สังคม

ยันฝึกตามหลักสูตร ปัดครูฝึกโหดสั่ง นร.นายสิบวิ่ง 10 กม. แจงให้เพื่อนพยุงเข้าที่ร่ม เจออีกรายป่วยคล้ายกันอยู่ ICU

โดย nattachat_c

13 ต.ค. 2566

505 views

ความคืบหน้า กรณีครอบครัวของ นายปกรณ์ เนียมรัตน์ หรือไปร์ท อายุ 26 ปี นักเรียนนายสิบ ตชด. เสียชีวิตระหว่างการฝึก โดยครอบครัวระบุว่า ครูฝึกสั่งให้วิ่ง 10 กิโลเมตร แต่ ไปร์ท วิ่งไปได้ 6 กิโลเมตร ก็ล้มหมดสติ ซึ่งครูฝึกยังสั่งให้เพื่อนหิ้วปีกวิ่งให้ครบ 10 กิโลเมตร


วานนี้ (12 ต.ค. 66) นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย

  • นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา
  • นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา
  • พ.ต.อ.เชษฐวิทย์ นีระฮิง ผู้กำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผกก.9 บก.กฝ.บช.ตชด.)  


ร่วมกันแถลงข่าว ที่ค่ายท่านมุก กองกำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา  


โดย พ.ต.อ.เชษฐวิทย์ ชี้แจงว่า


วันที่ 1 ตุลาคม 2566

นักเรียนนายสิบตำรวจ 100 นาย ที่ได้รับจัดสรรให้มาฝึกที่หน่วย ได้เข้ารายงานตัวรับการฝึก จากนั้น


วันที่ 2 ตุลาคม 2566

เริ่มการฝึกตามแบบฝึกของตำรวจ โดยใช้การฝึกด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และการฝึกของหน่วยฝึก ซึ่งเริ่มแรกจะให้ปรับสภาพร่างกายทุกนายตามปกติ และเดินชมแนะนำสถานที่ในหน่วย


วันที่ 3 ตุลาคม 2566

มีการเดินและวิ่งสลับกัน ระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร และออกกำลังกายประจำวัน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ


วันที่ 10 ตุลาคม 2566

ขณะออกกำลังกาย นายปกรณ์ มีอาการไม่สบาย เดินเซออกจากการวิ่ง เพื่อนจึงประคองไปนั่งพักก่อน ซึ่งไม่ใช่การหิ้วปีกวิ่งให้ครบ 10 กิโล เป็นเพียงแค่การพยุงเข้าที่ร่ม  


กระทั่ง เวลา 9.00 น. พยาบาลหน่วยฝึกไปตรวจอาการ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดา จากนั้น ส่งต่อไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ซึ่งตนและหน่วยฝึก ได้ลำเลียงศพไปยังวัดสระเกษ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยพบกับครอบครัว นายปกรณ์ พร้อมร่วมรดน้ำศพ สวดพระอภิธรรมศพ และเยียวยาศพเบื้องต้นแล้ว


ส่วนกรณีที่ แม่และญาติ ๆ ของ นายปกรณ์ มีความสงสัยว่า ครูฝึกได้สั่งให้วิ่ง 10 กิโลเมตร จนทำให้นายปกรณ์ เป็นลมหมดสติ ก่อนจะเสียชีวิตนั้น

ยืนยันว่า ระบบการฝึกร่างกายก่อนเข้ารับการฝึกอบรม มีความจำเป็นต้องออกกำลังกาย ทั้งการเดินและวิ่ง ตามระยะที่กำหนดไว้  


แต่ตามตารางฝึก จะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง มีทั้งการเดิน วิ่ง และบริหารร่างกาย ซึ่งการวิ่งอาจใช้เวลาเล็กน้อย จึงไม่เป็นความจริงที่การฝึกช่วงแรก จะมีการวิ่ง 10 กิโลเมตร แต่หากเป็นระยะหลัง หากร่างกายแต่ละคนอยู่ตัวแล้ว ก็จะฝึกปกติได้

-------------

ด้าน นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ระบุว่า


จากการตรวจสอบค่ายท่านมุก ที่ได้รับมอบหมายให้ฝึกนักเรียนนายสิบ เป็นการฝึกตามระบบปกติ ไม่ได้ฝึกหนักตามที่เป็นข่าว และสาเหตุที่ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสะเดา ก่อนส่งไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ เนื่องจากมีระยะทางใกล้ และส่งต่อผู้ป่วยตามระบบสาธารณสุข ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ถูกต้องแล้ว  


ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้สั่งการให้ตน และทีมแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพราะเกรงว่า จะมีเชื้อไข้หวัดใหญ่ระบาดภายในกองร้อย หน่วยฝึกจึงสั่งให้กักตัวนักเรียนนายสิบตำรวจ พร้อมให้ฝึกเบา ระยะเวลา 14 วัน ตามหลักเกณฑ์การรักษาโควิด-19

-------------

ด้าน นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า


โรงพยาบาลสะเดาได้รับตัว นายปกรณ์ เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. โดยตรวจร่างกาย พบไข้สูง 40 องศา หมดสติ ไม่รู้สึกตัว แพทย์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมซักประวัติ และใส่ท่อช่วยหายใจ ก่อนส่งตัวไปโรงพยาบาลหาดใหญ่ ประมาณ 10.00 น. และ นายปกรณ์ เสียชีวิตเวลา 15.10 น.


ซึ่ง ทีมสาธารณสุขได้เข้าตรวจสอบภายในกองร้อย หน่วยฝึกดังกล่าว เพื่อวางระบบป้องกันเหมือนการป้องกันโควิด-19 เนื่องจากนายปกรณ์มีไข้สูงกว่า 40 องศา จึงสงสัยเรื่องการติดเชื้อ ทำให้ทีมแพทย์สาธารณสุขอำเภอสะเดา ลงพื้นที่สอบสวนโรค ภายในกองร้อยหน่วยฝึก พบว่า


มีนักเรียนนายสิบตำรวจอีก 30 คน ที่มีอาการดังกล่าว และเป็นกลุ่มเสี่ยงอีก 30 คน และครูฝึกอีก 1 กลุ่ม  ซึ่งทีมแพทย์ก็วางระบบการป้องกันโรคระบาด โดยให้พักการฝึก และให้เฝ้าระวังดูอาการกลุ่มเสี่ยง


แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเชื้อโควิด-19 ระบาดภายในกองร้อยแห่งนี้ แต่ทีมแพทย์สงสัยว่าจะเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งต้องรอผลตรวจให้ชัดเจนอีกครั้ง  


ส่วนผลการตรวจเลือดของ นายปกรณ์ ที่พบว่าติดเชื้อ ก็ต้องส่งตรวจเพาะเชื้อ ใช้เวลา 2-3 วัน รวมทั้ง ยังพบว่ามีอาการฮีทสโตรก ทำให้กระตุ้นให้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่า เกิดจากการมีไข้สูงแล้วไปฝึก

-------------

ขณะที่ นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา ยืนยันว่า


หลังจากค่ายท่านมุก รับนักเรียนนายสิบตำรวจเข้ารับการฝึก ก็มีการประสานงานกับทางอำเภอสะเดา และฝึกตามหลักสูตร


แต่เมื่อมีการเสียชีวิต อำเภอสะเดาก็ประสานงานกับสาธารณสุข เพื่อหาสาเหตุ  เบื้องต้น ทางอำเภอจะทำความเข้าใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และประชาชนในพื้นที่ หากในอนาคตมีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น ก็จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดรถพยาบาล รถกู้ภัย เพื่อรับมือกับเหตุที่จะเกิดขึ้น และรักษาได้ทันเวลา


ล่าสุด ทางครอบครัวนำศพ นายปกรณ์ ไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อให้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด

-------------
วานนี้ (12 ต.ค. 66) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เผยแพร่เอกสารแสดงความเสียใจ กรณีการเสียชีวิตของนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) ค่ายท่านมุก ระหว่างการฝึกอบรม ระบุว่า 


กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ขอแสดงความเสียใจในเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นกรณีของ นสต.ประจำปีงบประมาณ 2565  ซึ่งเข้ารับการฝึกอบรมที่ค่ายท่านมุก หรือกองกำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ หน่วยฝึกได้รายงานว่า นสต.รายดังกล่าว ได้เข้ารับการฝึกอบรมปรับพื้นฐานเตรียมความพร้อม ตามระเบียบประจำวันตามตารางการฝึกอบรม  พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีก 99 นาย


โดยก่อนการฝึก ครูฝึกจะสอบถามอาการเจ็บป่วยของ นสต.ทุกครั้ง เพื่อประเมินความพร้อมของ นสต. หากมีอาการเจ็บป่วย หน่วยฝึกจะให้หยุดพัก จนกว่าจะอาการจะหายเป็นปกติ


และเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 05.30 น. ครูฝึกได้นำ นสต. ฝึกวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเพิ่มสมรรถภาพร่างกายตำรวจ ตามคู่มือหลักสูตร นสต. ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อประมาณ 20 นาที  ต่อด้วยการเดินและวิ่ง รวมระยะทาง 7 กิโลเมตร


