สังคม

เปิดใจยายวัย 71 กระโดดคว้าแบงก์พัน จนตกแม่น้ำบางปะกง เผยเป็นเงินประทังชีวิต ก้อนสุดท้าย

โดย petchpawee_k

10 พ.ย. 2566

628 views

เปิดใจยายวัย 71 ปี  โดดคว้าแบงก์พันใบสุดท้ายที่ถูกลมพัดปลิวตกแม่น้ำบางปะกง ทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็น เผยเป็นเงินประทังชีวิตก้อนสุดท้าย พลเมืองดีช่วยได้ทัน ล่าสุดมีหลายหน่วยงานเข้าดูแลแล้ว 

เมื่อช่วงสายวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีแจ้งตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่ามีหญิงชราตกลงไปในแม่น้ำบางปะกง  ด้านหลังสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและชาวบ้าน กำลังช่วยประคอง นางพยุง ขันธ์ไชย อายุ 71 ปี ขึ้นมาจากแม่น้ำ ในสภาพหมดแรงจนแทบก้าวขาไม่ไหว  ร้องไห้เสียใจ พยายามชี้ไปที่แม่น้ำและบอกว่าเงินจมหายไป  


เมื่อสอบถามนางพยุง ทราบว่า ที่บ้านมีฐานะยากจน แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากคนรู้จักและผู้ใจบุญ ที่มอบสิ่งของและเงินประทังชีวิต  


ก่อนเกิดเหตุ นางพยุงกำลังจะเดินไปห้างสรรพสินค้าเพื่อไปซื้อของกินของใช้ในครัวเรือน ผ่านท่าน้ำใกล้หอนาฬิกา  แต่แบงก์พันซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้าย  ปลิวออกจากกระเป๋า ตกลงไปในแม่น้ำ และไหลไปตามกระแสน้ำ ด้วยความตกใจ ก็พยายามวิ่งตามไปและตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ  เมื่อวิ่งมาดู พบว่าแบงก์พันของตนลอยไปติดกับกอผักตบชวา จึงพยายามหาไม้มาเขี่ย แต่แบงก์พันกลับจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา  ตนเองเสียดายเงินมาก เพราะเป็นแบงก์พันใบเดียว ใบสุดท้ายที่มีอยู่ ที่หวังจะเอาไปซื้อข้าวสาร น้ำมันพืช เพื่อประทังชีวิต แต่กลับมาจมน้ำหายไปต่อหน้า จึงตัดสินใจกระโดดลงไปในแม่น้ำบางปะกง ทั้งที่ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น อาศัยปีนป่ายเกาะกอผักตบชวา   งมหาเงินในจุดที่จมหายไป  แต่สุดท้ายก็หมดแรง จึงดำผุดดำว่าย เกือบจะจมน้ำอยู่แล้ว


จังหวะนั้น นายหิรัน แย้มพินิจ อายุ 46 ปี พลเมืองดีที่อยู่บริเวณนั้น รีบกระโดดน้ำลงไปช่วยนางพยุงขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย  นายหิรัน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นยายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยหาไม้มาเขี่ยแบงก์พันที่ลอยติดกอผักตบอยู่  แต่พอใช้ไม้เขี่ย แบงก์พันกับจมน้ำลงไปใต้กอผักตบชวาทันที   ตนเองก็ไม่คิดว่ายายจะกระโดดน้ำลงไป เพื่อไปงมหาในแม่น้ำ จนตนเองเห็นว่ายายเริ่มหมดแรง เหมือนจะจมน้ำ จึงตัดสินใจลงไปช่วย  


ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ระหว่างที่ช่วยเหลือพานางพยุงขึ้นมาได้ และกำลังสอบถามเรื่องราว นางพยุงยังร้องไห้ และตายังมองไปที่แม่น้ำ ราวกับจะมองหาแบงก์พันที่จมหายไปตลอดเวลา  เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องปลอบใจว่า เงินเป็นของนอกกาย เอาชีวิตไว้ก่อนดีกว่า แต่นางพยุงก็ยังคงเสียใจหนัก จนพลเมืองดีรายหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น ทราบเรื่อง ก็ตัดสินใจมอบเงิน 500 บาทให้เพราะสงสาร และบอกให้นำเงินจำนวนนี้ ไปซื้อข้าวของ ไม่ต้องตามหาแบงก์พันที่จมน้ำไปแล้ว ให้คิดเสียว่าฟาดเคราะห์ไป  


หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวตามไปดูสภาพความเป็นอยู่ของนางพยุง พบว่าไม่มีบ้านพักอาศัย แต่อาศัยอยู่ในโรงหนังเก่าที่ชื่อ โรงภาพยนต์กิตติรามา  ซึ่งปิดกิจการไปแล้ว ริมถนนมหาจักรพรรดิ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา  ห้องพักที่ใช้พักอาศัย อยู่บริเวณชั้นสองของตัวอาคาร  ไม่มีไฟฟ้า ต้องเดินผ่านความมืดไปยังห้องนอน ลักษณะเป็นมุมสามเหลี่ยมเล็กๆ อยู่ด้านริมของตัวอาคาร  


