สังคม

ลูกชายเหยื่อทางเลื่อนดอนเมือง ลงบันทึกประจำวัน ยันไม่ต้องการเอาผิดใคร ผ่านไป 1 สัปดาห์ ยังไร้คำตอบ

โดย petchpawee_k

7 ก.ค. 2566

51 views

ลูกชายผู้บาดเจ็บพบ ตร.ลงบันทึก ประจำวันเหตุการณ์แม่ถูก ดูดขายันไม่ได้ต้องการเอาผิดใคร แต่อยากรู้เพราะอะไร ผ่านไป 1 สัปดาห์ ยังไร้คำตอบ ห่วงแม่ พออาการดีก็เริ่มหารายได้ เพราะมีภาระ ขอบคุณทุกกำลังใจให้แม่ ฟื้นตัวเร็ว เริ่มหัดเดินและศึกษาการใส่ขาเทียม


นายกฤตย์ กิตติรัตนา ลูกชายของผู้บาดเจ็บ วานนี้ได้เดินทางมาที่ สน.ดอนเมือง ให้สัมภาษณ์ว่าที่เดินทางมาวันนี้ เป็นหนึ่งขั้นตอนกระบวนการของฝั่งผู้เสียหาย ที่ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ยังไม่ได้ดำเนินการเพราะมัวแต่มุ่งเรื่องรักษาคุณแม่ วันนี้ จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้ โดย ได้นำพยานซึ่งเป็นพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นมาให้การกับพนักงานสอบสวนพร้อมกับทนายความ


ซึ่งการมาลงบันทึกประจำวันครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของตนเองไม่ได้ต้องการจะเอาผิดใคร แต่อยากทราบความจริง เป็นอย่างไรมากกว่า ใครเป็นคนผิด


ขณะที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและยังไม่สามารถแจ้งว่าจะเข้าข้อหากระทำผิดข้อใดได้บ้างเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีผู้รับผิดชอบหลายส่วน โดยแยกเป็น ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นเจ้าของสถานที่ ซื้ออุปกรณ์ทางเลื่อนจำนวน 20 ตัวจากบริษัทฮิตาชิ  ส่วนบริษัทที่ซ่อมบำรุงเป็นบริษัท ฮิตาชิ สยามประเทศไทยจำกัด

ซึ่งต้องมาตรวจสอบรายละเอียดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากความบกพร่องของเครื่องยนต์หรือตัวบุคคลหรืออุปกรณ์อื่นที่ทำให้คุณแม่ของนายกฤษต์ ได้รับได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องสูญเสียขา ส่วนอาการบาดเจ็บของมารดา  


ในส่วนของการหาสาเหตุผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งสัปดาห์ก็ยังไม่ทราบและยังไม่ได้พูดคุยกับคณะกรรมการทำให้ครอบครัวเกิดความไม่สบายใจเป็นปกติที่เวลาเนิ่นนานมาแล้วกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ


ส่วนเรื่องความสบายใจคุณแม่มีความสบายใจมากขึ้นและดูสดชื่นมากขึ้นโดยในช่วงที่เจ้าหน้าที่ การท่ามาเยี่ยมเยี่ยมพูดคุย ก็จะบอกให้คำสัญญาจะดูแลรักษาคุณแม่ และจะเจรจาค่าเยียวยาในลำดับถัดไป


 “แต่ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้ทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติม แม้ผมจะเขียนจดหมายเปิดผนึกไปแล้ว”


ผมเป็นเด็กขอออกความเห็นในฐานะประชาชนที่ใช้สนามบินหนึ่งคนรู้สึกว่าสนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินระหว่างประเทศมีทั้งคนไทยและต่างประเทศใช้งานค่อนข้างเยอะ ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัยมาตราฐานสูงสุด แต่ที่เจอไม่ใช่


ในส่วนนี้ไม่ใช่เหตุเกิดแล้วบอกว่าพร้อมเยียวยา ผู้เสียหาย ต้องบอกว่าตอนนี้มาตรฐานของสนามบินดอนเมืองไม่สามารถจะซัพพอร์ตประชาชนได้แบบทุกคนแล้ว และเหตุแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ก็ ไม่มี ใครสามารถตอบได้ ตลอดระยะเวลา หนึ่งสัปดาห์ที่รอคอย ในฐานะที่ลูกแม่เราต้องสูญเสียขา


