ฝากขัง ‘นายนัน’ โจรขโมยทารก ปัดเอี่ยวแก๊งลักเด็ก-คดีน้องต่อ แม่ร่ำไห้บอกลูกทำความดี เดี๋ยวก็ได้ออกมา

ตำรวจคุมตัว ‘นายนัน’ ฝากขัง แม่โผล่กอดร้องไห้บอก “อยู่ในนั้นให้ทำตัวให้ดีเราทำความดีเดี๋ยวก็ได้ออกมา” ทันทีที่รถคุมขังเคลื่อนออกจาก สภ. แม่นายนัน ได้เดินตามรถไปร้องไห้เป็นลมล้มฟุบ พร้อมโทรขอโทษพ่อแม่เด็ก

ความคืบหน้ากรณีนายนันทจักษ์ หรือนัน อายุ 42 ปี เข้าไปขโมยเด็กทารกชาย อายุเพียง 2 วัน ภายในโรงพยาบาลบางเลน จ.นครปฐม ต่อมาตำรวจเข้าช่วยเด็กและจับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพักซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของน.ส.นิ่ม แม่น้องต่อ ด.ช.วัย 8 เดือน ที่สูญหายไปเมื่อหลายเดือนก่อน

วานนี้ (15 ส.ค.) 09.30 น. “นางลัดดา” แม่ของ “นายนัน” ได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชายทั้งน้ำตา พร้อมนำข้าวผัดรวมมิตรกับน้ำดื่มมาให้กิน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวฝากขัง ซึ่งจังหวะที่แม่เจอ “นายนัน” ก็โผล่เข้ากอดด้วยความเป็นห่วง ร่ำไห้ด้วยกันทั้งคู่ ถามลูกชายด้วยความเป็นห่วงว่า “เงินที่ฝากไว้กับตำรวจหรือยัง แม่มาช้าเพราะต้องไปส่งหลานไปโรงเรียน”

ขณะที่ “นายนัน” ก็ร่ำไห้และกล่าวคำขอโทษ ทำให้แม่ยิ่งร้องไห้พลั่งพลูและบอกลูกชายว่า “ไม่น่าทำแบบนี้เลย หนูทำความดีความชอบมาเยอะเดี๋ยวก็ได้ออกมา”

ทีมข่าวพยายามถาม “นายนัน” ว่าเงินรวมทั้งหมด 16,000 บาท ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีการโอนเข้าบัญชีของตนนั้นได้มาจากไหน “นายนัน” ยืนยันเงินจำนวนนี้ไม่มีอยู่จริง ในบัญชีธนาคารไม่มีเงินเลย ถ้ามีจริงให้ตำรวจถอนออกมาให้ดู ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งลักเด็กและคดี “น้อง ต.” แล้วก่อนเดินเข้าห้องขัง “นายนัน” บอกกับนักข่าวว่า “ช่วยพี่ด้วยนะ”


หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายนัน ขึ้นรถคุมขัง นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม จังหวะที่ตำรวจคุมตัวนายนัน ออกมาได้บอกกับแม่ “ให้ตามไปประกันตัวที่ศาลฯ ด้วย ไม่รู้ว่าจะได้ประกันหรือเปล่า” ซึ่งแม่ก็ได้บอกกับลูกว่า “อยู่ในนั้นให้ทำตัวให้ดีนะ อย่าไปดื้อกับเขา เราทำความดีเดี๋ยวก็ได้ออกมา”

ทีมข่าวพยายามสอบถามนายนัน ถึงเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ที่นำไปลงทุนจดทะเบียนเปิดบริษัทจำหน่ายกล่องกระดาษ เจ้าตัวยอมรับว่าเปิดบริษัทจริง แต่เงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเก็บจากการทำงานเป็นเซลล์ แต่ตอนนี้บริษัทปิดไปชั่วคราวเพราะถูกโกง และยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องต่อและแก๊งลักเด็ก

ส่วนเงินที่ตำรวจบอกว่ามีการโอนเข้าบัญชีทั้งหมด 1 แสน 6 หมื่นบาท อยากให้ตำรวจไปตรวจสอบทุกบัญชีว่ามีเงินจริงหรือไม่ พร้อมชี้แจงว่าที่มีสมุดบัญชีหลายเล่มเพราะเปิดไว้รอรับเงินจากกองทุนหลายแห่งที่เคยซื้อไว้ในช่วงที่กองทุนได้รับความนิยม

