สังคม

ผู้ปกครองโมโห 3 นักเรียนประถม ถูกครูวัย 75 ปี อนาจาร ด้านผอ.ขอไกล่เกลี่ย ทนาย เสนอเงินแลกไม่เอาเรื่อง

โดย paranee_s

23 ก.ค. 2566

901 views

ที่นครนายก เพจเรื่องจริงนครนายก ได้รับแจ้งจาก ผู้ปกครองเด็กนักเรียน ว่ามีเหตุครูกระทำอนาจารลูกหลาน บริเวณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.บ้านนา จ.นครนายก


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว และได้พบผู้ปกครองเด็ก ๆ หลายรายกำลังตะโกนด่าทอ ครูผู้ก่อเหตุ ด้วยความโกรธแค้น อยู่ด้านหน้าห้องประชุมของโรงเรียน หลังทราบว่า ลูกหลานตนถูกกระทำอนาจารในห้องเรียน


จากการสอบถามข้อมูลจากผู้ปกครองของเด็ก ๆ ซึ่งผู้ปกครองได้เล่าว่า ช่วงเช้า เวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 21 ก.ค. มีคุณครูผู้หญิงได้โทรมาแจ้งผู้ปกครอง ว่าเกิดเหตุครูผู้ชายวัย 75 ปี ได้กระทำอนาจารเด็ก ต่อมาทราบชื่อครูผู้ก่อเหตุคือ นายสำลี อายุ 75 ปี เป็นครูจิตอาสา สอนวิชาภาษาอังกฤษ ไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งมีพฤติกรรมในการก่อเหตุคือ นำเด็กมานักตัก กอด หอม จูบปาก จับอวัยวะเพศ และลูบคลำทั้งตัว จำนวน 3 คน โดยเด็กผู้เสียหาย 2 คน อยู่ชั้นประถม ป.5 และเด็กอีก 1 คน อยู่ชั้นประถม ป.6


เมื่อผู้ปกครองเด็กทราบจึงได้รีบเดินทางไปที่โรงเรียนทันที เมื่อได้พบกับครูผู้ก่อเหตุ ทางผู้ปกครองจึงได้ถามครูคนดังกล่าวว่า ได้ทำจริงหรือไม่ ซึ่งครูท่านนั้นได้ปฏิเสธ บอกเพียงว่าสอนเด็กเล่นดนตรี ก็ต้องมีจับมือหรือโดนตัวบ้างเพื่อสอนให้เด็กจับคอร์ด ซึ่งผู้ปกครองพยายามถามอยู่หลายรอบเพื่อให้ครูคนดังกล่าวยอมรับความจริง แต่ครูไม่ยอมรับ


ผู้ปกครองจึงเกิดอารมณ์ โกรธอย่างมาก เข้าตบที่ใบหน้าครูผู้ก่อเหตุ 1-2 ที จากนั้นได้มีครูท่านอื่นได้เข้าห้ามปราม ซึ่งหลังจากที่โดนผู้ปกครองตบหน้าครูผู้ก่อเหตุไปแล้ว ผู้ปกครองก็ได้ถามอีกว่า ได้ทำจริงหรือไม่ ซึ่งสุดท้ายครูผู้ก่อเหตุก็ได้ยอมรับ ว่ามีการทำพฤติกรรมดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้คิดอะไรก็มองเป็นลูกหลาน เอ็นดูเฉย ๆ ครูอายุขนาดนี้แล้ว ไม่ได้คิดเรื่องชู้สาวอะไรกับเด็กแน่นอน


ผู้ปกครองถามต่ออีกว่า กระทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ครูผู้ก่อเหตุพูดวกไปวนมา และตอบว่า 2 ครั้ง แต่ผู้ปกครองนั้นไม่ปักใจเชื่อคำพูด จึงได้ไปพูดคุยกับเด็ก ๆ ทั้ง 3 คน ว่าถูกกระทำมากี่ครั้ง ซึ่งเด็กบางคนได้บอกว่า โดนหลายครั้ง นานเป็นปีแล้ว แต่ไม่กล้าบอกใคร


ส่วนครูผู้หญิงที่เป็นคนโทรแจ้งผู้ปกครอง เล่าว่าช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ ครูผู้ก่อเหตุเข้ามาที่ห้องเรียน แต่ไม่ใช่เวลาสอนของครูผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็ไม่ได้มีท่าทีผิดปกติอะไร จากนั้นคุณครูผู้หญิงได้เรียกเด็ก ๆ ไปรวมแถวหน้าหน้าอาคาร เด็ก ๆ ก็ได้ลงกันมาทั้งหมด


