สังคม
ระทึก! ชายคลั่งถือมีดไล่ฟันนักเรียนในโรงเรียน พบป่วยจิตเวช ดื่มเหล้า-เสพยาบ้า ก่อนก่อเหตุ
23 พ.ย. 2566
604 views
ชายคลั่งถือมีดไล่ฟันนักเรียนในโรงเรียน พบป่วยจิตเวช ดื่มเหล้า เสพยาบ้า ครูฮีโร่เล่านาทีระทึกพาเด็กวิ่งหนี ถูกคนร้ายวิ่งไล่ฟัน
เช้าวานนี้ (22 พ.ย.66) เวลาประมาณ 8.30 น. ที่โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ต.ทุ่งนาเลา อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ขณะที่นักเรียนกำลังทำกิจกรรมหน้าเสาธงคลายหนาว ปรากฏว่า มีชายคนหนึ่งมีอาการคลุ้มคลั่ง ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในโรงเรียน พร้อมกับมีดตัดอ้อยเล่มยาว มาไล่ฟันครูและนักเรียน โดยกล้องวงจรปิดในโรงเรียน จับภาพเหตุการณ์ขณะที่นั่งเรียนนั่งกันอยู่หน้าเสาธง มีครูผู้ชายเดินอยู่ใกล้ๆ และเหมือนครูจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง จากนั้นนักเรียนก็รีบวิ่งหนีออกจากจุดนั้น โดยมีนักเรียนตัวเล็กบางคนที่วิ่งไม่ทัน ครูผู้ชายต้องมาช่วยพาวิ่ง สักพักเห็นชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเข้ามา ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเด็กๆ
กล้องอีกมุม จับภาพขณะที่เด็กๆ ถูกคุณครูพาวิ่งหนีหาที่ซ่อน บรรยากาศเป็นไปอย่างชุลมุน โดยมีชายคนร้ายถือมีดวิ่งตามมาในระยะกระชั้นชิด โดยเหตุการณ์นี้ มีครูผู้ชายถูกผู้ก่อเหตุใช้มีดฟันได้รับบาดเจ็บ
หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุหนีไปหลบซ่อนตัวที่บ้านพักของตัวเอง ซึ่งอยู่หน้าโรงเรียน ตำรวจ สภ.คอนสาร พร้อมด้วยกู้ภัยร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคอนสาร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เกลี้ยกล่อมให้ นายเริงฤทธิ์ อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุ ยอมมอบตัว แต่นายเริงฤทธิ์ไม่ยอมออกมา เจ้าหน้าที่พร้อมไม้ง่าม จึงบุกเข้าไปควบคุมตัวถึงในบ้าน โดยผู้ก่อเหตุพยายามดิ้นรน ร้องปล่อยกูๆ แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้สำเร็จ ก่อนส่งตัวไปโรงพยาบาลคอนสาร เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตเวช
โดยนายเริงฤทธิ์ไม่ยอมปริปากบอกถึงสาเหตุที่เข้าไปก่อเหตุในโรงเรียน แต่ พ.ต.อ.พงศ์สุข คงปัญโญ ผกก.สภ.คอนสาร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ก่อเหตุเมาสุรา และยังพบว่ามีการเสพยาบ้าอยู่ในบ้านด้วย จึงเกิดคลุ้มคลั่ง ประกอบกับมีประวัติเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช ที่ไม่ยอมเข้ารับการรักษาให้ต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลคอนสาร โดยทางโรงพยาบาลจะควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ญาติผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตมานานแล้วและช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่ยอมไปรับการรักษา มีอาการชอบนำมีดออกมาเล่น และทะเลาะกับพ่อบ่อยครั้ง ครอบครัวพยายามจะพาไปรักษาแต่ก็ไม่ยอมไป ก่อนที่จะมาเกิดอาการคลุ้มคลั่งหลังดื่มสุรา และครอบครัวก็เพิ่งทราบว่ามีการแอบเสพยาบ้าในบ้าน ก่อนที่จะออกไปก่อเหตุใช้มีดไล่ฟันครู และนักเรียน
