รู้ตัวคนร้ายแล้ว! โจรขโมยรถตู้หรู แถมข่มขืน ทำร้ายร่างกาย สาวที่นั่งอยู่ภายในรถ

จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ มีหญิงสาวร้องเรียนว่า ถูกคนร้ายขโมยรถตู้หรู ทั้งที่ตัวเธอนอนอยู่บนรถ สุดท้ายเรื่องนี้คดีพลิก เพราะความจริง หญิงสาวรายนี้ ถูกทำร้ายร่างกาย และข่มขืน แล้วพยายามจะขโมยรถตู้ แต่ผ่านมาเกือบเดือนคดีไม่คืบหน้า จึงตัดสินใจมาร้องเพจสายไหมต้องรอด



นายเอ พร้อมกับแฟนสาว ได้มาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย



หลังแฟนสาวของนายเอ ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ และยังชิงรถตู้อัลพาร์ดสีขาว พร้อมทรัพย์สินอื่น ๆ ทั้งพระเครื่อง, สร้อยคอทองคำ, นาฬิกา รวม 14 รายการ มูลค่าเกือบ 9 แสนบาท หลบหนีไป



โดยผู้เสียหายบอกว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา วันเกิดเหตุตนพร้อมกับแฟนสาว และกลุ่มเพื่อน ได้ไปเที่ยวที่ร้านอาหารย่านลาดพร้าว-วังหิน



จนประมาณตี 3 การ์ดในร้านได้เชิญลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งมีอาการเมาออกมานอกร้าน แต่ลูกค้ารายนี้ได้เดินชนรถเบนซ์ของน้องในกลุ่ม จนกระจกมองข้างเสียหาย



ทำให้น้องในกลุ่มไปเอาเรื่อง แต่ลูกค้ารายนี้กลับชกรุ่นน้องจนบาดเจ็บ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปห้าม และได้บอกให้แฟนไปนั่งรถในรถตู้หรู เพราะกลัวจะถูกลูกหลง พร้อมกับได้ถอดสร้อยคอของตนที่มีพระเครื่องหลายองค์ให้แฟนสวมไว้

จนผ่านไป 5 นาที ตนจึงเดินไปหาแฟนสาวที่รถ แต่เห็นว่ารองเท้าของแฟนอยู่ที่พื้น จึงเริ่มเอะใจกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับแฟน จึงได้รีบไปที่รถ พบว่ามีคนร้ายนั่งอยู่บนรถของตนโดยนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ และกำลังต่อสู้กับแฟนของตนอยู่



ตนจึงพยายามเปิดประตูรถออกแต่ปรากฎว่าคนร้ายได้ล้อกประตูไว้ ตนจึงตะโกนเรียกการ์ดของร้านให้มาช่วย ทำให้คนร้ายไหวตัว ขับรถพุ่งฝ่าวงล้อมออกมา ทั้งที่แฟนของตนยังอยู่บนรถ



ซึ่งตน และเพื่อนได้พยายามขับรถตามหาแฟนของตนแต่ก็ไม่เจอ จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย จนผ่านไป 2 ชั่วโมง แฟนของตนได้โทรศัพท์มาหา บอกว่าถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย และข่มขืน พร้อมกับส่งโลเคชั่น ที่คนร้ายขับรถแล้วพามาจอดทิ้งไว้ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อตนไปตามโลเคชั่น ก็พบแฟนอยู่บนรถตู้ ซึ่งสภาพแฟนหน้าตาบวมปูด เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย

โดยแฟนสาวบอกว่า ระหว่างที่ตนอยู่บนรถ คนร้ายซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือ นายนันทพร หรือ ฉายาว่า บอล ปากแหว่ง ได้เดินมาพร้อมกับพวกอีก 2 คน บอกว่าแฟนของตนต้องการให้ไปคุยแต่ตนไม่เชื่อ และจะปิดประตูรถ นายบอลได้ชกเข้าที่หน้าของตน และใช้เท้าถีบ จากนั้นได้ใช้มีดขู่ข่มขู่ ซึ่งตนพยายามจะหนีลงจากรถ แต่ก็ถูกนายบอล ทำร้ายร่างกายอีกหลายครั้ง และนายบอล ยังล้อกประตูด้วย



จนสุดท้ายนายบอล ได้พามาจอดที่ริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งคอนข้างมืดและเปลี่ยว จากนั้นก็ทำร้ายร่างกายซ้ำอีกรอบ และข่มขืน ซึ่งถ้าตนไม่ยอมนายบอลขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย ซึ่งก่อนหลบหนีคนร้ายได้ถอดเสื้อผ้าของตน เอากุญแจรถของตนไปด้วย เมื่อตนตั้งสติได้ จึงโทรศัพท์บอกแฟนหนุ่มให้มาช่วยเหลือ



หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย พร้อมกับเดินหน้าหาพยานหลักฐานเอง จนเกิดเรื่องปาฎิหารย์ขึ้น เมื่อเพื่อนของตนซึ่งเป็นเซียนพระ ได้นำภาพพระหลวงพ่อกวยมาให้ดู บอกว่าซื้อมาจากเซียนพระรายหนึ่ง
ซึ่งตนดูภาพพระก็จำได้ทันทีว่าเป็นพระของตน จึงได้ตรวจสอบไปยังเซียนพระรายนี้ จนรู้คนที่เอาพระมาขายก็คือนายบอล ซึ่งตนก็ได้แจ้งตำรวจไปแล้วแต่จนถึงขณะนี้คดีก็ไม่คืบหน้า



ขณะที่นายเอกภพ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้ มีประวัติก่อเหตุคดีอาชากรรมมาอย่างโชกโชน ทั้งคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น ชิงทรัพย์ รุมโทรมหญิง ที่สำคัญเชื่อว่า ในคดีนี้ นายบอล ได้สะกดรอยผู้เสียหายมาตั้งแต่แรก เพราะมีหลักฐานเป็นคลิป ที่เห็นนายบอล ยืนอยู่ตรงเหตุการณ์ ตอนที่เพื่อนของผู้เสียหาย มีเรี่องกับลูกค้าในร้าน และได้เดินตามผู้เสียหายไปถึงรถตู้เพื่อก่อเหตุ