สังคม

ทะเลคลั่ง! 3 วัน เรือล่ม 7 ลำ เร่งค้นหา 2 ผู้สูญหาย จาก 'เรือสวรรค์ทัวร์' - ด้านเรือประมงลูกเรือหายทั้งลำ

โดย nattachat_c

25 ธ.ค. 2566

151 views

วานนี้ (24 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุการณ์ที่เรือนำเที่ยวแบบดำน้ำลึก (Scuba diving) ชื่อ 'เรือสวรรค์ทัวร์' ได้ประสบเหตุจมในทะเล บริเวณเกาะตอรินลาห่างจาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ทางทิศใต้ 4 ไมล์ทะเล พื้นที่ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา


โดยเรือดังกล่าวได้นำนักท่องเที่ยวแบบดำน้ำลึก พร้อมลูกเรือ รวมจำนวน 18 คน ออกจากท่าเรือทับละมุ เมื่อเช้าวันที่ 22 ธันวาคม 66 เพื่อไปดำน้ำในบริเวณดังกล่าว และได้เกิดเหตุอับปางลงเมื่อคืนที่ผ่านมา


แต่ทั้งนี้...มีเรือประมงพรสุปราณี 9 ได้ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และลูกเรือ ไว้ได้ 16 คน และส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือคุระบุรีเรียบร้อยแล้ว


ปัจจุบันยังสูญหาย 2 คน

เป็นชาวต่างชาติ 1 คน ชื่อ MISS.YOUNG MILLICENT MARGARET AMANDA JANE อายุ 56 ปี สัญชาติ สหราชอาณาจักร


ชาวไทย 1 คน ชื่อ นางสำเนียง ชัยชนะ อายุ 67 ปี เป็นพนักงานประจำเรือ


โดยมีการระดมค้นหาทั้งทางเรือ และทางอากาศยาน พบแพชูชีพที่คาดว่าเป็นเรือที่อับปาง ที่บริเวณเกาะตาชัย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 ไมล์ทะเล


ล่าสุด ทางศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ศรชล.ภาค 3 ได้บินค้นหาผู้ประสบภัยสูญหายจำนวน 2 คนจากกรณีเรือ สวรรค์ทัวร์ อัปปาง บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ ซึ่งการบินค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล บริเวณโดยรอบ ก.ตาชัย และทางทิศใต้ของหมู่ ก.สุรินทร์ โดยอ้างอิงเส้นทางบินจาก SAR MAP จากนั้นทำการบินค้นหาด้วยวิธี expanding search บริเวณทิศตะวันตกของหมู่เกาะสุรินทร์ โดยมีรัศมี 15 ไมล์ทะเล จากจุดคาดการณ์ที่ได้รับจาก SAR MAP ตามห้วงเวลาที่ทำการบินค้นหาอากาศยาน โดยสภาพอากาศมีเมฆบางส่วนทัศนวิสัย 5-7 กม.ผลการปฏิบัติไม่พบผู้สูญหาย สามารถติดต่อสื่อสารกับเรือ ต.995 ได้ แผนการบินค้นหา การพยากรณ์ทิศทางการเคลื่อนที่(SAR MAP)

----------------

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อ.คุระบุรี จ.พังงา ทาง นางสุนีย์ ปานเพ็ง อายุ 43 ปี ลูกสาวผู้สูญหาย ซึ่งชื่อว่า นางสำเนียง ชัยชนะ อายุ 67 ปี เป็นแม่ครัวพนักงานประจำเรือ พร้อมญาติ ได้เดินทางมารอฟังข่าวการค้นหานางสำเนียง ชัยชนะ ที่ยังสูญหายหลังจากเหตุเรือล่มในทะเล บริเวณเกาะตอรินลาห่างจาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ทางทิศใต้ 4 ไมล์ทะเล ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา


โดยมีนายวิชญุตม์ ทองแป้น นายอำเภอคุระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคุระบุรี ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจญาติ ๆ ที่มานั่งรอฟังข่าวการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งทางญาติได้แต่ภาวนาขอให้พบแม่ครัวที่ยังสูญหายโดยในวันนี้ครอบครัวได้เดินทางมาจากตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง ระยะทาง 100กิโล เพื่อรอฟังข่าวการค้นหาและได้นำกับข้าวอาหารที่ทำมาจากบ้านมานั่งรับประทาน