นายธวัชชัย ด้วงธรรม ครูวิชาพลศึกษา โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ผู้ที่พานักเรียนวิ่งหนี เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังยืนพูดคุยกับเด็กนักเรียนอยู่หน้าเสาธง สังเกตเห็นชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์พร้อมกับถือมีดตัดอ้อยเข้ามาในโรงเรียน จากนั้นจอดรถ ปาขวดแก้ว ตะโกนโวยวายไล่ให้ตนลาออกจากการเป็นครู ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้ตะโกนให้เด็กๆ รีบวิ่งหนีหาที่ซ่อนตัว เด็กส่วนใหญ่ครูผู้หญิงพาวิ่งหนีเข้าอาคารหรือหาที่ซ่อนได้ แต่ในช่วงเวลานั้น มีเด็ก 2 คนที่ยังเด็กมากๆ วิ่งหนีไม่ทัน ตนจึงรีบคว้าแขนแล้วลากดึงตัวพาเด็กหนี ผู้ก่อเหตุตามมาทัน เงื้อมีดฟันมาที่ตน ตนจึงเอาเด็กหลบไว้ข้างหลัง แล้วยกมือบังมีดไว้ จนตนเสียหลักล้มลง แล้วต่อสู้กันสักพัก จนมีชาวบ้านตะโกนร้องห้าม คนร้ายหันไปตามเสียงชาวบ้าน ทำให้ตนได้จังหวะรีบวิ่งหนีออกมาได้ทัน ครูธวัชชัย บอกว่า หลังเกิดเหตุ เด็กๆ เสียขวัญร้องไห้กันทุกคน
หลังเกิดเหตุ นางสาวอรอาภา โล่วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พม.จังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุข และ สพฐ. ไปที่โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด โดยทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ยอมรับว่า ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยนายสมบัติ ไตรศักดิ์ รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบหมายให้ตนรีบลงพื้นที่ทันที พร้อมกำชับให้เร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจทั้งเด็กและผู้ปกครอง ส่วนในขั้นตอนต่อไป ให้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้กับทุกโรงเรียน ซึ่งทาง ผอ.สพฐ ได้ลงพื้นที่มารับทราบปัญหาร่วมกันแล้ว
ขณะที่ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า โรงเรียนมีครูจำนวนน้อย การดูแลจึงไม่เพียงพอต่อจำนวนเด็กๆ จึงเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองสามารถนำนักเรียนมาส่งถึงห้องเรียนได้ แต่ในโอกาสต่อไปอยากขอให้เพิ่มมาตรการเข้มข้นมากกว่านี้
---------------------------------------------
กพฐ.ชื่นชมครูฮีโร่ ช่วยเหตุชายคลั่งบุกโรงเรียน
หลังเกิดเหตุ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวานนี้ ที่โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด จ.ชัยภูมิแล้ว
โดยช่วงเกิดเหตุ มีนักเรียนระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เกือบ 100 คน แต่ครูหลายท่านช่วยกันพานักเรียนวิ่งหนีไปซ่อนตัวในอาคารได้อย่างปลอดภัย โดยครูธวัชชัย ด้วงธรรม ครูผู้สอนรายวิชาพลศึกษา ได้ปกป้องนักเรียน ต่อสู้กับชายคลุ้มคลั่งจนตัวเองได้รับบาดเจ็บที่มือและแขน แต่ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว รวมทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 2 ได้จัดนักจิตวิทยาโรงเรียนเข้าไปดูแลสภาพจิตใจนักเรียนและครูแล้ว
แม้ว่าครั้งนี้ มีครูเพียง 1 ท่านที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนนักเรียนทุกคนปลอดภัย แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในโรงเรียน จึงขอชื่นชมคุณครูธวัชชัย ด้วงธรรม ที่คิดถึงความปลอดภัยของนักเรียนมากกว่าชีวิตของตนเอง ต่อสู้กับผู้บุกรุกอย่างมีสติและกล้าหาญ จนคุณครูคนอื่นๆ มีเวลาอพยพนักเรียนปลอดภัยทุกคน
ตนได้แจ้งเขตพื้นที่และโรงเรียนทุกแห่ง ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานปกครองและสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้มีข้อมูลและสามารถวางแผนป้องกัน รับมือ กรณีชุมชนมีบุคคลผู้เสี่ยงมีพฤติกรรมรุนแรง และได้เน้นย้ำโรงเรียนให้เฝ้าระวังความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในทุกมิติ ให้มีแผนเผชิญเหตุและซักซ้อมการเผชิญเหตุอยู่เสมอ และสพฐ. กำลังพิจารณาสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือ รวมถึงการติวเข้มทักษะครู นักเรียน เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุที่ไม่คาดคิด เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง
