จบดรามา หมู่บ้านโวยเสียงเป่านกหวีด แจงแล้วทั้ง 2 ฝั่ง โรงเรียนปรับใช้สัญญาณมือ-ธงสี

จากกรณีประธานนักเรียนรุ่น 17 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านคลองสามวา โพสต์เฟซบุ๊กถึงปัญหาชุมชนกับโรงเรียน ว่าโรงเรียนที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ดำเนินกิจการมานานกว่า 30 ปี ผลิตเด็กให้มีความนรู้เป็นผู้ใหญ่ในอนาคตนับไม่ถ้วน แต่มามีปัญหา คือ ครูเป่านกหวีดจัดการจราจร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเช้าและเย็น แต่กลับมีคนในหมู่บ้านซึ่งตั้งมาทีหลังโรงเรียน มาร้องเรียนว่า นกหวีดเสียงดัง เสียสุขภาพจิต ให้เปลี่ยนไปใช้สัญญาณไฟแทน

ซึ่งก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ในทำนองว่า ก่อนจะมาซื้อบ้านก็น่าจะทราบดีว่าอยู่ติดกับโรงเรียน ซึ่งก็จะมีเสียงรบกวนตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นในช่วงเปิดเทอม นอกจากนี้ การเป่านกหวีดก็เป็นมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับนักเรียน รวมทั้งจัดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนในชุมชนด้วยเช่นกัน ซึ่งในทางกลับกัน ช่วงที่มีการก่อสร้างหมู่บ้าน ทางโรงเรียนและนักเรียนก็ได้รับผลกระทบ ทั้งจากรถบรรทุกที่เข้ามาถมดิน หรือเสียงต่าง ๆ แต่โรงเรียนไม่เคยร้องเรียนและปรับตัวเมื่อพบกับการเปลี่ยนแปลง


เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย พบว่ารั้วโรงเรียนอยู่ห่างกับรั้วของหมู่บ้าน ประมาณ 8 เมตรเท่านั้น สอบถามเบื้องต้นกับคุณครูเวรประจำโรงเรียน ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.66 ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่อยู่ ติดภารกิจภายนอก และไม่ได้มอบหมายให้ใครให้ข้อมูลในเรื่องนี้ ส่วนที่โรงเรียนช่วงนี้เป็นช่วงสอบกลางภาค นักเรียนจึงแบ่งสอบกับหยุดอ่านหนังสือในแต่ละชั้นเรียน จึงหยุดเป่านกหวีดในช่วงนี้


ส่วนที่เป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์นั้น ครูบอกว่า ความจริงแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน โรงเรียนกับหมู่บ้านอยู่กันด้วยดีตลอดมา การทำหนังสือของหมู่บ้าน เป็นเพียงการขอความร่วมมือจากลูกบ้านเพียง 1 หลังเท่านั้น เดิมโรงเรียนจะเป่านกหวีดช่วงจราจรหนาแน่น รถเยอะ ตอนเช้าเวลา 06.00 น. - 07.30 น. และช่วงเย็นเวลา 14.30 น. - 15.00 น. แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ลดเสียงการเป่าลง


ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนิติบุคคลของหมู่บ้าน บอกตรงกันว่า หมู่บ้านกับโรงเรียนไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน อยู่กันด้วยดีตลอดมา การขอความร่วมมือให้โรงเรียนลดการใช้นกหวีดลง เป็นเพียงความต้องการของลูกบ้านเพียงหลังเดียว การมีข่าวดรามาออกไป ทำให้ลูกบ้านคนอื่น ๆ กลายเป็นจำเลยของสังคม ถูกโจมตีไปด้วย ดังนั้นจึงอยากให้สังคมเข้าใจ และจบดรามาเรื่องนี้ว่า ลูกบ้านหลังอื่น ๆ ไม่ได้มีปัญหา ส่วนบ้าน 1 หลังที่ทำหนังสือมานั้น ล่าสุดก็ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว ซึ่งโครงการได้ทำความเข้าใจกับลูกบ้านหลังนี้แล้ว


ล่าสุด ทางโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงการใช้นกหวีด ว่า จุดที่เป่านกหวีด เป็นทางสามแยกและนักเรียนมาจากหลายทิศทาง ต้องข้ามถนนและสุ่มเสี่ยงอันตราย ทั้งนี้ การอยู่ร่วมกันของโรงเรียนและชุมชนโดยปราศจากความขัดแย้งเป็นสิ่งสำคัญ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ใช้สัญญาณมือหรือธงสี ในการอำนวยความสะดวกจราจร และใช้นกหวีดเท่าที่จำเป็น เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/T9uKYLYsi4o