สังคม

ผู้ว่าฯ ยันโรงงานพลุสุพรรณฯ ขออนุญาตถูกต้อง ชาวบ้านเผยนาทีบึ้มสนั่น เสียงดังจนเหมือนอวัยวะภายในสั่น

โดย nattachat_c

18 ม.ค. 2567

291 views

นายกฯ โทรสั่งการจากดาวอส เร่งช่วยคนเจ็บเหตุโรงงานพลุระเบิดที่สุพรรณฯ รายงานอัปเดตทุกชั่วโมง อนุทินกำชับเคลียร์พื้นที่ให้ EOD เก็บกู้วัตถุอันตรายให้ปลอดภัย สั่งจังหวัดดูแลครอบครัวคนตาย และสอบสวนต้นตอเหตุสลด


จากกรณี วานนี้ (17 ม.ค. 67) เวลาประมาณ 15.30 น. ได้เกิดเหตุโศกนาฏกรรม เมื่อ 'โรงงานผลิตพลุระเบิด' ในจังหวัดสุพรรณบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย 


นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังลงพื้นที่ตรวจสอบว่า 


จากการตรวจสอบแล้ว โรงงานนี้ได้ขออนุญาตต่อนายทะเบียนอำเภอเมืองสุพรรณบุรีอย่างถูกต้อง เป็นใบอนุญาตแบบปีต่อปี


การขออนุญาตของผู้ประกอบการรายนี้ เป็นการทำแบบเครือญาติ ซึ่งจุดที่เคยเกิดเหตุเมื่อประมาณ 2 ปี ที่แล้ว ก็อยู่ตรงนี้


ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับทางอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ถ้าแบบนี้ คนที่ขออนุญาตฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมีการพิจารณาอย่างเข้มงวด และต้องมีการตรวจสอบ  เพื่อเอามาใช้ประกอบการพิจารณาในการขออนุญาตในครั้งต่อไป


ทั้งนี้ การขออนุญาตครั้งต่อไปต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น เพราะตอนเขามาขอเป็นแบบเครือญาต คือ ปีนี้ลูกขอ ปีหน้าแม่ขอ เป็นใบอนุญาตแบบปีต่อปี จึงต้องมีการตรวจสอบแบบเข้มข้น โดยโรงงานนี้อยู่กลางทุ่งนา จึงไม่ทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย มีแต่คนที่เข้าไปอยู่ในโรงงานที่เสียชีวิตทั้งหมด

-------------

ทีมข่าวได้คุยกับ คุณลุงสอ เสือนุ้ย อายุ 70 ปี ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า


ช่วงเกิดเหตุนั้น ตนเป็นคนไปดูที่เกิดเหตุเป็นคนที่สอง หลังจากเพื่อนบ้านไปดูเป็นคนแรกคือคนไปเติมน้ำมันเครื่องสูบน้ำ แต่ตนเองไปพบเป็นคนที่สอง หลังจากได้ยินเสียงระเบิดดังมาก


เสียงดังจนทำให้รู้สึกเหมือนว่าอวัยวะภายในตนเองสั่นสะเทือน ตอนนั้น หวาดกลัวมาก แต่ก็พยายามมองหาว่ามีใครตกอยู่ในนา หรือคันนาหรือไม่ เพื่อที่จะได้ช่วยกัน แต่ก็ไม่พบใคร ทุกอย่างเงียบกริบ และมองไม่เห็นโรงงานอีกแล้ว โรงงานหายไปจากแรงระเบิด ซึ่งโรงงานแห่งนี้ผลิตพลุที่เป็นลักษณะคล้ายกับลูกไข่


โดยคุณลุงสอได้นำพลุที่โรงงานนี้ผลิตมาให้ทีมข่าวดู เป็นลักษณะคล้ายรูปไข่ขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่าระเบิดปิงปอง ใช้สำหรับการไล่สัตว์ ไล่นก ไล่ช้าง และมีหลายขนาด


ลุงสอ ยังเล่าอีกว่า ปกตินั้น ทางโรงงานจะให้ชาวบ้านที่รับงานนำส่วนด้านบนของระเบิดปิงปอง หรือลูกไข่ มาใส่ชนวนที่บ้าน และนำใส่กระสอบไปส่งโรงงาน จะได้กระสอบละ 200 - 400 บาท ก็มีชาวบ้านนำมาทำที่บ้าน


ตนเองก็เคยทำ และเมื่อนำส่งโรงงานแล้ว ทางโรงงานก็จะกรอกดินปืนใส่เข้าไปด้านล่างแล้วพันพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นขั้นตอนผลิตแล้ว