------------------------------------------------------
กรมสุขภาพจิต รับชายควงมีดไล่ฟันครู-นักเรียน ป่วยจริง แต่ขาดยา ยังไม่ชัวร์ปมเสพยาบ้า
ขณะที่ นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชในแต่ละจังหวัดมีระบบดูแลและส่งต่อที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่เคสนี้ได้รับข้อมูลว่า ป่วยจิตเวชจริง แต่หลักสำคัญคือ “ป่วยจิตเวชทุกรายจะต้องได้รับยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดยา” หากได้รับยาอย่างต่อเนื่องจะคุมอาการและรักษาได้ ซึ่งตรงนี้จะมีญาติคอยดูแล และผู้ป่วยเองเมื่อรับประทานยาแล้วรู้สึกว่าดีขึ้น จะต้องทานต่อเนื่อง แต่มีบางเคสจริงๆ ที่ไม่ยอมกินยา ทำให้เกิดผลกระทบเป็นข่าวที่พบเห็นมาตลอด
“สำหรับเคสนี้ตามรายงานข่าวเบื้องต้น คือผู้ป่วยอาจไม่ให้ความร่วมมือในการกินยาอย่างต่อเนื่อง และยังไม่แน่ใจว่ามีพฤติกรรมสงสัยอาจมีการเสพยาบ้าหรือไม่ ขณะนี้นำตัวส่งไปรักษาที่ รพ. ภูเขียวแล้ว และประสานข้อมูลร่วมกับ รพ.คอนสาร ที่ดูแลผู้ป่วยรักษาจิตเวชรายนี้ด้วยเช่นกัน”
นพ.พงศ์เกษม กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ทานยาต่อเนื่อง ทางการแพทย์มีความพยายามในการใช้ยาที่เรียกว่า Long Acting เป็นยาฉีดคุณภาพสูงในบางราย ซึ่งต้องเป็นเคสจำเป็นจริงๆ แต่ขณะนี้ราคายายังสูง และไม่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือบัตรทอง กรมสุขภาพจิต กำลังทำรายละเอียดข้อมูลเพื่อจะนำเรียน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการผลักดันให้ สปสช.ให้สิทธิ์ดังกล่าว
ล่าสุดได้เสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ มีท่านนายกรัฐมนตรีฯ เศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน เพื่อให้ครอบคลุมทั้งหมด เนื่องจากทุกวันนี้เราพบปัญหาผู้ป่วยไม่กินยาต่อเนื่อง ทำให้อาการกำเริบ อย่างญาติบางรายก็น่าเห็นใจ เป็นผู้สูงอายุ ไม่สามารถควบคุมการกินยาของคนไข้ได้ ดังนั้น ยาฉีดคุณภาพสูงจะเป็นคำตอบที่กำลังมีการผลักดันเรื่องนี้และควรให้ผู้ป่วยทั้ง 3 สิทธิ ทั้งบัตรทอง ข้าราชการ และประกันสังคม
นพ.พงศ์เกษม กล่าวต่อว่า ยาฉีดจะคุมอาการได้ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ซึ่งจะเสนอว่า ต้องมีแพทย์มีความเห็นอนุมัติร่วมกันอย่างน้อย 2 คน ก็จะมีระบบสมดุลไม่ให้แพทย์ใช้ยาแพงเกินไป เรื่องนี้ต้องมีระบบตรวจสอบด้วย
เมื่อถามว่าสังคมพบปัญหาผู้ป่วยจิตเวชทำร้ายคนเพิ่มขึ้น ประชาชนทั่วไปจะป้องกันตนเองหรือสังเกตอย่างไร นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า
หากเป็นผู้ป่วยจิตเวชและขาดยา จะมีอาการนอนไม่หลับ มีลักษณะตาขวาง พฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม ไม่ดูแลตัวเอง มีอาการหูแว่ว พูดคนเดียว หากสังเกตเห็นต้องหลีกเลี่ยง และหากเริ่มรู้สึกจะเริ่มใช้ความรุนแรงให้เลี่ยงเผชิญหน้าและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2562 ซึ่งมีข้อวงเล็บ 1 และ 2 โดย (1) มีภาวะอันตราย ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อสังคมได้ ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง และ(2) มีความจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วยเอง
แท็กที่เกี่ยวข้อง หนุ่มป่วยจิตเวช ,ชัยภูมิ ,ชายคลั่งถือมีดไล่ฟันนักเรียน