และในเวลาประมาณ 06.45 น. ขณะที่เดินสลับวิ่งได้ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร นสต.ที่เสียชีวิต ได้มีอาการเซ และทรุดตัวลง เรียกไม่ได้สติ จนท.พยาบาลของหน่วยฝึก ได้มาประเมินอาการ เบื้องต้นพบว่า มีไข้ 37.8 องศาเซลเซียส มีอาการซึมลง เรียกไม่ได้สติ ถาม-ตอบได้เป็นบางคำ ชีพจรเต้นเร็วและแรง วัดความดันไม่ได้ จึงรีบนำส่ง รพ.สะเดา  


อาการ ณ รพ.สะเดา แพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และตรวจเลือด พบว่า มีภาวะติดเชื้อในกระเแสเลือดรุนแรง แต่ไม่ทราบสาเหตุ แพทย์จึงส่งต่อโรงพยาบาลหาดใหญ่ ในระหว่างทำการรักษา มีภาวะหัวใจหยุดเต้น แพทย์ได้ทำการช่วยชีวิต แต่ นสต.ได้เสียชีวิต ในเวลา 15.11 น. ของวันที่ 10 ตุลาคม 2566


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อยู่ระหว่างเร่งทำการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อชี้แจงข้อมูลให้ครอบครัวและสังคม ได้รับทราบต่อไป


ทั้งนี้ หน่วยได้ให้การดูแลช่วยเหลือในเรื่องการจัดพิธีศพ ได้อำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวในการประกอบพิธีศพ ตั้งบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรมศพ ณ วัดสระเกษ อ.เมือง จ.สงขลา พร้อมกับได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวเบื้องต้น


ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิกำลังพลและสวัสดิการที่ นสต.จะได้รับ เพื่อมอบให้แก่ทายาทต่อไป


โดย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รองผู้บัญชาการฯ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรม และเป็นประธานพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 ต่อไป

-------------
วานนี้ (12 ต.ค. 66) พล.ต.ต.ธนพล โอบอ้อม ผู้บังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  มีหนังสือคำสั่ง กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 346/2566 เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ระบุว่า


เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามมาตรา 68  แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ 6(2) และข้อ 8(3)


จึงให้ ส.ต.ท.ปัญญาวุฒิ ราชพิบูลย์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 9 กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ศปก.กฝ.บช.ตชด.) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ผู้บังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มอบหมาย


ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 12 ต.ค.66

-------------

วานนี้ (12 ต.ค. 66)  พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รองผู้บัญชาการฯ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เดินทางไปที่วัดสระเกษ อำเภอเมือง จ.สงขลา เพื่อพูดคุยเบื้องต้นกับพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต


โดยก่อนจะเดินทางกลับ เพื่อไปเตรียมตัวมาเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรม  พล.ต.ต.ยงเกียรติ ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการจากส่วนกลาง ขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และเพื่อไม่ให้มีการช่วยเหลือกันภายใน ได้สั่งย้ายครูฝึกที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดเเล้ว

-------------

เวลา 19.40 น. ญาติเดินทางไปรับร่าง นายปกรณ์ จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หลังจากผ่าชันสูตรเสร็จรอบเเรกเสร็จสิ้น  และเคลื่อนมาที่วัดสระเกษ เพื่อประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม โดยมี พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และคณะ มาร่วมในพิธีด้วย


ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางเสาวนีย์  อายุ 56 ปี แม่ของนายปกรณ์ ว่า


เมื่อช่วงเย็นที่ พล.ต.ต.ยงเกียรติ ได้มาพูดคุยด้วยนั้น เป็นการแจ้งเรื่องการเยียวยาและชดเชยความเสียหาย พร้อมกับปลอบใจ บอกว่า เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ เพราะตัว พล.ต.ต.ยงเกียรติ ก็มีลูกชายเรียน ตชด. เหมือนกัน เเละท่านได้ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ เผื่อตนยังมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ก็สามารถโทรไปปรึกษาได้  


ซึ่งตนก็อยากจะฝากให้ท่านช่วยดูแลค่ายท่านมุกด้วย ว่าขาดเหลืออุปกรณ์ปฐมพยาบาลอะไรหรือไม่ เวลาใครบาดเจ็บจะได้ช่วยเหลือทัน การที่ตนออกมาพูด ไม่ได้ทำเพื่อลูกชายของตนเท่านั้น เเต่อยากช่วยเด็กคนอื่น ๆ ที่ยังฝึกอยู่ด้วย


