สังคม

เจ้าหนี้โหด จับลูกสาวของลูกหนี้เป็นหลักประกัน ขู่ถ้าไม่ส่งเงิน ก็ไม่ปล่อยลูกคืน

โดย nattachat_c

17 พ.ย. 2566

131 views

ช่วงค่ำ วานนี้ (16 พ.ย. 66) มูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ศิรพงศ์  โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมทั้งน้องสาว และลูกสาว ของ น.ส ปุณญานุช หรือ เปิ้ล อายุ 38 ปี ไปที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.คลองขุด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยเหลือ ด.ญ.เกรซเชียล อายุ 1 ปี 10 เดือน ลูกสาวคนเล็กของ น.ส.เปิ้ล ออกจากบ้านหลังดังกล่าว 


เนื่องจาก น.ส.เปิ้ล ร้องว่า ลูกสาวถูกเจ้าหนี้กักตัวไว้ไม่ให้เจอกัน  เนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.เปิ้ล ได้ขอกู้ยืมเงินจำนวนหนึ่งจากเจ้าของบ้านหลังนี้ และเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ เพื่อหาเงินมาใช้หนี้


โดยเจ้าหนี้เสนอว่า จะดูแลลูกสาวให้ ด้วยความไว้ใจจึงตอบตกลง แต่ก่อนเดินทาง เจ้าหน้าที่นำเอกสารสัญญารับจ้างดูแลบุตรที่เจ้าหนี้ร่างขึ้นมาเองให้ น.ส.เปิ้ล เซ็น


และหลังจากไปทำงานที่ต่างประเทศ ก็มีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่าเอเจนซี่ ค่าภาษีที่ต้องจ่าย ในช่วงแรก น.ส.เปิ้ล จึงไม่สามารถส่งเงินค่าเลี้ยงดู และเงินชำระหนี้กลับมาให้ได้


เมื่อติดต่อกลับมา ขอคุยกับลูก ก็ถูกเจ้าหนี้บ่ายเบี่ยง แม่กลัวจะไม่ได้ลูกคืน จึงให้ญาติมาขอตัวลูกคืนให้ แต่เจ้าหนี้กลับบอกว่า “ถ้าจะเอาลูกคืน ก็เอาหนี้มาจ่ายให้หมดก่อน”  น.ส.เปิ้ล จึงร้องขอความช่วยเหลือมาที่เพจเป็นหนึ่ง ให้มาช่วยเหลือลูกสาวที่บ้านหลังนี้

-------------

เมื่อไปถึงบ้าน น.ส วิลาสินี  หรือป้านก เจ้าของบ้าน ไม่ยอมให้เข้าบ้าน


โดยปฏิเสธว่า เด็กหญิงไม่ได้อยู่บ้านที่หลังนี้ พร้อมสอบถามด้วยอารมณ์โมโหว่า ใครเป็นคนแจ้ง  


น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง แจ้งว่า แม่ของเด็ก คือ น.ส.เปิ้ล ได้ประสานเพจมาให้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ป้านกไม่พอใจ และเกิดปะทะคารมกัน


จากนั้น ป้านกก็ยื่นโทรศัพท์ให้คุยกับ น.ส.สุธีรา ลูกสาวของป้านก  จนเกิดปะทะคารมกันอีกครั้ง  


ซึ่งทางฝั่ง น.ส.สุธีรา อ้างว่า มีหนังสือสัญญาในการเลี้ยงเด็กหญิง  และแม่ของเด็กติดหนี้แม่ของตนเองอยู่  


แต่ทางเพจเป็นหนึ่ง ได้ตอบโต้กลับไปว่า เรื่องหนี้สินให้ น.ส.เปิ้ล และป้านก มาคุยตกลงกัน  


นอกจากนี้ ทางเพจยังมีหลักฐานแชต ที่ป้านกข่มขู่ว่า จะเอาเด็กหญิงไปให้คนกัมพูชาเลี้ยง และไม่ยอมให้ น.ส.เปิ้ล ผู้เป็นแม่ได้ติดต่อ หากยังไม่โอนเงินมาใช้หนี้ จึงต้องการนำเด็กออกมา ไม่ให้เด็กเป็นเครื่องมือในการต่อรอง  


น.ส.สุธีรา ลูกสาวป้านก จึงบอกว่า เด็กไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่อยู่ที่บ้านน้องสาวของตน


