สังคม

ลูกกำลังจะมีอนาคต...พ่อแม่ร่ำไห้ ‘น้องม่อน’ จมน้ำตกดับ ขณะเข้าค่ายปัจฉิมฯ จี้ทุกฝ่ายพูดความจริง

โดย petchpawee_k

16 พ.ย. 2566

1.8K views

พ่อแม่ พ้อลูกกำลังจะมีอนาคต นำร่าง ‘น้องม่อน’ ตั้งบำเพ็ญกุศล – ด้านค่ายโร่แจงให้วิทยาลัยเช่าสถานที่-อาหาร เท่านั้น ยืนยันทางวิทยาลัยจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลเองทั้งหมด


วานนี้ 15 พ.ย. 66 หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก ไมกี้จอมป่วน ได้โพสต์แจ้งข่าว น้องม่อน ผู้เป็นลูกชายได้เสียชีวิตแล้ว โดยระบุว่า "ฝากกดแชร์ให้ความยุติธรรมลูกพ่อนนท์แม่นาด้วย ลูกที่พ่อแม่ถนุถนอมอย่างดี ต้องมาเสียชีวิตจากกิจกรรมเข้าค่ายของโรงเรียนหยุดกิจกรรมนี้ซะทีเถอะ หัวอกคนเป็นพ่อแม่ใจแตกสลาย พ่อนนท์แม่นาทำใจไม่ได้จริงๆ


น้องม่อนจมน้ำเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ชีวิตที่ควรมีค่า มีอนาคต เค้าเป็นเด็กดีมาก เรียนดี เรียนเก่ง เกรด 4.00 ได้พ่อแม่ดีเด่นทุกๆปี ปีหน้าจะเข้ามหาลัยแล้ว แต่เพราะความประมาทของครูฝึกที่ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย ณ ค่ายลูกเสือ จ.สระบุรี การแจ้งเหตุกับผู้ปกครองล่าช้า ความสูญเสียที่พวกคุณไม่มีวันรับรู้  ถ้าไม่เกิดกับลูกคุณบ้าง"


ขณะที่ทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง นายอานนท์ หอมผา คุณพ่อของน้องม่อน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะลูกชายกำลังจะมีอนาคตที่ดี คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องสูญเสีย ตนเองไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ครั้งสุดท้ายคือวันที่ตนเองขับรถไปส่งลูกไปโรงเรียนเพื่อไปเข้าค่ายปัจฉิม ไม่คิดว่าจะเป็นการจากลา น้องม่อนเป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ย 4.00 เป็นนักเรียนดีเด่น อีก 3 เดือน น้องจะจบแล้ว เราเตรียมที่จะให้ลูกเรียนมาหาวิทยาลัย


ก่อนจะระบุว่า ค่ายที่น้องไปนั้นเป็นค่ายที่ทางวิทยาลัยไทยอโยธยา เป็นผู้จัดทำเนื่องในโอกาสปัจฉิมนิเทศของทางสถานศึกษา โดยมีนักศึกษาเข้าร่วมจำนวน 40-50 คน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลค่าย 4-5 คน


หลังเกิดเหตุเพื่อนของน้องม่อนได้มาไหว้ศพที่บ้าน พร้อมทั้งได้เล่าเหตุการณ์ให้ตนฟังว่า วันเกิดเหตุทางวิทยาลัยได้พานักศึกษา 40-50 คน ซึ่งมีครูฝึกควบคุมที่เห็น 2 คน (ความจริงมี 5 คน) ไปเล่นน้ำตกเพื่อเป็นการผ่อนคลายหลังจากเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายแล้ว หลังจากเล่นน้ำเสร็จทางครูฝึกได้ให้เด็กไปล้างตัว ซึ่งจุดที่น้องจมเป็นจุดที่เกิดเหตุคนเสียชีวิตบ่อยมาก ตอนนั้นเพื่อนๆและน้องไม่ทราบมาก่อนว่าตรงที่ครูฝึกให้ลง มันลึกหรือไม่เพราะไม่มีใครแจ้งเตือน มีเพียงเจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถเล่นตรงนี้ได้แต่อย่าไปไกลนะ 