ส่วนครูฝึกที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ตนทราบว่ามีการสั่งย้าย ซึ่งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ ตนยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากครูฝึกที่อยู่ในเหตุการณ์เลย ซึ่งตนก็ยังอยากได้ยินคำอธิบายจากตัวของครูฝึกเอง


ตอนนี้ ยอมรับว่า ตนเองรู้สึกสบายใจขึ้นมากกว่าเมื่อวันก่อน ยิ้มได้บ้าง มีกำลังใจมากขึ้น มีเเรงมากขึ้น จากเมื่อวันก่อน ที่ตนล้มทั้งยืน ไม่มีเเรง ไม่อยากพูดกับใคร แต่วันที่เผาร่างลูกชาย ตนก็คงจะเสียใจมากอีกเหมือนเดิม  ตอนนี้ ตนต้องรอผลการชันสูตรศพของลูกชาย ก่อนจะพิจารณาดำเนินการต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสวดพระอภิธรรม พ่อของน้องไปร์ท หรือนายปกรณ์ ได้ใช้ปากกาเขียนข้อความไว้อาลัยถึงลูกชาย ที่ป้ายไวนิล  ข้อความว่า


“พ่อขอโทษ อย่าโกรธพ่อนะ ที่ผลักดันให้ลูกไปเป็น ตชด. สุดท้ายทุกคนต้องเสียใจ ลูกเป็นคนเก่ง แกร่ง และสู้มาก ลูกไม่ใช่กวี แต่เป็นบทเรียนของหลายคน รักลูกที่สุด พ่อ”

-------------

ด้าน พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หลังเสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรม ได้มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวน้องไปร์ท และให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า  


จากกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย โดยเฉพาะครอบครัวของผู้เสียชีวิต ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากส่วนกลาง โดยตนได้กำชับเเล้วว่า ในวันนี้ (13 ต.ค. 66) ให้คณะกรรมการสอบสวน เข้าพื้นที่รีบสอบ เเละสรุปข้อเท็จจริงให้เสร็จ ภายใน 15 วัน เพราะครอบครัวผู้เสียหาย ยังเคลือบเเคลงใจอยู่


ส่วนครูฝึกที่เป็นครูเวรในวันนั้น ตนได้สั่งให้ไปช่วยราชการที่ส่วนกลาง ให้ดึงตัวออกไปก่อน คณะกรรมการจะได้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น จะได้หมดข้อครหาว่า เตี๊ยมพยาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด


จากการที่พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พบว่า ทางครอบครัวสบายใจขึ้น แต่สิ่งที่ยังเป็นกังวล ตนก็น้อมรับ เเละจะกลับไปปรับปรุงในหน่วยงาน โดยเฉพาะในเรื่องครูฝึก ซึ่งหลังจบจากโรงเรียนนายสิบ ตชด.เเล้ว ก็ต้องเข้าอบรมการเป็นครูฝึกด้วย เเต่อายุครูฝึกบางคนก็อาจจะเท่ากับนักเรียนใหม่ ฉะนั้น วุฒิภาวะอาจจะมีไม่เพียงพอ


เท่าที่ตนจำได้ ไม่เคยเกิดกรณีหนักขนาดนี้ ซึ่งนักเรียนที่เกิดเหตุ เป็นนักเรียนใหม่ เพิ่งจะเข้ามา เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างการปรับพื้นฐาน ปรับสภาพร่างกายของนักเรียนที่เข้ามา ซึ่งนักเรียนแต่ละคนมีอายุไม่เท่ากัน  

-------------

ทีมข่าวยังได้รับแจ้งว่า มีนักเรียนนายสิบ จากค่ายท่านมุก อีกนาย ที่มีอาการล้มป่วย คล้ายกับน้องไปร์ท ในเวลาไล่เลี่ยกัน


ขณะนี้ นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลสะเดา ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ (13 ต.ค. 66) ตนจะเดินทางไปเยี่ยม และสอบถามรายละเอียดเช่นกัน รวมทั้งจะเรียกประชุมผู้กำกับหน่วย 9 ทั้งหมด ให้พิจารณาในเรื่องการออกกำลังกาย เเละปรับพื้นฐาน โดยให้เเบ่งเกรดอายุ 18-20 ปี กับ 20 ปีขึ้นไป เพื่อจะได้ปรับสภาพร่างกายจากพลเรือนได้ง่ายขึ้น

-------------

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนักเรียนนายสิบ ตชด. ที่ฝึกพร้อมกับน้องไปร์ท โดยนาย เอ็ม (นามสมมติ) เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า


