'เจ๊สีดา' ยันเอาผิดถึงที่สุด จี้สอบวินัยสามีเป็น ผอ.โรงเรียน แอบคบชู้ ไม่หวั่นถ้าถึงขั้นต้องออกจากราชการ

วานนี้ (31 ต.ค. 66) ที่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายกัณฐัศว์ พงษ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยนางสีดา ภรรยาหลวง อาชีพแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)

เพื่อขอความเป็นธรรม และดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดกับสามี ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี หลังพบว่าแอบคบชู้กับพยาบาล  

โดยมี นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พร้อมด้วย นายสุรินทร์ มั่นประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้รับเรื่อง

นางสีดา บอกว่า จะเดินหน้าเอาเรื่องทางวินัยสามีให้ถึงที่สุด ถ้าถึงขั้นต้องออกจากราชการ ตนเองก็พร้อม เพราะที่ผ่านมาตนเองก็สุดจะทนกับสิ่งที่สามีกับผู้หญิงคนนั้นรวมหัวกันฟ้อง ทั้งข้อหาหมิ่นประมาท , ทำร้ายร่างกาย และ ฟ้องหย่า

ที่ยิ่งเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะผัวตนเองยกยอปอปั้นผู้หญิงคนนั้น ว่าดีกว่าตนเองทุกอย่าง ถ้าผัวต้องออกจากราชการ ก็ต้องการให้รู้ว่า ลองมาใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดากับผู้หญิงคนนั้นบ้าง

นางสีดา ยังบอกว่า หลังจากได้ฟังที่สามีให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเสียใจมาก ที่กล่าวหาว่าตนเองมีสัมพันธ์กับผู้ชายอื่น ท้าเลยว่าให้เอาหลักฐานมาเปิด ตนเองยืนยันว่าเกิดมาไม่เคยนอกใจผัว และไปมีสัมพันธ์กับชายอื่น

วันนี้ ตนเองเป็นเหมือนตัวแทนเมียหลวง อยากเรียกร้องให้เมียหลวง  ตนอาจจะไม่มีศักดิ์มีศรี มีอาชีพการงานที่เชิดหน้าชูตาให้กับผัวได้ แต่อยากให้ออกมาเรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นเมียหลวง

ด้านกัน จอมพลัง บอกว่า พานางสีดามายื่นหนังสือร้องเรียนสามีซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมและจรรยาบรรณ ของบุคลากรทางการศึกษา ว่าสมควรหรือไม่ ที่มีภรรยาแล้ว แต่ยังไปมีภรรยาน้อย โดยอ้างว่าเป็นที่ปรึกษา ก็ต้องมาดูว่าปรึกษากันเรื่องใด โดย พล.ต.อ.เพิ่มพูนได้มอบหมายให้ รองเลขาธิการ กพฐ. เป็นผู้มารับหนังสือ เชื่อว่า นางสีดาไม่ยอมความอย่างแน่นอน

ด้านนายพัฒนะ กล่าวว่า สพฐ.พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยล่าสุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เพชรบุรี เขต 2 ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2553 ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวแล้ว  

ทั้งนี้ ในส่วนของ สพฐ.ก็ได้ขอเร่งรัดให้ดำเนินการสืบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หรือไม่ร้ายแรง ตามข้อเท็จจริงต่อไป

ทั้งนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ยังทำหน้าที่ผู้อำนวยการในโรงเรียนเช่นเดิม เนื่องจากคู่กรณีไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนเดียวกัน และไม่ได้เป็นข้าราชการครู จึงไม่มีโอกาสไปข่มขู่หรือยุ่งกับพยานหลักฐาน

“เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นความผิดส่วนตัว ความผิดทางวินัย และอาญาก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนถ้ามีเรื่องอื้อฉาว ถือว่ามีความผิด ถือว่าเป็นผู้มีความประพฤติชั่ว ส่วนจะร้ายแรงหรือไม่ ก็ต้องว่าไปตามรูปคดี ถ้าร้ายแรงมีโทษปลดออก กับไล่ออก” นายพัฒนะกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ระหว่างที่เจ๊สีดา และกันจอมพลัง รอยื่นเอกสารต่อตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีหญิงรายหนึ่งบอกว่า ตัวเองก็เป็นภรรยาหลวงที่เจอพฤติกรรมของสามีลักษณะคล้ายกับเจ๊สีดา จึงอยากมาให้กำลังใจ พร้อมมอบดอกไม้และผลไม้ให้กับเจ๊สีดาและกันจอมพลัง เพื่อเป็นกำลังใจให้

--------------