ไล่ล่าระทึก! หนุ่มพกยาบ้า 3 เม็ด ซิ่งรถตู้ทึบหนีด่านตรวจ ชนดะกว่า 20 คัน ตร.ยิงสกัด สุดท้ายจนมุม

หนุ่มพกยาบ้า 3 เม็ด ซิ่งรถตู้ทึบหนีตำรวจ ชนดะกว่า 20 คัน ตำรวจเจ็บ 4 ราย ต้องยิงสกัดหลายนัด กว่าจะจับได้ 

วานนี้  (4 ธ.ค.66)  เวลาประมาณ 15.30 น. ตำรวจเปิดปฏิบัติการไล่ล่ารถบรรทุกตู้ทึบต้องสงสัยคันหนึ่ง ที่ไม่ยอมจอดให้ตำรวจตรวจค้น ขณะขับอยู่บนทางด่วนกาญจนาภิเษก พื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนกาญจนาภิเษก เห็นว่ารถบรรทุกคันนี้มีพิรุธ จึงเรียกให้จอดเพื่อตรวจสอบ แต่คนขับรถบรรทุก กลับเร่งเครื่องขับรถหนี  เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังปิดล้อมในเส้นทาง กระทั่งคนขับรถบรรทุก ขับลงจากทางด่วนบูรพาวิถี แล้วขับซิ่งมุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท วนเวียนอยู่ในพื้นที่ซอยสวนส้ม  ซึ่งเป็นทางคดเคี้ยว สลับซับซ้อน  

เจ้าหน้าที่ไล่ล่าอยู่นานกว่า 20 นาที  แต่คนขับรถบรรทุกไม่มีทีท่าว่าจอดให้ตรวจสอบ  แถมยังขับรถไปชนรถของชาวบ้าน  รถกู้ชีพ รถนักข่าว รถตำรวจ  เสียหายไปประมาณ 20 คัน  และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ อีก 4 นายด้วย

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ต้องประสานตำรวจ สภ.สำโรงใต้ และตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ออกไล่ล่า  ซึ่งเป็นจังหวะที่คนขับรถบรรทุก ขับออกไปตามถนนปู่เจ้าสมิงพราย ผ่านสามแยกปู่เจ้าฯ เลี้ยวขวาเข้าถนนเทพารักษ์ มาถึงใต้สถานีรถไฟฟ้าทิพวัล ซึ่งเป็นถนนสายหลัก มีการจรารหนาแน่น  คนขับรถบรรทุกมีอาการคลุ้มคลั่ง ขับชนรถทุกคันที่ขวางหน้า  ตำรวจเกรงว่า ถ้าปล่อยให้ถึงเวลาเร่งด่วนของการจราจร ที่มีรถจำนวนมาก อาจจะมีประชาชนได้รับอันตราย 

จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงเข้าที่ล้อหน้าของรถบรรทุกทั้ง 2 ข้าง และที่กระจกหน้าอีก 2 นัด  แต่ก็ไม่ทำให้คนขับรถบรรทุกสงบลง หรือยินยอมให้ควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้รถกระบะของตำรวจขับเบียดรถบรรทุกให้เสียหลัก จอดข้างทางและเข้าชาร์จ จึงควบคุมตัวไว้ได้ ท่ามกลางความตื่นตกใจของผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ตำรวจต้องปิดการจราจรชั่วคราว เพื่อเคลียร์พื้นที่จนมั่นใจถึงความปลอดภัยของประชาชน จึงเปิดช่องทางจราจรบางส่วน

จากการสอบสวนคนขับรถรายนี้  ชื่อนายชัยณรงค์ อายุ  28  ปี เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเจ้าตัวยังคงให้การวกวนไปมาคล้ายกับคนเมาสารเสพติดอะไรบางอย่าง เบื้องต้นอ้างว่าที่ต้องหนีตายขนาดนี้ เพราะเจอตำรวจเรียกตรวจ แล้วตกใจจึงขับหลบหนี ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ขณะที่จากการตรวจสอบภายในรถคันนี้  ตำรวจไปเจอซองบรรจุยาบ้าจำนวน 3 เม็ด ซุกซ่อนหลังเบาะคนขับ  

ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ยอด สำโรง หนึ่งใน 20 คัน ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกชน เผยว่าหลังจากฟังวิทยุได้รับแจ้งว่ามีรถต้องสงสัยขับหนีตำรวจจากอำเภอพระประแดง ข้ามเแม่น้ำเจ้าพระยา มาจนถึงเขตพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรปราการ จึงขับรถออกไปตามเส้นทางวิทยุช่องปราการ ตอนนั้นไม่คิดอะไรเพียงอยากสกัดจับร่วมกับรถตำรวจ และรถกู้ชีพ ไม่คิดว่ารถตัวเองจะถูกชนไปด้วย แต่ไม่เสียดายเพราะตำรวจจับได้ในที่สุด

ส่วนนายอนุวัฒน์ ซ้อนภู่ หนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกผู้ก่อเหตุขับรถชน เล่านาทีระทึกว่า ตนเองจอดรถติดไฟแดงอยู่ที่แยกปู่เจ้าฯ   ระหว่างนั้นสังเกตเห็นว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายืนโบกคล้ายกับจะบล็อกรถอะไรบางอย่าง  ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่กี่นาทีต่อมา  หันไปเห็นว่า มีรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งมาชนด้านข้างอย่างแรงและขับหลบหนีไป โดยมีรถตำรวจไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด  พอเห็นว่ามีรถตำรวจไล่ติดตามไปตนเองจึงหาที่จอดข้างทางในที่ปลอดภัย  เพื่อแจ้งประกันและแจ้งตำรวจภายหลัง  จนมาทราบว่าคนขับรถที่พุ่งชนขับรถหลบหนีตำรวจมา

ด้าน ส.ต.ต.พีรพัฒน์ อ่องผู้ดี ผบ.หมู่จราจรปฏิบัติหน้าที่บนทางด่วนกาญจนา เล่าว่า ตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่น  กำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกงานจราจรบนทางด่วนกาญจนาพิเศษ ระหว่างนั้น สังเกตเห็นรถบรรทุกคันนี้ต้องสงสัย จากการติดธงชาติของประเทศเพื่อนบ้าน 

อีกทั้งคนขับมีผมสีทองคล้ายกับเป็นบุคคลต่างด้าว จึงเรียกรถให้ชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อให้หยุดรถ และเชิญตัวลงมาตรวจสอบบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับขี่  แต่คนขับรายนี้อ้างว่าไม่มีและบอกว่าจะไปหยิบที่รถ   แต่ในขณะนั้น ตนเองได้กลิ่นแปลกๆคล้ายกับกลิ่นของยาบ้าโชยมาจากตัวคนขับ  พอคนขับเดินกลับไปที่รถก็เร่งเครื่องหลบหนีทันที จึงไล่ติดตามและวิทยุสกัดจับ  

ขณะที่ชาวบ้านพากันวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยเฉพาะวิถีกระสุนที่ตำรวจตัดสินใจยิงเข้าหน้ารถของผู้ต้องหาหวังสยบความคลั่ง ถือว่าตำรวจใช้ยุทธวิธีที่ดีเยี่ยมและวิถีกระสุนไม่ถูกตัวคนขับรถแต่อย่างใด

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า  ต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฎิบัติงานทุกนาย  รวมถึงสื่อมวลชน  ที่ช่วยกันสกัดจับผู้ก่อเหตุ ถึงแม้ว่าการสกัดจับกุมครั้งนี้  จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่มีประชาชนได้รับอันตรายถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และยังปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว  ส่วนตัวผู้ต้องหารายนี้  จากการตรวจสอบ นอกจากจะพบยาบ้า 3 เม็ดแล้ว ยังพบสารเสพติดในร่างกาย 

โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า เสพยาบ้าก่อนขับรถ  หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ประกอบการเจ้าของรถมาสอบสวนเพิ่มเติม และตรวจสอบสินค้าภายในรถด้วยว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น คงเป็นความรับผิดโดยตรงกับทางตัวผู้ต้องหาและบริษัทรถขนส่ง  ส่วนข้อหาที่จะดำเนินการกับผู้ต้องหารายนี้  ในเบื้องต้นแจ้งไป 5 ข้อหา คือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ , มีสารเสพติดในร่างกายขณะขับขี่ยานพาหนะ , มียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อเสพ , ขับรถโดยประมาทไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ,ขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินของทางราชการและผู้อื่นได้รับความเสียหาย 

ส่วนจะเข้าข่ายพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่นั้น  อยู่ระหว่างสอบสวน  หากพบว่าเข้าข่ายก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มทันที

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/UYNQS_Ve07U