นางพยุง เล่าว่า  ครอบครัวมีฐานะยากจน ตนเองอาศัยอยู่คนละห้องกับลูกชาย ลูกสะใภ้และหลานชาย โดยมีลูกชายคนเล็กที่ป่วยพิการทางสมองอีกหนึ่งคน  เมื่อก่อนตนเองทำงานอยู่ที่โรงหนังแห่งนี้ เป็นพนักงานขายตั๋ว กระทั่งโรงหนังปิดกิจการไป เจ้าของโรงหนังสงสารครอบครัวของตน จึงให้อยู่พักอาศัยโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จากนั้นตนเองก็ไปรับจ้างล้างจาน  ส่วนลูกชายลูกสะใภ้ก็หางานทำใหม่ เพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว กระทั่งตนเองเริ่มอายุมากขึ้น ทำงานไม่ไหว  และป่วยหลายโรค ทั้งโรคเบาหวาน ความดัน  จึงทำงานไม่ไหวต้องไปหาหมอทุกๆ เดือนตามที่หมอนัด 


ตอนนี้มีรายได้แค่เบี้ยผู้สูงอายุ เพียงเดือนละ 600 บาทเท่านั้น เงินที่ได้มาก็ต้องเอามาเลี้ยงลูกชายคนเล็กที่พิการทางสมอง เนื่องจากประสบอุบัติเหตุโดนรถจักรยานยนต์ชนขณะข้ามถนน จนทำให้สมองได้รับความกระทบกระเทือน เป็นผู้พิการไม่สามารถทำงานได้ ตนเองและลูกชายคนโต ก็ต้องดูแลลูกชายคนเล็กมาโดยตลอด


ส่วนเงินหนึ่งพันบาทที่ได้มานั้น ตนเองไปรับจ้างทำงานเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้านอาจารย์ท่านหนึ่ง แล้วอาจารย์สงสารครอบครัวของตน จึงให้เงินมาหนึ่งพันบาท  ตอนนั้นตนเองดีใจมาก เพราะไม่เคยได้จับแบงค์พันมานานหลายปีแล้ว คิดไว้ว่า จะเอาเงินหนึ่งพันบาทนี้ ไปซื้อข้าวสาร สบู่ ผงซักฟอก ปลากระป๋อง จะได้มีของกินของใช้ อิ่มไปได้หลายมือ    แต่ขณะกำลังเดินไปที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อจะซื้อของต่างๆ  แบงค์พันที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อได้ปลิวไปตามลม จนตกลงไปในแม่น้ำบางปะกง  ตอนนั้นลืมตัวว่าว่ายน้ำไม่เป็น คิดแต่เพียงว่าเสียดายเงินหนึ่งพันบาทนี้ จึงกระโดดลงไป เพื่อจะนำเงินนี้มาซื้อข้าวของให้ลูกๆ ได้กินได้ใช้กัน  จนมีคนมาช่วยตนเองขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัย


เรื่องราวของยายพยุง ทำให้หลายคนเกิดความสงสาร  ในโซเชียลมีการตามหาตัวยายพยุง เพื่อมอบเงินเล็กๆ น้อย ๆ และของกินของใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ยายกับครอบครัว


จนเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (9 พ.ย.66) นายชลธี ยังตรง  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา  ร่วมกับเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ลงพื้นที่ไปให้การช่วยเหลือนางพยุง ขันธ์ไชย อายุ 71 ปี  โดยเบื้องต้นได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน  พร้อมกับเตรียมพิจารณาให้การช่วยเหลือเงินสงเคราะห์แก่ครอบครัวต่อไป


ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “ท๊อป เรารักแปดริ้ว” ที่เป็นตัวแทนชาวโซเชียล นำอาหาร ของกินของใช้ไปมอบให้ยายพยุง ในเบื้องต้น  ได้แจ้งข่าวว่า ยายพยุงมีบัญชีธนาคารของตัวเอง หากผู้ใจบุญอยากจะช่วยเหลือ สามารถช่วยเหลือได้โดยตรงที่ บัญชี ธ กรุงไทย 229-0-59763-5 นางพยุง ขันธ์ไชย โดยคุณยายสามารถทำธุรกรรมได้เองที่ธนาคาร รวมทั้งทางแอดมินเพจ ได้กำชับคุณยายให้ระวังเรื่องมิจฉาชีพ  ซึ่งหากมีอะไรน่าเป็นห่วง ลูกสะใภ้ของคุณยายจะรีบติดต่อมาทางแอดมินเพจด้วย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YCbe0Clg8AE

คุณอาจสนใจ

Related News