หลังจากนั้นไม่นาน น.ส.สุธีรา ก็เดินทางมาที่บ้านป้านก และมีการปะทะคารมกับเพจเป็นหนึ่งอีกครั้ง โดยยืนยันว่า ตนเองเลี้ยงดูเด็กอย่างดี ไม่ได้กักขัง

----------

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่งพูดคุยตอบโต้กับ น.ส.สุธีรา ป้านกเดินออกมาจากบ้าน และตะโกนว่า ถ้าจะเอาเด็กไป ก็ให้ น.ส.เปิ้ล เอาเงินมาคืนตนก่อน จากนั้น สองแม่ลูกก็เดินเข้าบ้าน ไม่สนใจเจ้าหน้าที่


ทำให้กำนันตำบลคลองขุด ต้องเข้าไปเจรจากับป้านก และลูกสาว จนสุดท้ายป้านก ยอมคืนตัวเด็กหญิงมาให้เจ้าหน้าที่  


ซึ่งเด็กหญิงยังอยู่ในอาการตกใจ เจ้าหน้าที่จึงวิดีโอคอลหา น.ส.เปิ้ล แม่ของเด็ก ทำให้เด็กหญิงสงบสติอารมณ์ลง  


จากนั้น พาเด็กไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านโพธิ์ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมอบตัว ด.ญ.เกรซเชียล ให้น้าสาวนำไปเลี้ยงดูที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อรอแม่ของเด็กเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ

------------

ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.เปิ้ล ได้รู้จักกับป้านก และให้ป้านก ไปกู้เงินนอกระบบมาให้ จำนวน 100,000 บาท


ซึ่งป้านกก็เอาเงินที่กู้มา มาปล่อยกู้ให้ น.ส.เปิ้ลต่อ รวมต้นและดอกเบี้ยแล้ว น.ส.เปิ้ล จะต้องจ่ายป้านก จำนวน 300,000 บาท เมื่อยอดเงินเยอะขึ้น ทำให้ป้านกเริ่มกดดัน น.ส.เปิ้ล จน น.ส.เปิ้ล ต้องยอมไปทำงานที่ประเทศแอฟริกาใต้  ซึ่งก่อนจะไป ก็ต้องไปกู้เงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอีก 2 แสนบาท


ระหว่างที่กำลังจะเดินทางไปทำงาน ป้านกได้นำเอกสารการเลี้ยงดูบุตรมาให้ น.ส.เปิ้ล เซ็น โดยเอกสารระบุว่า จะต้องเสียค่าเลี้ยงดูบุตรสาวให้ป้านก เป็นรายเดือน เดือนละ 12,000 บาท  


เมื่อลูกสาวอายุเลย 2 ขวบแล้วจะต้องเสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 13,000 บาท  


เมื่ออายุ 3 ขวบ ต้องเสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 14,000 บาท โดยไม่เกี่ยวกับเงินหนี้สิน 300,000 บาท รวมดอกเบี้ยที่ น.ส.เปิ้ล ได้กู้ไป  


ซึ่ง น.ส.เปิ้ล ไปทำงานตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ได้เงินมาก็ต้องเสียภาษี ต้องจ่ายหนี้เจ้าหนี้ที่ยืมมา 2 แสน จึงไม่มีเงินส่งป้านก ทำให้ป้านกข่มขู่ บอกว่าจะนำลูกสาวของ น.ส.เปิ้ล ไปให้ชาวกัมพูชาเลี้ยง


เมื่อ น.ส.เปิ้ล วิดีโอคอลมาหาลูก ก็ถูกตัดสายทิ้ง ไม่ยอมให้พบเจอลูกสาว หากไม่โอนเงินค่าเลี้ยงดู และใช้เงินที่ติดหนี้ตามที่ตกลงกันไว้  


ซึ่งทั้งหมด มีหลักฐานเป็นข้อความแชตระหว่างป้านก กับ น.ส.เปิ้ล แม่ของเด็ก


ทางมูลนิธิจึงเดินทางเข้ามาช่วยเหลือเด็กหญิง เพื่อไม่ให้เด็กถูกเป็นเครื่องมือต่อเรื่อง


ส่วนเรื่องหนี้สินก็ให้ น.ส.เปิ้ล และ ป้านก มาพูดคุยเจรจาหาทางออกกันใหม่

----------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6bp5c-VYdMI




คุณอาจสนใจ

Related News