จวกยับ! หนุ่มแว้นสายหมอบ ซิ่งจยย.ขวางทางรถกู้ภัย แถมเบิ้ลเครื่องใส่ ทนดรามาไม่ไหว หอบกระเช้าขอโทษ

หนุ่มแว้น จยย.ในท่านอน ขับขวางทางรถกู้ภัย ขณะกำลังไปช่วยคนเจ็บล้มหัวฟาดพื้นส่ง รพ. – แถมเบิ้ลเครื่องเย้ยเจ้าหน้าที่   เบื้องต้น พาคนเจ็บส่ง รพ.ทัน อาการปลอดภัย  ด้านหนุ่มแว้นหอบกระเช้าขอโทษ จนท. อ้างไม่เห็น

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 เวลา 21.40 น. ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ห้องข่าว กู้ภัยเณรแก้ว อาวุธพงษ์ มาลัย” ซึ่งเป็นกู้ภัยในพื้นที่ จ.สุพรรบุรี โพสต์คลิป วัยรุ่นชาย ขับรถ จยย. ในท่านนั่งสลับท่านอน แว้นรถบนถนน โดยที่ไม่ยอมหลบรถกู้ภัยขณะที่กำลังนำคนเจ็บที่เป็นชายสูงอายุ ล้มหัวกระแทกพื้นส่งโรงพยาบาล แม้รถกู้ภัยจะพยายามบีบแตรแลพเปิดเสียงไซเรนดังชัดเจนก็ตาม  บางช่วงพบว่าเบิ้ลรถใส่กู้ภัยแบบไม่สนใจอะไร

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ห้องข่าว กู้ภัยเณรแก้ว อาวุธพงษ์ มาลัย” โพสต์คลิปนี้ พร้อมเขียนข้อความ เล่าเหตุการณ์ ระบุว่า #อยากดังเดี๋ยวจัดให้ #สุพรรณบุรี

เหตุการณ์ระหว่างทาง อาสาสมัคร #สมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี รับแจ้งชายลื่นล้มได้รับบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรีจึงจัดรถยนต์ น.เขต พยาบาล ออกรับผู้ได้รับบาดเจ็บระหว่างทาง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครฯ พบรถจักรยานยนต์ขับขี่ออกมาตัดหน้ารถยนต์ น.เขต ที่กำลังใช้ความเร็วเพื่อให้ไปถึงตัวผู้บาดเจ็บให้เร็วที่สุด รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวยังขับขี่ประมาทหวาดเสียว หมอบ นอน และยังไม่ยอมหลบรถอาสาสมัครฯ แถมยังเบิ้ลเครื่องใส่ รถกู้ภัยที่วิ่งด้วยความเร็วเพื่อไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอีก......จิตสำนึกไม่มี....หรือกำลังดีด

ต่อมาทีมข่าวได้คุยกับกู้ภัย คือนาย บุญมี ติณะน้อย คนขับรถ และนาย พงศภัทร เอื้อเฟื้อ คนถ่ายคลิป โดยนายบุญมี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุจอดรถกูภัยเพื่อรอรับเหตุช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในเขต อ.เมือง ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจากทางศูนย์สั่งการโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ว่ามีผู้ป่วย เป็นชายสูงอายุ วัยประมาณ 50 กว่า ปี ลื่นล้มศีรษะแตกมีเลือดออกจำนวนมาก ตนจึงรีบเดินทางไปช่วยเหลือ 

ซึ่งขณะที่จะไปรับ และขับมาถึงช่วงใต้สะพานวัดราษฏร์ ก็เจอรถ จยย. ของหนุ่มวัยรุ่นคนนี้ วิ่งทางเลนซ้าย  ตนจึงขับรถกู้ภัยหลบออกทางเลนขวา แต่รถคันดังกล่าว ก็ปาดขวามาตลอด 