ทางนางสุนีย์ ปานเพ็ง อายุ 43 ปี ลูกสาวแม่ครัวผู้สูญหายจากเรือจม กล่าวว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทราบข่าวว่าเรือ ก็คิดว่าคุณแม่ไม่น่าจะรอด เพราะคุณแม่ว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งตอนนี้ตัวเองก็หวังว่าจะได้เจอ


โดยปกติคุณแม่เป็นแม่ครัวอยู่ใน ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านมา 3-4 ปี แล้ว แต่คุณแม่ว่ายน้ำ ซึ่งปกติเรือจะออกไปหลายวันกว่าจะกลับเข้ามาฝั่ง วันนี้ที่พาญาติมานั่งรอคาดว่าทางเจ้าหน้าที่จะค้นหาพบโดยเร็ว อย่างไรก็ตามต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาใต้ท้องเรือที่จมในทะเล เพราะกลัวว่าจะติดอยู่ในเรือ ซึ่งผู้ช่วยของแม่ครัว ขณะเกิดเหตุตอนนั้น แม่อยู่ข้างห้องกัปตันชั้น 3 และเรือก็จมอย่างรวดเร็ว ซึ่งครั้งนี้ที่คุณแม่ออกไปทำงานบนเรือเป็นเที่ยวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวในฤดูกาลนี้ พร้อมขอให้บริษัทได้ออกมาพูดคุยกับทางญาติ ๆ อีกด้วย

-----------

วานนี้ 24 ธ.ค. 66 เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ตนำเที่ยวอับปางบริเวณเกาะบูบู หรือเกาะซาวัง ห่างเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 3 กม. นักท่องเที่ยวและลูกเรือกว่า 70 ชีวิต ลอยคออยู่ในทะเล ทหารเรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย มีแค่สำลักน้ำ และมีบาดเจ็บเล็กน้อย


โดย น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง ผอ.ศรชล. จังหวัดสตูล รับแจ้งมีเรือสปีดโบ๊ต ชื่อ “บันดาหยา 19” อับปาง บริเวณเกาะบูบู หรือเกาะซาวัง ทางทิศตะวันออกของเกาะอาดัง ทางใต้เกาะบัสซี่ (เกาะเหล็ก) และอยู่ห่างจากเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 3 กม. ในเขตน่านน้ำ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล จึงได้ประสาน น.ท.น้ำน่าน บุนนาค ผบ.นป.สอ.รฝ.491 จัดเรือยางท้องแข็ง (LIB) พร้อมกำลังพลออกให้ความช่วยเหลือ และสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 73 ชีวิต แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 70 คน เด็ก 3 คน พร้อมลูกเรือ 4 คน ได้อย่างปลอดภัยหมดทุกคน


โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการสำลักน้ำ 5 คน เริ่มมีไข้ และหนาว และมีบาดแผล เย็บแผล 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 10 คน ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.เกาะหลีเป๊ะ หลังจากแพทย์ทำการรักษาเบื้องต้นแล้ว อนุญาตให้กลับที่พักได้


จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่า เรือสปีดโบ๊ตลำดังกล่าวเดินทางออกจากเกาะหลีเป๊ะ มุ่งหน้าไปเกาะลันตา จ.กระบี่ มีคลื่นแรงกระแทกตัวเรือ ทำให้ท้องเรือทะลุเป็นรูโหว่ ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าอย่างรวดเร็ว คนขับเรือพยายามประคองเรือ โดยขับเรือเข้าไปยังเกาะเหล็ก พอถึงบริเวณให้นักท่องเที่ยวซึ่งมีเสื้อชูชีพทุกคนลอยคอ จากนั้นได้นำลูกเรือ 4 คน และนักท่องเที่ยวทั้ง 73 คน ขึ้นเรือสปีดโบ๊ต “พลอยสยาม 559” และขนถ่ายสัมภาระของนักท่องเที่ยวขึ้นเรือสปีดโบ๊ต “ฟาเซียฮาน่า 9”


ทั้งนี้ สำหรับเรือสปีดโบ๊ต “บันดาหยา 19” ได้ทิ้งสมอและเรือจมอยู่ในลักษณะตั้งแท่นบนแนวหิน บริเวณแนวหินหน้าเกาะบูบู (เกาะซาวัง) ทำให้นักท่องเที่ยวและลูกเรือปลอดภัยหมดทุกคนดังกล่าว


สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการนำเรือสปีดโบ๊ตรับผู้โดยสารที่ประสบภัยจากเกาะหลีเป๊ะ มาส่งที่ท่าเรือปากบารา จำนวน 2 ลำ 48 คน ซึ่งจะมีรถนำส่งไปจังหวัดภูเก็ต 2 คัน แล้วก็ไปเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ 5 คัน