ก่อนหน้านี้ พวกตนเข้าเรียนพร้อมกัน ตั้งเเต่วันที่ 1 ต.ค. 66  จนกระทั่งช่วง 3-4 วันก่อนจะเกิดเหตุ ไปร์ทมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด เเละอาการไม่ค่อยดี ซึ่งก่อนหน้านี้ นักเรียนก็ไม่สบายกันหลายคน เป็นไข้หวัด จามไอ มีน้ำมูก กลางวันปกติ แต่พอตอนกลางคืนก็เริ่มมีไข้สูงกันหลายคน เป็นผลมาจากการฝึกด้วย ไม่เคยเจอเเดดเจอฝนแบบนี้


จนคืนก่อนเกิดเหตุ ไปร์ทกินยาพาราไป 2 เม็ด กับฟ้าทะลายโจร ก่อนจะตื่นตอนตี 2 ครึ่ง ไปเข้าห้องน้ำ ก็เดินแบบปกติ ทุกอย่างปกติ ไม่มีอะไรผิดสังเกตเลย เเต่อาการก็ทรง ๆ ไม่ดีขึ้น เเละไม่ได้มีการตรวจโควิด หรือวัดไข้  ส่วนครูฝึกที่เป็นครูเวร ตนก็ยังไม่รู้นิสัยใจคอเขา เพราะเพิ่งจะอยู่ได้ไม่นาน


จนวันที่เกิดเหตุ ตนเองวิ่งอยู่ด้านหน้า ส่วนไปร์ทวิ่งด้านหลัง วิ่งไปประมาณ 8 กม. ไปร์ทวิ่งรอบที่ 3 ก็เป็นลม ล้มหมดสติ  เพื่อน ๆ ต้องมาช่วยกันประคอง หิ้วปีกซ้ายขวา เเละวิ่งตามเพื่อนให้ทัน ให้ครบรอบที่ 10 กม.  


ตอนนั้น ครูฝึกก็นึกว่าไปร์ทเจ็บขา หรือวิ่งไม่ไหว เลยพยายามต้อนให้วิ่งต่อ โดยใช้คำพูด รวมถึงใช้สายนกหวีดตีที่ขา


ตนก็ไม่ทราบว่า ครูฝึกทราบหรือไม่ว่า เพื่อนเป็นลม เเละไม่เเน่ใจว่า มีใครบอกครูหรือไม่ เพราะตอนนั้น ทุกคนต้องร้องเพลง เเละวิ่งไปด้วย


หลังจากเพื่อนเป็นลม เเละวิ่งต่ออีกประมาณ 15-20 นาที ไปร์ทก็มือเเข็ง ตาเหลือก เท้าชา ครูฝึกจึงรู้ว่า เพื่อนตนไม่ไหวเเล้ว เขาก็พยายามปฐมพยาบาล เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามตัว ก่อนจะเรียกรถของหน่วย เเละรีบพาไป รพ.สะเดาก่อน  


ตนได้ตามไปดูอาการเพื่อนด้วย ภายในรถ ตนพยายามนวดมือให้คลายเส้น เเละพยายามเรียกเพื่อนให้ได้สติ เขาก็สู้มาก พยายามตื่นขึ้นมา เเละยังทำเสียงในลำคอตอบรับตน เเต่เขาพูดไม่ได้เเล้วตอนนั้น โดยมีพยาบาลของหน่วยไปด้วย 1 คน


ตอนที่ใกล้จะถึง รพ.สะเดา มือก็เริ่มเเข็งเกร็งเเล้ว พอไปถึง รพ. ใช้เวลาเดินทางอีก 30 นาที (กว่าจะถึง รพ. 50 นาที) เพื่อนก็ต้องใส่สายออกซิเจนเเล้ว  ก่อนจะเข้าห้องฉุกเฉิน ตนก็ไม่ได้ตามเข้าไป หลังจากนั้น พยาบาลของหน่วยที่มาด้วยกัน โทรเเจ้ง ผบ.กองร้อย ก่อนจะโทรเเจ้งญาติ


ส่วนอีกเคส ที่ตอนนี้นอนอยู่ห้องไอซียูนั้น ตนทราบว่า เป็นคนที่วิ่งข้างหน้าตน เหมือนเขาไม่สบาย กล้ามเนื้ออ่อนเเรง  ครูฝึกก็พยายามต้อนให้สู้ต่อ หลังจากนั้นเขาก็ไป รพ. เเละตนก็ไม่เจออีกเลย

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_NdqYQLckbE




คุณอาจสนใจ