สาวท้องอุ้มลูกวัย 9 เดือน ขณะฝนตก ยืนรอรถโดยสาร ตร.ไทรน้อยช่วยพากลับบ้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบว่าเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ไทรน้อย โดยพ.ต.ท.อดิศร บุญสนอง รอง ผกก.ป.สภ.ไทรน้อย ออกตรวจพื้นที่ เมื่อมาถึงบริเวณร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาหน้าโรงพยาบาลไทรน้อย ถนน บางกรวย-ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้พบเห็นหญิงสาวพร้อมลูกอ่อน ยืนอยู่ริมถนนรอรถโดยสารสาธารณะ จึงได้เข้าไปสอบถามหญิงสาวดังกล่าว หญิงสาวได้เล่าให้ฟังว่าตนกับลูกมาเยี่ยมสามีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งถูกรถเฉี่ยวชนและได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลไทรน้อย และกำลังจะกลับที่พักซึ่งอยู่หลังวัดคลองตาคล้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าดึกแล้ว และรถโดยสารประจำทางก็ไม่มี เกรงจะเกิดอันตราย จึงได้อาสาส่งสาวกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ น.ส.รัชสา อายุ​ 23​ ปี หญิงสาวที่อุ้มลูกกลางดึก และนายวันชนะ​ วิเวกขุนศรี​ อายุ​ 19​ ปี​ สามี​ พนักงานเก็บขยะ ชาวอ.บางบัวทอง โดยพบว่าสองสามีภรรยามีลูกทั้งหมด 3 คน คือ ด.ช.เซฟ อายุ 7 ปี ด.ช.น็อต อายุ 9 เดือน และกำลังตั้งครรภ์ลูกในท้องอีก 1 คน อาศัยอยู่ที่ อ.บางบัวทอง เป็นบ้านชั้นเดียวไม่มีเลขที่ โดยเช่าที่ดินปลูก ขนาดตัวบ้านกว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร ตัวบ้านมุงด้วยสังกะสี ภายในบ้านมีสมาชิกจำนวน 6 คน คือพ่อแม่ และครอบครัวของ น.ส. รัชสา 4 คน

จากการสอบถาม น.ส.รัชสา ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบว่า วันเกิดเหตุตนไปเยี่ยม และดูแลสามีที่รพ.ไทรน้อย เนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถจยย.ถูกเฉี่ยวชน ขณะกำลังจะเดินทางไปทำงาน ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืนกว่า เนื่องจากมีเด็กอ่อนไม่สามารถอยู่เฝ้าไข้ได้ ตนจึงเดินออกมาเพื่อเดินทางกลับบ้านแต่รถแท็กซี่ไม่มี พอดีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถผ่านมาทราบเรื่องก็ช่วยพาไปส่งบ้าน ตนรู้สึกดีที่ตำรวจช่วยตนและลูกกลับถึงบ้าน เพราะลูกที่ไปด้วยอายุแค่ 9 เดือนยังเล็กอยู่ และตนก็กำลังตั้งครรภ์ด้วย คืนเกิดเหตุตนก็ไม่ค่อยมีเงินที่จะนั่งแท็กซี่เพราะสามีทำงานคนเดียว ตนไม่มีรายได้จึงยืนรอรถประจำทางเพื่อกลับบ้าน

น.ส.รัชสา กล่าวต่อว่า หลังสามีบาดเจ็บต้องเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.66 ต้องหยุดงานเป็นเวลานาน เพราะมีเลือดคลั่งในสมอง กระดูกหน้าร้าว แพทย์นัดสแกนตรวจสอบอีกครั้งวันที่ 15 พ.ย.66 ครอบครัวก็ไม่มีรายได้ ตอนนี้เงินจะซื้อนมให้ลูกก็ไม่มีก็ยังไม่รู้จะทำยังไงคงต้องรอคู่กรณีอย่างเดียว ซึ่งค่ารักษาพยาบาลตอนนี้ต้องจ่าย 15,601 บาท แต่ตนไม่มีเงินสำรองจ่าย จึงต้องค้างค่ารักษาไว้ก่อน ตอนนี้ครอบครัวไม่มีเงินเลย สามีก็ไม่ได้เดินทางไปล้างแผล คู่กรณีหลังเกิดเหตุโอนเงินมาให้ 1,000 บาท แล้วบอกว่าจะรับผิดชอบทั้งหมด แต่ตอนนี้ติดต่อไปก็อ้างว่าติดงาน ทำให้ตอนนี้ครอบครัวตนไม่มีเงินเลยเพราะสามีทำงานคนเดียว ตนก็อยากให้มีหน่วยงานมาช่วยเหลือเพราะลูกตนตอนนี้ไม่มีเงินค่านม

พ.ต.ท.อดิศร บุญสนอง รอง ผกก.ป.สภ.ไทรน้อย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจป้องกันเหตุเมื่อมาถึงหน้ารพ.ไทรน้อย เวลาประมาณ 00.30 น.เห็นหญิงสาวอุ้มลูกยืนอยู่ด้านหน้ารพ. รอรถประจำทาง ซึ่งถนนเส้นไทรน้อยไม่มีรถประจำทางแล้วเนื่องจากดึกมาก ฝนตก และเปลี่ยวผู้คนแลรถไม่ค่อยมีแล้ว ตนเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงอาสาพาไปส่งที่บ้านแถววัดคลองตาคล้าย ซึ่งอยู่ห่างจากรพ.ประมาณ 5 กม.

เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้มอบเงินช่วยเหลือค่านมลูก 200 บาท และประสานเจ้าหน้าที่ พม.จ.นนทบุรี ให้เข้าช่วยเหลือ หลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด้านคดีความและคู่กรณีเพื่อเยียวยาต่อไป