งามไส้! 'ดาบตำรวจ' ย่องลักไอซ์ของกลาง 1 กก.อ้างเก็บไว้เสพเอง ตรวจพบฉี่ม่วง โดน 4 ข้อหาหนัก

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย  สารวัตรสอบสวน  สภ.เมืองนครพนม  ตรวจสอบของกลางในคดีจับกุมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) เพื่อจะนำไปส่งที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 จ.ขอนแก่น  พบว่าของกลาง ไอซ์ หายไป 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา พบว่าเมื่อวันที่ 4 ต.ค.66  ด.ต.สกลนคร  อายุ 51 ปี สิบเวรควบคุมผู้ต้องหา ได้เข้าไปในบริเวณพื้นที่เก็บของกลางนานพอสมควร  โดยขณะที่เข้าไป ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดเข้าไปในห้องเก็บของกลางเลย จึงเชื่อว่า ด.ต.สกลนคร น่าจะเป็นผู้ขโมยยาเสพติดของกลางไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ต.ค.66  พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ไปที่แฟลตบ้านพักข้าราชการตำรวจ ใน ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านพัก ด.ต.สกลนคร เพื่อจับกุมลูกน้องของตัวเอง ซึ่งจากการสอบถาม  ด.ต.สกลนคร ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้นำไอซ์ของกลางไปจริง โดยนำมาแบ่งบรรจุใส่กระปุกพลาสติกใสแบบมีฝาปิดมิดชิด 6 กระปุก  ซ่อนไว้ในห้องครัวหลังบ้านพัก  เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางคืน

หลังจากนั้นนำตัว ด.ต.สกลนคร ไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลนครพนม พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต  , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.66) พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า ของกลางยาเสพติดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ศุลกากรนครพนม ตรวจยึดไอซ์ 50 ถุง น้ำหนัก 50 กิโลรัม ที่ซุกซ่อนมากับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อขนปูนซีเมนต์ถุงมาจากฝั่ง สปป.ลาว ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ช่องขาเข้าฝั่งไทย  ก่อนนำมาแถลงข่าวในวันที่ 3 ต.ค.66 และนำของกลางไปเก็บรักษาไว้ กระทั่งถูก ด.ต.สกลนคร ลักไปจากห้องเก็บของกลางดังกล่าว 

จากการสอบปากคำ ด.ต.สกลนคร ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีการนำไปจำหน่ายหรือไม่  แต่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวน ส่วนของกลางที่ขโมยไป ตรวจสอบแล้วได้กลับคืนมาครบ ส่วนปมการก่อเหตุ ด.ต.สกลนคร ยอมรับว่า ติดยาเสพติด จึงขโมยของกลางออกไปเสพ

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยมีคดีพัวพันกับยาเสพติดเมื่อ 10 ปีก่อน  แต่ศาลยกฟ้องไป  ส่วนที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีกับ ด.ต.สกลนครอย่างเด็ดขาด พร้อมวางมาตรการป้องกันไม่ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากพบว่าเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทุกราย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/gGr8Fgm8q_A