รวบแล้ว! จับสึกพระล่วงละเมิดทางเพศเณร หนีผิดหลบกบดานขอนแก่นอ้างเณรเป็นใจ

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สภ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พ.ต.อ.บุญเชิด จันทร์มณี ผกก.สภ.ห้วยคต เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุ พระฤทธิไกร หรือ วิไล อายุ 53 ปี ต.แม่เปิน อ.แม่เปิน จ.นครสรวรรค์ ก่อเหตุขืนใจเณรที่อยู่วัดเดียวกันได้กระทำอนาจาร เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ทั้งร่างกายและจิตใจ จากนั้นได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอหมายศาลเพื่อตามตัวจับกุมมาดำเนินคดี จนทราบว่าไปพบตัวพระฤทธิไกรที่ ต.วังเพิ่ม อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ชุดสืบสวนจึงจับกุมตัวมาวันที่ 13 ต.ค. 66 แล้วทำการจับสึกการเป็นพระทันที จากนั้นก็นำตัวมาถึง สภ.ห้วยคต ในวันนี้ เพื่อทำการสอบสวนคดี

พ.ต.ต.ดิเรก เอี่ยมเร พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยคต ได้นำตัวนายฤทธิไกร ซึ่งขาดจากความเป็นพระแล้ว มาสอบปากคำโดยมีสีหน้าที่เครียดอย่างเห็นได้ชัด ทำการสอบอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า จากนั้น พ.ต.อ.บุญเชิด ผกก.สภ.ห้วยคต ได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบเหตุผลการก่อเหตุที่ห้องทำงาน

นายฤทธิไกร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพอ้างว่า ตอนที่กระทำอนาจารเณร อายุ 14 ปี ตัวเณรนั้นยินยอมแล้วก็รู้เห็นด้วย "ตัวเณรนั่นแหละเล่นก่อน" ซึ่งเณรนั้นกำลังช่วยตัวเองอยู่ แล้วก็เข้าไปช่วยจนสำเร็จความใคร่ จนเรื่องแดง จึงหลบหนี และถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา และหนีไปกบดานอยู่ที่ขอนแก่น และครั้งแรกที่ไปถึงจะไปขออาศัยที่วัด แต่ทางพระไม่ให้อยู่ จึงไปอยู่แถวกระท่อมในหมู่บ้านดังกล่าวโดยมีพี่ชายที่อยู่ที่ขอนแก่นคอยให้การช่วยเหลือ ตนยอมรับว่าได้ร่วมหลับนอนกับเณรมานานแล้วเป็นปี แต่ไปกับพระหรือเณรอีกหลายรูป

พ.ต.อ.บุญเชิด เปิดเผยว่า พ่อของเณรสามวัย 14 ปี ได้มาแจ้งความตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 66 เดิมทีผู้ต้องหาเป็นพระสงฆ์บวชอยู่ที่พักสงฆ์ จ.อุทัยธานี ได้ก่อเหตุกระทำชำเราหรืออนาจาร สามเณรที่บวชอยู่นับแล้วกระทำอนาจารเณรรูปดังกล่าวกว่า 40 ครั้ง จากนั้นก็ได้รวบรวมพยานและหลักฐานขออนุมัติหมายศาลจนจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด หลังจากเกิดเหตุก็มีพฤติกรรมหลบหนีความผิดไปขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปจับกุมมาดำเนินคดีแล้วรับสาภาพทุกข้อกล่าวห คือ กระทำอนาจาร โดยใช้อวัยวะเพศสอดใส่ทางทวารหนัก ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. - 27 ก.ย.66 เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังที่พักสงฆ์ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นที่พักสงฆ์ที่อยู่ในป่า เป็นหมู่บ้านชุมชนของชาวกะเหรี่ยง พระอาจาร์ย์ สายันต์ ขันติสัมปัญโน หัวหน้าที่พักสงฆ์ เปิดเผยว่า นายฤทธิไกรได้มาจำอยู่ที่พักสงฆ์แห่งนี้ประมาณ 1 ปีกว่า มีพระที่รู้จักกันพามาฝาก ไม่รู้ว่าพฤติกรรมว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่มีเรื่องราวฉาวเป็นข่าว ทั้งนายฤทธิไกร และเณร อาศัยหรือนอนอยู่ที่กุฏิเดียวกันด้านหลังที่พักสงฆ์แห่งนี้ เณรมาบวชได้ไม่ถึงพรรษา แต่หลังจากที่เกิดเรื่องก็ทำการสึกไปแล้ว ไปอยู่กับพ่อแม่

"ไม่รู้เลยว่าพระฤทธิไกรนั้น ทำอะไรเณร ก็เพราะว่าที่พักสงฆ์แห่งนี้ ไม่มีไฟฟ้าใช้ พอมืดค่ำพระสงฆ์ก็จำวัดกันเร็ว พอตื่นเช้ามาก็ออกบิณฑบาต มารู้อีกทีก็กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวใหญ่โตไปแล้ว ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่พักสงค์แห่งนี้เลย แต่ก็ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายฤทธิไกร มาดำเนินคดีแล้ว เสื่อมเสียพุทธศาสนาหรือวงการพระสงฆ์ในจังหวัดอุทัยธานีอย่างมาก" หัวหน้าที่พักสงฆ์ กล่าวให้ฟัง 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังพ่อของเณร ที่อยู่อ.แม่เปิน จ.นครสวรค์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวของลูกชาย แต่ไม่สามารถติดต่อได้