น้องม่อนเองว่ายน้ำไม่เป็นอยู่แล้ว ซึ่งคุณพ่อได้บอกว่าถ้าน้องรู้ว่ามันลึกน้องคงไม่ลงไป พอน้องลงไปปรากฏว่าใต้น้ำมันลื่น ประกอบกับตรงนั้นลึกด้วยจนทำให้น้องจมลงไป ขณะนั้นเพื่อนๆก็ได้ตะโกนขอความช่วยเหลือจากครูฝึก ซึ่งครูฝึกเองตะคอกเด็กกลับมาด้วยว่าอย่าไปเล่น คือไม่เชื่อว่าเด็กจมน้ำ ซึ่งไม่ได้มาแบบทันที


หลังเกิดเหตุทางหัวหน้าครูฝึกได้เดินทางมาเคารพศพน้องและได้มาพูดถึงช่วงที่เกิดเหตุให้ตนเองฟัง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับเพื่อนน้องเล่าให้ฟังเลย ซึ่งทางหัวหน้าครูฝึกอ้างว่า ทางครูฝึกได้มีการเป่านกหวีดเตือนแล้วว่าอย่าไปเล่น เรียกให้ขึ้นมา และทางครูฝึกเองเป็นคนช่วยน้องขึ้นมา ซึ่งมันตรงข้ามกับเพื่อนน้องพูดหมดเลย เขาไม่มีการแจ้งเตือน ไม่ได้ช่วย


ส่วนเรื่องการเยียวยาก็ยังไม่มีอะไรเลย ถึงแม้ว่าเวลาผ่านมากว่า 24 ชม.แล้ว มีเพียงแต่แสดงความเสียงใจเท่านั้น ขณะที่การดำเนินการทางคดีวิทยาลัยก็ยังไม่ได้แจ้งว่าจะไปในทิศทางไหน แต่ตอนนี้ตนเองอยากรู้ความจริงที่ไม่ได้ปิดบังว่ามันเกิดอะไรขึ้น และทำไมการพาเด็กไปเล่นน้ำถึงไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ ตอนเองอยากให้เคสน้องม่อนเป็นเคสสุดท้ายที่มีการสูญเสีย


ขณะที่ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังตัวแทนของค่าย ได้ให้ข้อมูลว่าทางค่ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ทางวิทยาลัยจัดเลย ซึ่งทางค่ายเปรียบเหมือนรีสอร์ทหนึ่งที่ให้เช่าสถานที่พักในการอบรม และมีบริการอาหารเท่านั้น ส่วนกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกรีสอร์ท ทางวิทยาลัยเป็นผู้จัดการและดำเนินการ รวมไปถึงวิทยาการและเจ้าหน้าที่ที่นำมาดูแลก็เป็นของวิทยาลัยเป็นผู้จัดหามาทั้งหมด ซึ่งเขาจัดจัดหามากี่คน ทางรีสอร์ทก็ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายหรือก้าวก่ายถือว่าเป็นสิทธิ์ของลูกค้าที่เข้ามาเช่า


พอเหตุการณ์มันเกิดขึ้น ทางรีสอร์ทเข้าใจว่าทางครอบครัวของผู้สูญเสียเข้าใจว่าน้องตกน้ำภายในค่ายระหว่างทำกิจกรรม แต่ความจริงแล้วทางคุณครูและวิทยากร ได้พากลุ่มนักศึกษาออกไปเล่นน้ำตกข้างนอกค่าย  ตอนเกิดเหตุ ทางค่ายทราบว่ามีเด็กจมน้ำเพราะมีรถพยาบาลมา ทางค่ายเองก็ช็อก ทางโรงเรียนเองก็ช็อก ตอนนั้นคุณครูหน้าซีดกันทั้งหมด หลังจากนี้ทางค่ายจะได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยทำความเข้าใจกับทางครอบครัวน้องด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  จมน้ำดับ ,เข้าค่าย ,รีสอร์ท

คุณอาจสนใจ

Related News