โซเชียลสงสัยลุงตาบอด เดินขอเงินอ้างเอาไปซื้อข้าวกิน หวั่นเป็นมิจฉาชีพหลอกเงิน

จากโพสต์หนุ่มรายหนึ่ง เตือนภัยมิจฉาชีพ ย่านอโศก ระบุว่า "#ฉันตกเป็นเหยื่อเพราะความสงสาร" พร้อมโพสต์ภาพ ลุงคนหนึ่งนั่งนับเงินอย่างสบายใจ โดยเขียนข้อความระบุว่า "ระหว่างทางไปกินข้าว เจอลุงเสื้อชมพูคนนี้ ดูภายนอกเป็นคนตาบอดจริงๆ สะพายกระเป๋า ถือไม้เท้า ท่าท่างกๆเงิ่นๆ หาคนช่วยเหลือ ก็เลยถามว่าจะไปไหน ลุงตอบกลับว่า "ตั้งแต่เมื่อวานไม่มีอะไรตกถึงท้อง ตอนนี้หิวมากๆ ขอข้าวกินหน่อยได้ไหม "

จากนั้นผู้โพสต์ได้รีบไปซื้อข้าวกล่องและน้ำไปให้ ซึ่งทำให้รู้สึกหัวใจฟู ที่ได้ช่วยลุง แต่ขณะเดินกลับ เจอคนขายไก่ทอด เล่าว่า ข้าวที่น้องเอาไปให้ลุง เขาไม่ได้กินนะ เขาโยนทิ้งแล้ว เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้โพสต์ก็ทำใจ บอกอยากใจดี ตกเป็นเหยื่อมิฉาชีพเอง

ต่อมาผู้โพสต์ เจอลุงเสื้อสีชมพูนั่งนับแบงก์อยู่ จึงถ่ายรูปไว้เตือนภัยคนอื่น มากกว่าจะเดินเข้าไปถามว่าทำแบบนี้ทำไม

อย่างไรก็ตาม หนุ่มรายนี้ยังได้โพสต์อีกว่า ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า ลุงคนนี้ มักจะนำเงินที่ได้จากการใช้ความสงสารไปแลกที่ธนาคารในห้างพารากอน  ทุกๆวัน วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 พันบาท คิดง่ายๆ ใน 1 เดือน 30 วัน จะได้เงินหลอกลวงไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ให้จำหน้าไว้ มิจฉาชีพแกล้งตาบอด จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

ผู้โพสต์ยังฝากบอกลุงด้วยว่า อย่าเอาความบกพร่องร่างกายไปหากินบนความสงสารของคนอื่น

ทั้งนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่ตลาดสุขตาและละแวกใกล้เคียง ย่านอโศก สอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้า วินจักรยานยนต์ ต่างบอกตรงกันว่า เคยเห็นลุง ซึ่งมีพฤติกรรมทำตัวน่าสงสาร บางครั้งก็เดินชนลูกค้า เมื่อใครหยุดพูดคุย ก็จะขอเงิน อ้างว่าไปซื้ออาหาร เป็นค่ารถกลับบ้านบ้าง บางครั้งก็ทำท่าทีข้าวกล่องตกหล่นกระจายและร้องไห้ ให้น่าสงสาร แต่วันนี้ยังไม่เห็นลุงมาเดินย่านนี้


ส่วนแม่ค้าขายข้าวโพดต้ม ที่ขายมา 3 ปี บอกว่า พบเจอลุงคนนี้บ่อยๆ เชื่อว่าไม่น่าตาบอดจริง เพราะเห็นเดินได้คล่องแคล่ว เข้าข่ายเป็นมิจฉาชีพเดินขอเงินผู้คนในย่านนี้ และตนเคยเห็นลุงนั่งนับเงินที่มีคนให้บางวันเป็นบึก ซึ่งคิดว่าเกินหลักพันแน่นอน