ตนได้เปิดเสียงไซเรนท์เปิดสัญญานไฟเพื่อขอทาง  แต่หนุ่มวันรุ่นคนนี้ก็ไม่ยอมหลีกทางให้ แต่ตนมองว่ามีหลายจังหวะที่น่าจะเห็นและหลบให้ได้แต่เขาไม่หลบ เหมือนเขาหันมาเห็นว่าเป็นรถกู้ภัย ไม่ใช่รถตำรวจเขาจึงขับขวางทางยาวไปตลอด โดยบางจังหวะนอนขี่แบบไม่สนใจโลกด้วย  ซึ่งตนพยายามบีบแตรให้สัญญานขอทางเขาก็เบึ้ลเครื่องใส่อีกต่างหาก  ส่วนผู้บาดเจ็บ กู้ภัย เผยว่า ได้นำตัวส่ง รพ.ทัน และอาการปลอดภัยแล้ว

ขณะที่นายพงศภัทร อาสากู้ภัยคู่สาย คนที่ถ่ายคลิป กล่าวว่า อยากฝากขอผู้ใช้รถใช้ถนน เมื่อเห็นรถกู้ภัยเปิดสัญญานไฟฉุกเฉิน ขอให้หลีกทางให้สักนิดเพราะพวกเราจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องไปช่วย ผู้บาดเจ็บต้องเปิดไฟเปิดเสียง ให้ไปถึงที่เกิดเหตุให้ไว เพราะเราไม่รู้ว่าที่เกิดเหตุ คนป่วยคนเจ็บจะเป็นเช่นไร พวกเราไปช่วยคนเจ็บจริงๆไม่ได้เปิดเล่น นอกจากนี้หลังเกิดเหตุ คนขับขี่รถ จักรยานยนต์ คันที่ขับขวางหน้ารถกู้ภัย ยังวนมาดูตรงจุดที่พวกตนจอดสแตนบายคอยช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย

ล่าสุดช่วงบ่ายวานนี้ (5 ธ.ค.66) พบว่าหนุ่มวัยรุ่นคนที่ขับรถ จยย. ขวางรถกู้ชีพ ทราบว่าอายุ 19 ปี ได้หอบกระเช้ามาขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ปฏิบัติการณ์ดังกล่าว พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ บอกว่าตนสำนึกผิดที่กระทำการลงไปด้วยความคึกคะนอง และรับปากว่าจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก พร้อมกับเตือนวัยรุ่นด้วยว่าอย่าทำแบบตนอีกมันไม่ดี เพราะจะทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยคนอื่นที่กำลังรอการช่วยเหลือและตัวเองที่อาจเกิดอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ จากนั้นได้ยกมือไหว้พี่ๆหน่วยกู้ภัย ก่อนจะเดินทางกลับไป

ทางด้านกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี กล่าวว่า เมื่อสำนึกผิดคิดได้รู้ตัวว่าทำผิด ทำไม่ดีแล้วมาขอโทษ

#เป็นพ่อคุณจะสำนึก #เป็นญาติคุณจะรู้สึก #อย่าหาทำ #ไม่หลบ=#ผิดกฎหมาย #ผ้าขาวรอห่อ

ทีมข่าวตรวจสอบข้อกฎหมาย กรณีขับรถขวางทางรถฉุกเฉิน ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 76 และมาตรา 148 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พบว่า ผู้ที่ขับขี่รถทุกประเภท การไม่หลบให้รถพยาบาลหรือรถฉุกเฉิน มีโทษตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดให้เมื่อเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบหรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น ต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อน โดยปฏิบัติ ดังนี้

1. สำหรับคนเดินเท้าต้องหยุดและหลบให้ชิดขอบทาง หรือขึ้นไปบนทางเขตปลอดภัย หรือไหล่ทางที่ใกล้ที่สุด

2. สำหรับผู้ขับขี่ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย แต่ห้ามหยุดรถหรือจอดรถในทางร่วมทางแยก

หากไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาทและกรณีไม่หลบรถฉุกเฉินจนเป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วย ที่อยู่ในรถถึงแก่ชีวิต อาจมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/adhEZ6LSwaE