โดยลุงสอ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตอนระเบิดเมื่อปี 2565 ก็ไม่คิดว่าจะมาเปิดโรงงานได้ซ้ำอีก แต่พอเปิดก็มีชาวบ้านมาทำงานในโรงงาน โดยบางคนก็ทำได้ไม่นานก็ลาออกไป บางคนเมื่อเสร็จสิ้นหน้านาก็จะไปทำงานในโรงงานนี้


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน คนเคยเห็นหน้ากันต้องมาสูญเสียชีวิต แล้วยังมาเสียชีวิตในสภาพที่บางคนชิ้นส่วนอวัยวะแทบจะไม่เหลือ


หากเป็นไปได้ อยากขอให้มีการตรวจสอบโรงงานอย่างละเอียด และไม่ต้องมีโรงงานผลิตพลุอยู่ใกล้กับชุมชนอีก เพราะโรงงานนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้ว


อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะมันอันตรายเป็นอย่างมากเวลาที่มันระเบิด คือระเบิดตูมเดียวพังราบไปทั้งหมดเลย

-------------

ทีมข่าวได้คุยกับ นายนันทวุฒิ คงวงศ์ อาสาสมัครสมาคมร่วมใจสวนแตงสุพรรณบุรี เล่าว่า


ได้เข้ามาช่วยที่โรงงานแห่งนี้เป็นครั้งที่สอง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 ตอนนั้น เกิดการระเบิด มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย และบาดเจ็บสามราย ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้


แต่ครั้งนี้พบว่า ผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ราย ซึ่งเป็นภาพที่สะเทือนใจมาก เพราะแต่ละคนสภาพร่างกายเละแหลกเหลว


เมื่อเข้ามามาถึงโรงงานตอนแรก ได้ยินเสียงระเบิดหนึ่งครั้งก็ตกใจ และคอยดูเรื่องเปลวไฟ เมื่อรถดับเพลิงมาถึงก็ฉีดน้ำระงับไฟไม่ให้ลุกไหม้


หลังจากนั้น ก็เริ่มสำรวจว่าตามคันนาต่าง ๆ ว่ามีผู้รอดชีวิต หรือผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ แต่ก็ไม่พบผู้รอดชีวิต หรือผู้บาดเจ็บแม้แต่รายเดียว พบแต่เพียงชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ และบางร่างก็มีศีรษะ มีแขน แต่ไม่มีลำตัว // บางร่างก็มีลำตัว แต่ศีรษะไม่มี


และทุกร่างจะถูกไฟไหม้เกรียม ซึ่งเป็นภาพที่สลดหดหู่มาก ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุระเบิดซ้ำสอง ซึ่งความรุนแรงครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมาก และสูญเสียครั้งใหญ่ของจังหวัดสุพรรณบุรี

---------------

วานนี้ (17 ม.ค. 67) ระหว่างเข้าร่วมประชุม เวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม ที่ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์ถึง พล.ต.ท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการภาค 7 ติดตามสถานการณ์โรงงานพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งสร้างความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก


โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเหตุการณ์ด้วยความเป็นห่วง พร้อมสอบถามจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ นายกฯ ได้แสดงความกังวลต่อผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ขอให้ช่วยนำคนบาดเจ็บออกมาจากพื้นที่ระเบิด กำชับให้นำส่งคนเจ็บส่งโรงพยาบาล เตรียมสถานที่รองรับผูับาดเจ็บ ขอให้ดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย การเปิดโรงงานถูกต้องหรือไม่ ให้เป็นเรื่องในลำดับต่อไป


และถ้ามีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือ ขอให้แจ้งมายังสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลพร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขอให้รายงานความคืบหน้าอย่าต่อเนื่องทุกชั่วโมง


และหลังจากที่ นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยัง ผบช.ภ.7 แล้ว ยังได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี โดยโพสต์ข้อความว่า “ฝากท่านผู้ว่าฯสุพรรณบุรีช่วยเหลือทันที และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และญาติผู้เสียชีวิตด้วยครับ”

-------------

ที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และวัดโรงช้างสวนแตง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี


นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญในขณะนี้คือการดูแลเยียวยาจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต


ได้ส่งทีม MCATT จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และโรงพยาบาลในเครือข่าย เข้าประเมินอาการ และให้การดูแลเยียวยาจิตใจแล้ว พร้อมทั้ง ให้กรมสุขภาพจิตร่วมให้การสนับสนุน


ส่วนเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิต จะมีทีมนิติเวชของโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เป็นหน่วยดำเนินการ

-------------











รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/SBsejPHEYv4

คุณอาจสนใจ

Related News