-----------

จากเหตุการณ์เรือประมงชื่อ ศิรวิชนำโชค เรือวางลอบปู ขนาด 21 ตันกรอส ออกทำการประมงระหว่างเกาะคลุ้ม และเกาะรัง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ธันวาคม ก่อนจะขาดการติดต่อไปของเช้ามืด วันที่ 22 ธันวาคม


โดยนายอภัยภูมิ ศิลประสาร รองนายกเทศมนตรี ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้รับแจ้งจาก นายเรืองศักดิ์ พานิชภูมิ เจ้าของเรือประมง เปิดเผยว่าวันที่ 21 ธันวาคม นายชยพล แซ่อ๋อง อายุ 54 ปี เป็นไต้ก๋งเรือ พร้อมลูกเรือชาวกัมพูชารวม 6 คน นำเรือออกไปวางลอบปูช่วงเกาะคลุ้ม และเกาะรัง ซึ่งขณะนั้นมีกระแสคลื่นและลมที่แรง


หลังรับแจ้งจึงประสานศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.จ.ตราด) นำเรือหลวงศรีราชา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ชาวบ้านในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันออกค้นหา แต่อุปสรรคคือลมมรสุมที่มีกำลังแรง มีคลื่นสูง ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก จนวานนี้ (23 ธ.ค.) พบเรือประมงถูกคลื่นซัดจมอยู่ก้นทะเลระหว่างเกาะคลุ้ม และเกาะรัง ตรวจสอบเป็นเรือประมงลอบปู ลำเดียวกับที่ขาดการติดต่อ เจ้าหน้าที่พยายามค้นหา แต่ยังไม่พบไต้ก๋ง และลูกเรือ แต่อย่างไร


เหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าของเรือบอกว่า หลังเรือออกทะเลยังโทรศัพท์ติดต่อไต้ก๋งเรือได้ แต่ผ่านไปสักพักติดต่อไม่ได้ เกรงว่าอาจจะถูกคลื่นซัดจมลงใต้ทะเล จึงได้เข้าแจ้เทศบาลเกาะช้างใต้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยออกตามหาดังกล่าว

----------------

วานนี้ 24 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปในอำเภอเกาะสมุย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สภาพอากาศท้องฟ้ามีเมฆครึ้ม กระแสลมพัดแรง ทำให้คลื่นลมในทะเลพัดเข้าหาชายฝั่งมีกำลังแรงขึ้น เรือขนาดเล็กเช่นเรือสปีดโบ๊ตเรือทัวร์นำเที่ยว งดให้บริการทั้งหมด


พร้อมกันนี้ ที่ในทะเลอ่าวบ้านหน้าทอน หมู่ 3 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเรือสำราญขนาดใหญ่จำนวน 2 ลำ พร้อมนักท่องเที่ยว และลูกเรือกว่า 5,000 คน ที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวลงจากเรือสำราญได้ เนื่องจากคลื่นลมแรง ทำให้เรือรับส่งขนถ่ายไม่สามารถเทียบกับเรือสำราญได้ และจากเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว จึงได้แจ้งยกเลิกนำนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่ง ทำให้รถยนต์รถโดยสารที่ไปเข้าคิวเรือรับนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวต่างรอเก้อ


ขณะที่ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ ของบริษัทซีทรานเฟอร์รี่ ที่ให้บริการโดยสารขนส่งผู้โดยสารจากแผ่นดินใหญ่ เส้นทางอำเภอดอนสัก -อำเภอเกาะสมุย ในวันนี้ ยังคงให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ แต่จำกัดขนาดรถลงเรือ และรถที่ลงไปจอดในระวางบรรทุก มีพนักงานได้นำอุปกรณ์​หมอนรองล้อรถยนต์ มาทำการรองล้อรถเพื่อป้องกันรถเคลื่อนไหวจากแรงกระแทกของคลื่น และในระวางจอดรถในเรือ มีการเว้นระยะ เพื่อป้องกันความปลอดภัย


ส่วนผู้โดยสารต้องเดินขึ้นเรือทางหัวเรือ เนื่องจากสะพานทางเดินขึ้นเรือ ไม่สะดวกต่อการให้บริการ เกรงผู้โดยสารจะไม่ปลอดภัยในการเดินขึ้นลง

----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hq8smSIPOP4

คุณอาจสนใจ

Related News