ลูกสาวร้องแม่สูญเงินให้สำนักงานปฏิบัติธรรมไปแล้วกว่า 1 แสนบาท อ้างนำไปตัดกรรม

วันนี้ (24 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวจังหวัดหนองคาย ได้พูดคุยกับนางสาวเอ นามสมมติ อายุ 33 ปี ชาวหนองคาย ที่ร้องขอให้หมอปลาช่วยเหลือ โดยบอกว่าแม่ของตนถูกสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคายหลอกให้ทำพิธีตัดกรรมทำให้แม่สูญเงินไปแล้วประมาณ 1 แสนบาท และยังนำทองคำไปขายเอาไปทำพิธีดังกล่าวด้วย

นางสาวเอ เล่าว่า เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว แม่ของตน อายุ 56 ปี ได้ไปเข้าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคายใกล้บ้าน โดยที่สำนักแห่งนี้จะไม่มีพระสงฆ์ มีเพียงคนที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์เป็นผู้ชาย และผู้ที่อยู่ในสำนัก แม่ของตนได้ไปอยู่ กิน นอน ปฏิบัติธรรมที่สำนักแห่งนี้ไม่กลับบ้าน มีโทรศัพท์พูดคุยกัน โดยเมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่แม่บอกให้ตนไปสำนักปฏิบัติธรรมบอกว่าตนมีกรรม ต้องทำพิธีตัดกรรม ตอนนั้นตนทำตามเพราะอยากให้แม่สบายใจ จ่ายค่าตัดกรรมไป 1,500 บาท

หลังจากนั้นแม่ก็บอกว่า แม่มีกรรมจากพฤติกรรมของลูกสาว อ้างว่าตนติดยา เล่นการพนัน ถ้าแม่ไม่ทำพิธีแก้กรรมก็จะมีหายนะ อาจถึงตาย ซึ่งทราบมาว่าแม่ต้องจ่ายเงินค่าทำพิธีตัดกรรมหลายครั้ง ครั้งละหลักพัน หลักหมื่นบาท เช่น เจ้าสำนักอ้างว่าแม่ผูกดวงกับพ่อแล้วแม่จะตาย แม่ต้องมีสามีใหม่ ค่าทำพิธีเอาสามีใหม่ 5,000 บาท ค่าตัดกรรมในรายการต่าง ๆ หมดเงินไปแล้วกว่าแสนบาท และยังนำทองคำไปขายด้วย

ตนกับญาติพี่น้องเป็นห่วงกลัวแม่จะถลำลึกไปมากกว่านี้ จึงได้ขอความช่วยเหลือจากหมอปลามือปราบสัมภเวสีให้ช่วยเหลือ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ และนำคลิปเหตุการณ์ที่แม่ตนเป็นคนถ่ายในช่วงปีใหม่ที่มีการร้องเพลงกันในสำนักปฏิบัติธรรมไปเผยแพร่ จนกระทั่งเที่ยงคืนที่ผ่านมาแม่ และคนที่อยู่ในสำนักมาที่บ้านใช้รถยนต์มา 3 คัน ประมาณ 13 คน มาบอกว่าตนใช้สารเสพติดแล้วไปพูดให้ข่าวโกหกกับนักข่าว เอาคลิปร้องเพลงไปออก คนในคลิปก็ไปแจ้งความกับตำรวจพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ บอกว่าเป็นผู้เสียหาย แม่ยังบอกให้ตนแก้ข่าวว่าตนพูดโกหกใส่ร้ายแม่ และสำนัก ซึ่งตนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหก ตนไม่ได้เสพยาเสพติด และครอบครัวอยากให้แม่ถอนตัวออกมา ไม่อยากให้ถูกหลอกเช่นนี้