน้าร้านกาแฟ พร้อมยาบ้าจำนวน 1.6 ล้านเม็ด อยู่บริเวณด้านหลังภายในรถยนต์ ส่วนรถยนต์สำรวจเส้นทางหลบหนีไปได้  


คดีที่ 3 ตำรวจสืบทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายมักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่กทม. ไปส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ทางภาคใต้ และว่าจ้างกลุ่มคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ให้ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดกระทั่งเที่ยงคืนของวันที่ 15 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว พบความเคลื่อนไหวในเขตประเวศ กทม. ต่อเนื่องถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) มุ่งหน้าถนนพระราม 2 และตัดเข้าถนนเพชรเกษม พบรถยนต์หมายเลขทะเบียน 7กณ-15xx กทม. และ รถยนต์หมายเลขทะเบียน 6กว-90xx กทม. ลักษณะบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนัก ขับตามกันมา


กระทั่งเวลา 03.35 น. รถทั้ง 2 คัน ขับเข้ามาในพื้นที่อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่รถหมายเลขทะเบียน 6กว-90xx เข้ามาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อภายในบริเวณปั๊มน้ำมันปตท.ปราณบุรี ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ซึ่งในระหว่างนั้นผู้โดยสารคนที่นั่งข้างคนขับรถได้เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ แต่คนขับเห็นตำรวจจึงได้ขับรถเร่งเครื่องหวังขับหลบหนี ก่อนจะถูกสกัดรถไว้ได้ และทราบชื่อภายหลังคือ นายปิยะวัตร์ เป็นผู้ขับขี่ และควบคุมตัวนายจักรพันธ์ ได้ภายในบริเวณร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะนำตัวมาตรวจค้นรถ พบวัตถุอยู่ในกระสอบสีขาว 8 กระสอบ ภายในมีของลักษณะเป็นแพ็คจำนวน 320 แพ็ค พบเป็นยาบ้า รวม 3,200,000 เม็ด ส่วนรถยนต์อีก 1 คัน สามารถติดตามจับกุมได้บริเวณริมชายหาดหน้าโรงแรมชะอำวิลล่า พบน.ส.เกศิณี และน.ส.วรรณวิสา นั่งรับประทานอาหารอยู่บริเวณริมชายหาด สอบสวน น.ส.เกศิณี สารภาพว่ารถยนต์คันดังกล่าว เป็นของผู้ว่าจ้างให้ตนขับมาเพื่อสำรวจเส้นทาง


คดีที่ 4 สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด 2 เครือข่าย เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 และ 15 ม.ค.67 ตำรวจจึงขยายผลทราบว่ายาเสพติดมาจาก จ.บึงกาฬ ลำเลียงส่งปลายทางกทม. ต่อมาวันที่ 24 ม.ค.67 พบความเคลื่อนไหวว่าเครือข่ายนี้จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นตอนในอีกครั้ง โดยใช้รถ 3 คัน ขับในลักษณะติดตามกันมาจาก จ.บึงกาฬ, จ.สกลนคร และจ.อุดรธานี มุ่งหน้าถนนหมายเลข 2 ไปทาง จ.ขอนแก่น ก่อนจะสกัดจับได้บริเวณริมถนนมิตรภาพใกล้หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ต่อเนื่องบริเวณภายในปั๊มพีที สาขาโนนสูง 3 พบรถกระบะ มีนายนัฐพงศ์ อดีตนักแข่งรถสนามภูมิภาค เป็นผู้ขับขี่ และมีเด็กอายุ 12 ปี ซึ่งพ่อ และแม่เลี้ยงที่หลบหนีการจับกุม ขณะนี้ถูกออกมายจับ ได้บังคับให้โดยสารมาด้วยเพื่อป้องกันการตรวจค้นของตำรวจ ซึ่งผลการตรวจค้นพบยาบ้าถูกบรรทุกอยู่ท้ายรถ รวม 12,000,000 ล้านเม็ด ส่วนรถสำรวจเส้นทาง มี น.ส.สุรีวรรณ และรถปิดท้ายขบวนมีนายเทวินทร์ ขับขี่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด


คดีที่ 5 จากการสืบสวนของตำรวจ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา พบเครือข่ายยาเสพติดชาวเขาเผ่าลาหู่ เครือข่ายของนายจะสอ และนายจะติ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่าย และเตรียมวางแผนการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก กระทั่งกลางดึกของวันเดียวกันพบรถกระบะต้องสงสัยขับออกจากบ้านผาใต้ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางพื้นที่แนวชายแดน และพบรถยนต์ 3 คัน ขับกลับมาที่บ้านผาใต้ อีกครั้งในลักษณะขับตามกันมา ซึ่งตำรวจสังเกตพบรถหนึ่งในนั้น บริเวณกระบะท้ายมีสิ่งของบรรทุกอยู่เต็ม ท้ายกระบะและมีผ้าใบพลาสติกสีดำคลุมปิดไว้ จากนั้นได้ขับมุ่งหน้าพื้นที่บ้านแม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตำรวจที่ติดตามจึงสกัดรถไว้ แต่ผู้ขับขี่รถกระบะทั้ง 2 คัน อาศัยความชำนาญพื้นที่ขับรถหลบหนีไปได้


ก่อนจะมาพบรถกระบะ ถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านกลางทุ่ง ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ส่วนรถกระบะหมายเลขทะเบียน ผท 29xx เชียงราย (สวมทะเบียน) ผู้ขับขี่อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง บริเวณริมถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านใกล้ฌาปนสถาน บ้านริมกก ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ผลการตรวจค้นรถพบยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด  


คดีที่ 6 วันที่ 24 ธ.ค.2566 ขณะที่ตำรวจ ปส.4 ประจำด่านตรวจยานพาหนะชุมพรได้สนธิกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร กระทั่งพบรถกระบะ 4 ประตู ต้องสงสัยจึงเรียกเข้าด่านตรวจเพื่อตรวจสอบ พบนางปราณี เป็นผู้ขับขี่ และมีนางสาวดวงกมล โดยสารมาด้วย ตรวจค้นรถเบื้องต้นพบยาบ้า ในลักษณะเป็นก้อนสีขาวถูกซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของรถ รวมจำนวน 500,000 เม็ด นอกจากนี้ได้ตรวจสอบข้อมูล นางปราณี พบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ด้วย


คดีที่ 7 จากการสืบสวนข้อมูลนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ ปส.4 ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 พบว่า เครือข่ายค้ายาเสพติด มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติด จากนอกพื้นที่นำส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพบความเคลื่อนไหวซึ่งเชื่อว่ากำลังเดินทางไปรับยาบ้าเพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้า กระทั่งวันที่ 18 ธ.ค.66 ได้ลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถกระบะ มุ่งหน้า จ.สงขลา ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติด อ.จะนะ จึงเฝ้าระวังรถเป้าหมาย กระทั่งพบรถขับเข้าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นพบนายมาหามะเป็นผู้ขับขี่ และน.ส.ฮัสเมาะ นั่งข้างคนขับ จากการสอบถามทั้งคู่ยอมรับว่าในรถมียาบ้าซุกซ่อนอยู่จริงและยินดีให้เจ้าหน้าที่นำรถไปเข้าเครื่องเอกซเรย์ ผลตรวจพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในแกลลอน และในช่องลับที่ดัดแปลงเป็นตู้ลำโพง รวมยาบ้าจำนวน 594,000 เม็ด  


คดีที่ 8 วันที่ 7 ม.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.4 ได้รับการประสานจาก ตำรวจ บก.ปส.3 ว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางนำส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ และกำลังผ่าน จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้า จ.สงขลา กระทั่งรถเป้าหมาย ขับมาถึงแยกควนมีด มุ่งหน้า อ.จะนะ จว.สงขลา ตำรวจจึงตั้งด่านเพื่อตรวจค้น พบนายมุสตอปา เป็นผู้ขับขี่ และนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์ พบไอซ์บรรจุในพลาสติกใสประทับอักษร VERY GOOD จำนวน 40 กระสอบ รวม 1,000 กก. ซุกซ่อน อำพรางทับด้วยกระสอบอาหารปลา สอบปากคำ นายมุสตอปา สารภาพว่า ไอซ์ของกลางจะนำไปส่งให้ผู้ค้าในพื้นที่ อ.ตากใบ จว.นราธิวาส


สำหรับเดือน มกราคม 2567 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ จำนวน 15 คดี ผู้ต้องหา 31 คน ของกลาง ยาบ้า 24,959,815 เม็ด, ไอซ์ 1,001 กก., เฮโรอีน 39.43 กก., โคเคน 3.655 กก., คีตามีน 0.098 กก., ยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 112.17 ล้านบาท และขยายผลดำเนินคดีเครือข่ายยาเสพติดในข้อหาสมคบสนับสนุน จำนวน 18 คดี

คุณอาจสนใจ