ต่อมาครูผู้ก่อเหตุได้เรียกเด็ก ๆ ทั้ง 3 คนให้ไปปิดไฟห้องเรียน ซึ่งเด็ก ๆ บอกว่าเหตุผลที่ไม่ได้ปิดไฟแล้วลงมาจากห้องเรียนเพราะว่าเห็นครูผู้ก่อเหตุ นั่งอยู่ในห้องเรียน หลังจากนั้นเด็ก ๆ ก็ได้กลับเข้าไปบริเวณห้องเรียนอีกครั้ง ซึ่งเด็ก ๆ ขึ้นไปประมาณ 5 นาที ก่อนวิ่งลงมาบอกคุณครูผู้หญิงว่าถูกครูผู้ก่อเหตุ เรียกเด็ก ๆ มานั่งตัก กอด หอม จูบปาก จับอวัยวะเพศ และลูบคลำทั้งตัว


ซึ่งเด็ก ๆ ยืนยันว่าถูกกระทำจริง โดยครูผู้ก่อเหตุได้พูดว่า คิดถึงจังเลย และครูก็จะให้กินยาด้วย ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าคือยาอะไร แต่เด็ก ๆ ไม่ได้กิน


เมื่อสอบถามครูผู้ก่อเหตุว่าให้เด็กกินยาอะไร ครูผู้ก่อเหตุนั้นตอบไม่ชัดเจนว่าคือยาอะไร พูดวกไปวนมา บอกเพียงว่าเด็ก ๆ ขอยากิน ก็เลยป้อนยาเด็ก ๆ เมื่อสอบถามต่อว่าใช้อะไรป้อน ครูผู้ก่อเหตุ ก็พูดวกไปวนมาอีก ตอนแรกบอกว่าใช้ปากป้อน ตนยังแสบคออยู่เลย ไม่ได้ตั้งใจจูบปาก แค่จะป้อนยาเท่านั้น แต่เมื่อพูดไปพูดมาสักพัก ก็บอกว่าใช้มือป้อนไม่ได้ใช้ปาก


ต่อมา ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เรียกผู้ปกครองเด็ก ๆ เข้าไปพูดคุยภายในห้องประชุมพร้อมกับคุณครูท่านอื่น ๆ ซึ่งมีผู้ชายอีกคนอ้างว่าเป็นทนายของผู้ก่อเหตุ อยู่ภายในห้องประชุมด้วย


จากการพูดคุย ผู้ปกครองได้เล่าว่า ทางผู้อำนวยการโรงเรียน พยายามจะไกล่เกลี่ยให้ผู้ปกครองยอมความ โดยมีชายที่อ้างตัวว่าเป็นทนายพยายามเสนอเงินให้กับผู้ปกครอง ในตอนแรก เสนอเงินจำนวนหลักหมื่นบาท แต่ผู้ปกครองก็ไม่ยอมรับเงินและยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทางชายคนดังกล่าวก็ได้เสนอจำนวนเงินหลักแสนบาท มาอีกครั้ง ผู้ปกครองก็ไม่ยอมรับ


ซึ่งระหว่างพูดคุยกันอยู่นั้น ทางชายที่อ้างตัวว่าเป็นทนาย ได้มีคำพูดถ้อยคำที่ไม่ดีกับผู้ปกครอง ทางผู้ปกครองจึงได้พูดไปว่า ทนายนี่ปากแซ่บเนอะ ปากแซ่บดีจริง ๆ ชายคนดังกล่าวจึงเกิดความไม่พอใจ และได้พูดกลับมาว่าแซ่บตรงไหนหะ แซ่บตรงไหน ก่อนเดินพุ่งเข้ามาหาผู้ปกครองทันที ซึ่งผู้ปกครองก็บอกกลับไปว่ามึงมาสิ มึงมา


จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนจึงได้เดินมาบอกว่าให้ใจเย็น ๆ และดึงชายที่อ้างว่าเป็นทนายแยกออกไป ทางผู้ปกครองก็ได้ตะโกนกลับไปอีกว่า เอามั้ยมึงกับกูคนละ 500 เอามั้ยละ


ซึ่งผู้ปกครองของเด็ก ๆ ทั้ง 3 คน ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และไม่รับเงินตามที่ได้เสนอมาเพื่อให้ยอมความ เนื่องจากผู้ปกครองรับไม่ได้กับพฤติกรรมของครูคนดังกล่าว และเกรงว่าหากยอมความไป ก็จะได้ใจ และอาจไปก่อเหตุกับเด็กคนอื่นอีก


