สังคม

ยังสาหัส! นักข่าวพัทยาถูกยิง กระสุนลูกซองฝังในเกือบ 40 นัด - มือยิงดอดมอบตัว สารภาพฉุนถูกปาดหน้า

โดย thichaphat_d

14 ธ.ค. 2566

281 views

กรณีมือปืนก่อเหตุยิงนายณัฐภัทร บุญชาลี อายุ 28 ปี ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น (นสพ.และสื่อออนไลน์) ของเมืองพัทยา จ.ชลบุรี  โดยกระสุนลูกซอง (ลูกปราย) เจาะโหนกแก้ม ใบหน้าและเบ้าตา ฝังในเกือบ 40 นัด อาการสาหัส เหตุเกิดช่วงเช้าตรู่วานนี้ (13 ธ.ค.66) เวลาประมาณ 06.09 น. ขณะนี้ผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลเมืองพัทยาไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลชลบุรีเพื่อผ่าตัดเอากระสุนออก    

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบช่วงก่อนและขณะเกิดเหตุ มีกล้องวงจรปิดหลายมุมจับภาพเหตุการณ์  แต่กล้องตัวสำคัญที่สามารถจับภาพนาทียิงได้ คือ บริเวณริมถนนหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ภายในซอยเพ็ชรตระกูล ตัดถนนพัทยาสาย 3 กล้องตัวดังกล่าว จับภาพ รถจักรยานยนต์ 3 คัน ขี่จับกลุ่มกันมา คันแรกเป็นรถจักรยานยนต์สีขาว มีชายสวมเสื้อดำนั่งคนเดียวขี่นำหน้าไป คันที่ 2 เป็นรถจักรยานยนต์สีดำ ซ้อนกันมา 2 คน คนขี่สวมเสื้อสีขาว คนซ้อนสวมเสื้อสีดำรูปร่างท้วม และคันที่ 3 เป็นรถของนายณัฐภัทร สวมเสื้อสีออกเทา มีกระเป๋าสะพายเฉียง

จังหวะที่รถคันที่ 2 พยายามขี่ประกบด้านซ้ายของนายณัฐภัทร มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด รถของนายณัฐภัทรล้มลง เกือบจะไถลไปชนกับรถชาวบ้านที่ขี่สวนมา ซึ่งเวลาในกล้อง ช้ากว่าเวลาจริงประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้น มีกล้องอีกมุมจับภาพกลุ่มคนร้ายหลังก่อเหตุ โดยพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาทางแยกเพนียดช้าง ห่างจากจุดยิงประมาณ 20 เมตร ตรงจุดนี้ คนที่นั่งซ้อนท้ายรูปร่างท้วม ร่วงตกจากรถจักรยานยนต์ แต่คนขี่ (เสื้อขาว) ไม่หยุดรอ ขี่หนีไปเลย จนเพื่อนอีกคนขี่รถตามหลังมารับขึ้นรถ แล้วพากันหลบหนีไปทางถนนพัทยาเหนือ

จากการสอบถามเพื่อนผู้บาดเจ็บ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายณัฐภัทร ไปนั่งดื่มกินกับเพื่อนรวม 4 คน ที่ร้านจิ้มจุ่ม – หมูกระทะ  จนกระทั่งเช้าประมาณ 6.00 น. ระหว่างที่นั่งกันอยู่นั้น เห็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่เข้ามาในซอย โดยรถจักรยานยนต์คันที่นำหน้า บีบแตรใส่รถเก๋งสีแดง 2 ครั้ง ซึ่งมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ แต่ตอนนั้นทุกคนไม่ได้สนใจอะไร

จากนั้น ผู้บาดเจ็บเดินออกจากร้าน ไปขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อจะไปส่งลูกไปโรงเรียน แต่ตอนที่ผู้บาดเจ็บกำลังจะขี่ออกถนน เป็นจังหวะเดียวกับที่รถจักรยานยนต์ 2 คันของกลุ่มคนร้ายขี่มาพอดี จึงเกือบจะเบียดรถกลุ่มคนร้าย จากนั้นก็มีกล้องวงจรปิดหลายมุม พบว่า มีการขี่รถตามกันไปที่ถนนเพ็ชรตระกูล รวมระยะทางประมาณ 500 เมตร ก่อนมือปืนจะก่อเหตุยิง จึงคาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากกลุ่มคนร้ายไม่พอใจที่ผู้บาดเจ็บไปขี่รถปาดหรือเบียดรถคนร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ

ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำกำลังไปที่ห้องแถวภายในซอยหนองเกตุน้อย หลังสืบทราบว่าเป็นห้องพักของ นายขวัญชัย หรือ เป็ก ซึ่งน่าจะเป็นมือยิง โดยในกล้องวงจรปิด นายเป็ก คือคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ สวมเสื้อสีขาว และมีนายสมรัก ซ้อนท้ายมา แต่เมื่อไปถึงห้องพัก ไม่พบตัวนายขวัญชัย พบเพียงรถจักรยานยนต์สีเขียวดำ มีกุญแจเสียบคาอยู่ ในห้องมีโทรศัพท์มือถือวางทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงบอกให้ญาติประสานให้นายขวัญชัยมอบตัวเพื่อสอบปากคำ

กระทั่งช่วงค่ำวานนี้ (13 ธ.ค.66) ศาลจังหวัดพัทยา อนุมัติหมายจับ นายขวัญชัย ปานทอง หรือเป็ก อายุ 32 ปี ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และความผิดเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน โดยจากการสอบปากคำนายจิรชัย และนายสมรัก เพื่อนของผู้ก่อเหตุ ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และยังบอกด้วยว่า หลังก่อเหตุ ได้พากันขี่รถกลับห้องพัก นายขวัญชัยกำชับทั้งสองคนว่า หากตำรวจมาให้บอกว่าไม่รู้ไม่เห็น ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง ส่วนนายจิรชัยและนายสมรัก ก็รุมต่อว่านายขวัญชัยว่า “ไปยิงเขาทำไม ทำให้พวกกูซวยไปด้วย” ก่อนที่นายจิรชัยและนายสมรัก จะถูกตำรวจควบคุมตัวได้ และขณะนี้กันตัวไว้เป็นพยาน

ล่าสุด เมื่อเวลา 22.30 น.วันเดียวกัน นายขวัญชัย ปานทอง หรือเป๊ก อายุ 32 ปี ได้ติดต่อเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง เนื่องจากเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ จนทำให้ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง.ผกก.สืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำกำลังชุดสืบสวนไปควบคุมตัว

พร้อมนำตัวผู้ต้องหาไปยึดอาวุธปืนลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งถูกโยนทิ้งไว้ในพงหญ้าริมทางรถไฟหน้าปากซอยเศรษฐี 1 ต.หนองปลาไหล มาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพัทยา

โดย นายขวัญชัย หรือเป๊ก ซึ่งมีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุยิงนักข่าวจริง และไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งหรือ รู้จักกันมาก่อน ส่วนปมเหตุมาจากเรื่องการขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้ากัน และยังอ้างว่าถูกฝ่ายผู้บาดเจ็บให้ของลับ จนเกิดความโมโหใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมาจ่อยิง

ส่วนเพื่อน 2 คนที่ไปด้วยกันไม่รู้เรื่อง ส่วนอาวุธปืนยอมรับไปซื้อมาจากเพจขายปืนเถื่อนในราคา 3,500 บาท เพื่อใช้ป้องกันตัว เนื่องจากเคยถูกรุมกระทืบหน้าผับแห่งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน

นายขวัญชัย ยังบอกอีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและกลุ่มเพื่อนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งพรวดออกมาจากริมทางในลักษณะตัดหน้าจึงบีบแตรส่งสัญญาณเตือน แต่ผู้บาดเจ็บกลับแสดงท่าทีไม่พอใจเบรกรถคล้ายกับจะหาเรื่อง ประกอบกับขณะนั้นตนเองอยู่ในอาการมึนเมาจึงขาดสติชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ในทันที ก่อนจะเร่งเครื่องรถหลบหนีไป

ด้าน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เผยว่า คดีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ไม่นิ่งดูดายและได้จัดกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่กดดันอย่างหนัก จนกระทั่งผู้ต้องหาทนแรงกดดันไม่ไหวตัดสินใจให้ญาติพาเข้ามอบตัว และหากเสร็จสิ้นขั้นตอนการสอบปากคำแล้ว พนักงานสอบสวนจะนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดพัทยา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายในทันที

ขณะที่เพื่อนของผู้ต้องหาอีก 2 รายนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในสถานะพยาน เนื่องจากสอบถามพยานบุคคล พยานแวดล้อม รวมถึงพยานหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่ามีส่วนในการร่วมกระทำผิด สอดคล้องกับคำให้การของของมือยิงที่ยอมรับว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว

ส่วนอาการของ นายณัฐภัทร บุญชาลี นักข่าวท้องถิ่นเมืองพัทยานั้น ล่าสุด นายอธิบดี บุญชารี ผู้เป็นพ่อและเป็นเจ้าของ นสพ.อธิปบูรพา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ป A จำนวนมาก หรือเลือดกรุ๊ปใดก็ได้ให้ลูกชายเพื่อให้แพทย์ใช้ในการผ่าตัดช่วยชีวิต โดยผู้ใจบุญสามารถเดินทางไปบริจาคได้ที่โรงพยาบาลชลบุรี


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1SURp34bkTQ

คุณอาจสนใจ

Related News