และทันทีที่รถคุมขังเคลื่อนออกจาก สภ. แม่ของนายนัน ได้เดินตามรถไป ก่อนที่จะร้องไห้เป็นลมล้มฟุบลงต่อหน้าสื่อมวลชน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาช่วยอุ้มเข้าไปในห้องรับแจ้งความ

ทีมข่าวได้สอบถามแม่ของ “นายนัน” อีกครั้งถึงเรื่องเงิน 16,000 บาท ที่ตำรวจบอกว่าถูกโอนเข้าบัญชี “นายนัน” แม่ปฏิเสธไม่ทราบเรื่องเงินในบัญชีของ “นายนนัน” แต่เคยถามลูกชายว่าทำไมถึงเปิดบัญชีไว้เยอะ ลูกชายบอกว่าเปิดไว้เพื่อรับเงินปันผลจากกองทุนและหุ้นประมาณ 10-20 ล้านบาท ซึ่งตนเชื่อว่าลูกชายเพ้อเจ้อไปเอง และยืนยันว่า “นายนัน” ตกงานมาเป็นราวปี ไม่มีเงินใช้มานานแล้ว ต้องขอเงินน้องสาวใช้ครั้งละ 500 บาท และยืนยันว่าลูกชายไม่เกี่ยวข้องกับคดี “น้อง ต.”

แม่ “นายนัน” ยังฝากถึงสื่อด้วยว่าขอให้นำเสนอข่าวด้วยข้อเท็จจริง เพราะมีบางประเด็นที่ไม่ใช่เรื่องจริงและทำให้ครอบครัวเสียหาย พร้อมฝากถึง “นางกำไล” เพื่อนบ้าน ที่บอกว่าเห็น “นายนัน” อุ้ม “น้อง ต.” ไป ให้เอาหลักฐานมาเปิดเผยด้วย เพราะถ้าไม่มีหลักฐานจะฟ้องกลับ พร้อมฝากขอบคุณ “นางสาวนิ่ม” ที่มาเป็นพยานยืนยันในคำให้การว่าลูกชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ “น้อง ต.”


ขณะเดียวกันแม่ของผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์พูดคุยกับพ่อแม่ของเด็กที่นายนัน ไปขโมยมา โดยแม่ผู้ต้องหาได้ขอโทษและขออภัยเรื่องนี้ทางแม่ไม่รู้เรื่องด้วย หลังจากรู้ว่าลูกชายนำเด็กมาที่บ้านก็ได้มีการพูดคุยให้เอาเด็กกลับไปคืนพ่อแม่ ระหว่างการสนทนาแม่ของผู้ต้องหาได้ร้องไห้บอกกับพ่อแม่ของเด็กว่า “ถ้ามีอะไรให้โทรมาหาป้าเพราะป้าก็ไม่มีใครอยู่ด้วยเนื่องจากลูกไปทำงานต่างจังหวัดกันหมด” ส่วนพ่อแม่เด็กก็มีการพูดคุยและวางสายไป

พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ.อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจนำโทรศัพท์ผู้ก่อเหตุไปตรวจสอบ พบว่ามีสลิปการโอนเงินและมีภาพเด็กเป็นจำนวนมากโดยใช้การสร้างอัลบั้มรูปไว้ในโทรศัพท์

เรื่องการตรวจสอบบัญชีมอบหมายให้สืบภาคไปดำเนินการ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามาและยังรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจหลังจากที่เก็บผมเส้นขนและดีเอ็นเอไปตรวจสอบ /ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาทารุณกรรมกับผู้ต้องหาเพิ่ม ต้องรอผลตรวจเป็นเอกสารจากทางโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม

ในส่วนของนางลัดดา แม่ของผู้ต้องหา น่าจะบริสุทธ์ใจจากการสอบถามและได้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังพบว่าเด็กอยู่ในบ้าน นางลัดดาได้พูดว่าให้รีบเอาเด็กไปคืน คาดว่าน่าจะไม่มีส่วนรู้เห็นกับการขโมยเด็กมาจากโรงพยาบาลบางเลน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/4NwYlbeHB2k