เผาศพ 'ตะวัน' เหยื่อกราดยิงพารากอน นายจ้างเตรียมทำบุญวันเกิดตะวัน ตามที่น้องเคยตั้งใจไว้

เผาศพตะวัน เหยื่อกราดยิงภายในห้างสยามพารากอน นายจ้างเผย 14 ต.ค. เป็นวันคล้ายวันเกิดตะวัน พนักงานในบริษัทจะร่วมกันทำบุญ นำสิ่งของไปบริจาคให้เด็ก ๆ ตามที่ตะวันเคยตั้งใจไว้  


เมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 เวลา 13.00 น. ที่วัดผาสุกมณีจักร ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.ตะวัน อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เด็กชายวัย 14 ปี กราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของครอบครัวที่เดินทางมาจากประเทศเมียนมา รวมถึงนายจ้าง พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ และผู้ที่มาร่วมพิธี


ก่อนที่จะมีการเคลื่อนร่างของน้องตะวันขึ้นไปบนฌาปนสถาน เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของ น.ส.ตะวัน ออกจากโลงแอร์ ย้ายมาบรรจุไว้ในโลงไม้ ซึ่งจังหวะนี้เอง นาง khin win (คฮิน วิน) แม่ของน้องตะวันก็มามองดูโลงของลูกสาว ได้เห็นใบหน้าของลูกเป็นครั้งแรก หลังลูกจากไปไม่มีวันกลับ


แม่ของ น.ส.ตะวัน เอามือทาบอก สีหน้าของแม่เริ่มเปลี่ยนไปและแม่ก็เริ่มมีอาการวิงเวียนจนเกือบเป็นลม หลังจากนั้นญาติ ๆ รวมทั้ง พ.ต.อ.ทวี ก็ได้นำยาดมและพัดมาวีให้กับคุณแม่ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมเตียงพยาบาลมาสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการนำธงของกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธ์หนึ่งในประเทศเมียนมา มาคลุมไว้บนโลง ก่อนจะเคลื่อนโลงของน้องตะวันไปวนรอบฌาปนสถาน 3 รอบ


จากนั้นให้คุณแม่มานั่งภายในศาลา ซึ่งด้านหน้าของศาลาสามารถมองเห็นโลงของน้องตะวันบนฌาปนสถานได้อย่างชัดเจน ระหว่างที่พาคุณแม่เดินมาที่ศาลานี้ ญาติ ๆ ต้องประคองคุณแม่เข้าไปนั่งภายในศาลา เพราะคุณแม่เสียใจมาก ไม่สามารถที่จะเดินได้ด้วยตนเอง


ต่อมาเวลา 12.40 น. พิธีกรเชิญคุณแม่ขึ้นไปทอดผ้าไตร แต่เนื่องจากแม่ไม่สามารถขึ้นไปได้ จึงให้ตัวแทนเป็นผู้ขึ้นไปทอดผ้าไตรแทน ตลอดเวลาที่ประกอบพิธี คุณแม่มองไปที่โลงศพของลูกด้วยแววตาที่โศกเศร้า และแม่ไม่สามารถขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ให้แก่ลูกได้ หลังเสร็จสิ้นพิธี ตัวแทนจากสถานทูตจึงพาคุณแม่ขึ้นรถตู้กลับไปพักผ่อน            


โดยก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจ น.ส.อักษร จันทรโรจน์วานิช นายจ้างของน้องตะวัน ได้เป็นตัวแทนอ่านประวัติของผู้วายชนม์ บางช่วงบางตอนมีการกล่าวถึง เหตุการณ์วันที่ 3 ตุลาคมด้วย


นอกจากเพื่อน ๆ และญาติของน้องตะวัน ยังมีชาวเมียนมาที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอกว่า 200 คน ที่มาทำงานในกรุงเทพฯ ได้สวมใส่ชุดพื้นเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ เดินทางมาเข้าร่วมพิธีฌาปนกิจในวันนี้ด้วย ลักษณะของชุดชาติพันธุ์ปะโอก็จะมีลักษณะ คือ มีผ้าคาดบนศีรษะทั้งชายและหญิง เสื้อกับกระโปรงจะใช้ผ้าทอพื้นเมือง ที่หน้าอกมีเข็มขัดรูปพญานาคและเข็มกลัดรูปธงชาติของกลุ่มชาติพันธุ์ติดอยู่ หลายคนยังสะพายย่ามระบุอักษรภาษาอังกฤษคำว่าปะโอ (PA-OH) มาด้วย


โดยชุดนี้ตามธรรมเนียมของกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ ปกติจะสวมใส่ชุดนี้ปีละ 5 ครั้ง คือช่วงไปทำบุญออกพรรษา ช่วงเข้าพรรษา ช่วงปีใหม่ ช่วงสงกรานต์ และงานบุญกฐิน ซึ่งงานในวันนี้ถือเป็นการไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ทางกลุ่มชาติติพันธุ์ปะโอจึงอยากสวมใส่ชุดนี้มาไว้อาลัยให้กับน้องตะวัน