เบื้องต้นมีข้อมูลว่าครูผู้ก่อเหตุ นั้นได้สอนอยู่หลายโรงเรียน และคาดว่าน่าจะมีเด็ก ๆ คนอื่น ทั้งในโรงเรียนที่เกิดเหตุ และโรงเรียนอื่น ๆ อาจจะโดนกระทำแบบนี้เหมือนกัน ซึ่งผู้ปกครองอยากให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำเด็ก ๆ ผู้หญิงทุกคนในโรงเรียนรวมถึงโรงเรียนอื่น ๆ ที่ครูคนนี้ไปสอนอยู่ด้วย ว่ามีใครที่ถูกกระทำแบบนี้อีกหรือไม่ เนื่องจากว่าเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจของเด็กที่อาจจะถูกกระทำอยู่แต่ไม่กล้าบอกผู้ปกครอง



หลังจากเจรจากันไม่สำเร็จ ผู้ปกครองจึงได้นำเด็ก ๆ เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านนา โดยผู้ปกครองนั้น ได้ขอให้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนพาเด็ก ๆ ไป สภ.บ้านนาด้วย แต่ผู้อำนวยการปฏิเสธที่จะพาเด็ก ๆ ไป กับผู้ปกครอง โดยได้บอกว่าตนติดธุระไม่สามารถไปด้วยได้ ทางผู้ปกครองจึงได้พาเด็ก ๆ ไปกันเอง เมื่อแจ้งความเรียบร้อย ก็ได้ประสานไปยัง หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อให้เข้าช่วยเหลือ และดูแลสภาพจิตใจของเด็ก ๆ



ซึ่งทาง พม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือในทันที และแจ้งว่า เข้าถึงข้อมูลค่อนข้างยากหน่อย หลังประสานทางโรงเรียนแล้ว แต่ยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ทาง พม. จึงได้ประสานไปที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะติดตามคดี และจะมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าสอบปากคำพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันอังคารที่ 25 ก.ค.


เบื้องต้น จากการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม มีโทษจำคุก 1 – 10 ปี หรือปรับ 10,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ และรวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงจะสามารถสรุปผลว่าการกระทำของครูผู้ก่อเหตุดังกล่าว จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายในข้อหาอื่นๆ อีกหรือไม่


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งจากทางเพจเรื่องจริงนครนายก ว่าได้มีผู้ปกครองของเด็ก แจ้งมาว่า ทางโรงเรียนจะทำการฟ้อง เพจเรื่องจริงนครนายก รวมถึงผู้ปกครอง ที่ทำให้ทางโรงเรียนนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งทางเพจเรื่องจริงนครนายก ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หากโดนฟ้องมาก็พร้อมจะต่อสู้คดี เนื่องจากตั้งแต่เกิดเหตุ ทางเพจได้โพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ นำเสนอให้ประชาชนได้รับรู้ข่าว เพื่อเป็นการเตือนภัยสังคม และให้ผู้ปกครองติดตามเอาใจใส่ลูกหลาน สอบถามพูดคุย กับเด็กๆ ที่อาจจะถูกกระทำแบบนี้อยู่ แต่ไม่กล้าบอกใคร


ทางเพจ ยืนยันว่าไม่เคยเอ่ยชื่อโรงเรียน ชื่อครูผู้ก่อเหตุ แต่อย่างใด ทางเพจเรื่องจริงนครนายก ก็ถึงกับ งง ทำไม ผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่ช่วยเหลือเด็กอย่างเต็มที่ และยืนเคียงข้างเด็กกับผู้ปกครอง ซึ่งคนทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียนั้นควรจะเป็น ฝ่ายครูผู้ก่อเหตุมากกว่า ไม่ใช่คนที่ลงไปช่วยเด็กๆ


ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวมาว่า ทาง ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้ประสานหาทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล (บิ๊กโจ๊ก) เพื่อให้ช่วยติดตามคดีนี้ซึ่งทางบิ๊กโจ๊กได้รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการในทันที และทาง ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พร้อมส่งทนายความลงมาช่วยเหลือในทันทีหากเพจเรื่องจริงนครนายกนั้นโดนฟ้องจริง เนื่องจาก เพจเรื่องจริงนครนายก นั้น เป็นมูลนิธิองค์กรทำดี สาขานครนายก ของทางดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ด้วย.

คุณอาจสนใจ

Related News