สสจ.ตรัง สั่งสอบโรงพยาบาลเอกชน นำยาใช้พ่นมาฉีดให้เด็ก จนเกิดอาการช็อก

นายแพทย์สินชัย รองเดช นายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) จังหวัดตรัง กล่าวถึงกรณีแม่รายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวของลูายวัย 4 ขวบ ป่วยไข้หวัด แอดมิตโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจ.ตรัง แต่พยาบาลพาร์ทไทม์ ให้ยาอะดรีนาลีน ซึ่งเป็นยาใช้พ่น มาฉีดเข้าทางเส้นเลือด ทำให้ลูกชายช็อก มีเลือดออกปาก อาการสาหัส ว่าล่าสุดทางสำนักงานสาธารณสุข ได้รับทราบข้อมูลมาบ้าง ซึ่งล่าสุดอาการเด็กพ้นวิกฤตแล้ว แต่ยังมีอาการอ่อนแรงครึ่งซีก ไม่สามารถไปโรงเรียนได้


ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ได้ลงไปดูในเรื่องของผู้ให้บริการวิชาชีพเฉพาะสาขาต่างๆ ของโรงพยาบาลเอกชน ว่าได้แจ้งรายชื่อขออนุญาตมาที่สำนักงานอย่างถูกต้องทุกคนหรือไม่ รวมทั้งดูในเรื่องของมาตรฐานการให้บริการ และเรื่องความผิดพลาดในการบริหาร กรณีการให้ยาที่ไม่ถูกช่องทาง โดยตนเองได้มอบให้กลุ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ลงไปตรวจสอบและเก็บหลักฐานต่างๆ ว่ายาที่ให้ผู้ป่วยเป็นยาอะไร สั่งโดยใคร และผู้รับออเดอร์ในการให้ยาครั้งแรกคือใคร ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องของยาหรือไม่


โดยเฉพาะยาอะดรีนาลีน ซึ่งเป็นยาอันตราย การสั่งออเดอร์ หรือรับออเดอร์ จนไปถึงห้องยา ต้องมีความรอบคอบ และให้ถูกช่องทางในการเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วย มิเช่นนั้นจะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงฉับพลันได้ เพราะยาอะดรีนาลีน จะไม่นิยมให้ทางเส้นเลือด ยกเว้นในกรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ หัวใจหยุดเต้น เพื่อช่วยฟื้นคืนชีพ แต่ถ้าให้ในผู้ป่วยปกติ จะเน้นการพ่นละอองฝอย เพื่อให้ค่อยๆ รับยาเข้าไป


ขณะเดียวกัน ยังได้ไปติดตามโรงพยาบาลเอกชนว่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างไร และมีการเยียวยาให้กับผู้เสียหายอย่างไรบ้างแล้ว แม้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทางญาติจะไม่ได้ร้องเรียนมาที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง แต่ตนเองก็ได้สั่งการให้รองนายแพทย์สาธารณสุขลงไปดูแล้ว เนื่องจากเหตุเกิดในพื้นที่ของจังหวัดตรัง ซึ่งพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้รับบริการ และผู้ให้บริการ รวมทั้งไปตรวจสอบพยาบาลที่ให้ยาว่าเป็นพยาบาลพาร์ทไทม์หรือไม่ ทำงานที่ไหน อยู่ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง หรือไม่ และได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ซึ่งหากไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง โรงพยาบาลเอกชน ต้องมีความผิด