ชาวเมียนมาที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ เล่าให้ฟังบอกว่า ชาวเมียนมาที่มาร่วมแสดงความไว้อาลัย ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่ทุกคนล้วนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เดียวกันกับน้องตะวัน หลังจากทราบข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัดที่ประเทศเมียนมาและจากที่ได้ตามข่าวของน้องตะวัน ทำให้ทราบว่า น้องตะวันเป็นคนเก่ง สามารถพูดได้หลายภาษา การสูญเสียครั้งนี้สร้างความเสียใจให้แก่คนในกลุ่มชาติพันธุ์เป็นอย่างมาก จึงอยากให้ดวงวิญญาณของน้องไปเกิดในภพภูมิที่ดี ชาวเมียนมา กลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ ยังได้กล่าวขอบคุณนายจ้างของน้องตะวันในการจัดงานให้แก่น้องในช่วงท้ายด้วย


ภายหลังที่มีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.ตะวัน นายจ้างของน้องตะวัน เปิดเผยว่า ตอนนี้ตัวเองรู้สึกสบายใจขึ้นมาก หลังจากช่วงเช้าได้ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ที่ร้านภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน จากนั้นมาที่วัด เพื่อทำพิธีส่งให้น้องตะวันไปสู่สุคติ และนายจ้างก็ได้ดูแลคุณแม่ของน้องตะวันอย่างดีที่สุด หลังจากนี้นายจ้างจะจ่ายเงินรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท ให้แก่ครอบครัวของน้องตะวัน และช่วงนี้จะให้คุณแม่ของน้องตะวันอยู่ที่กรุงเทพฯไปก่อน เพื่อรักษาอาการป่วย  


ส่วนตัวมองว่า คุณแม่เป็นคนมีจิตใจดีมาก เพราะเมื่อวานนี้แม่บอกว่า "แม่มีความทุกข์ แต่แม่โชคดีที่มีลูกเป็นคนดี และแม่ก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานศพให้แก่ลูกสาว" ยอมรับว่าในฐานะนายจ้างตอนแรกรู้สึกเศร้า แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะได้ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว


หลังจากนี้จะมีการทำบุญและลอยอังคารตามขั้นตอน ซึ่งวันที่ 14 ตุลาคมนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของน้องตะวัน พนักงานในบริษัทตกลงกันว่าจะร่วมกันทำบุญ โดยการนำสิ่งของไปบริจาคให้กับเด็ก ๆ ตามที่น้องตะวันเคยตั้งใจไว้  


ทั้งนี้ นายจ้างยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุแรก ๆ ตอนนั้นรู้สึกโมโหและมีอารมณ์โกรธ ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวไปว่าจะดำเนินการกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด แม้จะเป็นเด็กก็ตาม แต่เมื่อได้พูดคุยกับแม่ของตะวัน แม่ไม่ได้ติดใจอะไรอีก ตัวเองจึงปล่อยให้เป็นไปตามหน้าที่ของตำรวจตามที่แม่ต้องการ ซึ่งตอนนี้สภาพจิตใจของแม่ดีขึ้นมากแล้ว


ตนเองยังได้บอกกับแม่ว่า "ตะวันทำบุญบุญมาแค่นี้ ตะวันเป็นคนดี ตะวันก็น่าจะไปอยู่ในที่ที่ดี ๆ" นายจ้างยังบอกด้วยว่า "ตอนแรก ๆ เป็นใครใครก็ช็อก เป็นใครก็ตกใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปแล้ว แต่จิตใจก็ยังย่ำแย่อยู่ตามปกติ"


ขณะที่เพื่อนสนิทของ น.ส.ตะวัน เผยว่า ตนเองรู้จักกับน้องตะวันมานาน 10 ปี เคยทำงานขายของร่วมกับน้องตะวัน เมื่อ 6-7 ปี ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน น้องตะวันพูดได้หลายภาษา เป็นคนขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์กับนายจ้าง หลังทราบข่าวเหตุการณ์ดังกล่าวไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับน้องตะวัน อาจจะถึงเวลาของเขาแล้วก็ได้


"ตอนแรกรู้สึกโกรธ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่ แต่ตนไม่โทษใครคิดว่าเป็นกรรมของน้องตะวัน คนไทยทุกคนใจดีและน่ารัก ตนเองไม่มีความกังวลเรื่องการอาศัยอยู่ในประเทศไทย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนที่ทราบข่าวว่าตะวันโดนยิง ก็ภาวนาอย่าให้เสียชีวิต แต่มันคงเป็นเวรกรรม"

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/yNy--FJQERE