“ผมอยากบอกว่าทุกท่านที่มาเยี่ยมคุณแม่เพราะพวกท่านเป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้บริหารของท่าอากาศยานผมได้แต่ขอร้องว่าให้ความเป็นธรรมกับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาที่สุดผ่านมาแล้วหลายวันความคืบหน้าไม่ชัดเจนทำให้ครอบครัวไม่สบายใจอยู่แล้ว”


ส่วนกล้องวงจรปิดทางครอบครัวได้ดูแล้วก็พบว่าเป็นไปตามการแถลงเพราะมุมกล้องวงจรปิดอยู่ไกลไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าแม่ตกลงไปเพราะอะไรลักษณะที่ตกนั้นในกล้องวงจรปิดมองไม่เห็นเพราะมุมกล้องไกลมาก และมีคนอื่นเดินอยู่ด้วย


ส่วนกรณีกระแสข่าวว่าขณะที่แม่เดินอยู่บนทางเลื่อนมีการใช้โทรศัพท์ขอยืนยันว่าไม่จริง เพราะมีมุมกล้องอื่นที่ไม่ใช่ทางเลื่อนเห็นชัดเจนว่าแม่มีการลากกระเป๋าสี่ล้อด้านข้างไม่ได้มีการคุยโทรศัพท์อย่างแน่นอน เพราะช่วงขณะที่เกิดเหตุมีพยานหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าคุณแม่ถ่ายรูปและโทรแจ้งคุณพ่อ


การจะดำเนินคดีกับใคร หรือไม่คุณแม่ตัดสินใจคนเดียวตอนนี้สิ่งที่กังวลคือ แม่กังวลเรื่องภาระที่คุณแม่ต้องใช้จ่าย เพราะแม่มีภาระเลี้ยงดูคุณตาคุณยาย จสกคนเคยมีรายได้ก็ไม่มี วันแรกที่แม่ออกจากห้องไอซียูก็ขอ laptopเพื่อมาเทรดหุ้นหารายได้


สิ่งที่คุณแม่พูดกับทางการท่า ที่มาเยี่ยมว่าแม่เป็นคนชอบเดินทาง ชอบเที่ยวก็กังวล ว่าจากนี้ การใช้ชีวิตอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อคุณแม่อาการเริ่มดีขึ้นก็ได้มีการประสานบริษัททำขาเทียมที่เข้ามาให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาในการทำขาเทียมในอนาคต


ส่วนอาการคุณแม่ของตนตอนนี้ หลังจากที่เข้าห้อง ICU เป็นเวลา 4 วัน ก็สามารถ ออกมาและพยายาม ฝึกเดินด้วย Walker และเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองหรือช่วยตัวเองเบื้องต้น  


นอกจากนี้ทางครอบครัวตนก็ได้ แต่งตั้งให้อาจารย์อ๊อด นักวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตร เป็นผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมสืบสวนกับหลายหน่วยงานในการประชุมหาข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่หลังจากประชุมวันนี้ตนยังไม่ได้คุยรายละเอียดใดๆกับอาจารย์อ็อด


นายกฤตย์ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อไม่นานนี้ตนเดินทางไปที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อขึ้นวันไดเลื่อนก็รู้สึกขาหมดแรงและจู่ๆก็ร้องไห้ออกมาอีกด้วย

---------------------------------------------------

ทอท.ร่วมประชุม ตรวจสอบปัญหาทางเลือกขาผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัสพร้อมนำทีมคณะตรวจสอบที่เกิดเหตุด้านอาจารย์อ๊อดหนึ่งในทีมตรวจสอบระบุเป็นอุบัติเหตุ ขณะเปิดเพลงแผ่นบันไดเลื่อนที่ผู้บาดเจ็บยืนอยู่เกิดยุบตัวและถูกบีบอัด


เมื่อวานนี้ถือว่าเป็นการประชุมครั้งแรก เพื่อต้องการหาคำตอบว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุทางเลื่อนดูดขานักท่องเที่ยว โดยการประชุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานดอนเมือง  วิศวกรเครื่องยนต์ สภาวิศวกรรมสถาน  บริษัทที่ขายทางเลื่อนของญี่ปุ่น  รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์” หรือ “อ.อ๊อด” อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงตัวแทนของญาติทนายความทั้งส่วนของท่าอากาศยานดอนเมืองและทนายความของผู้บาดเจ็บ


โดยช่วงเช้าเป็นการประชุมเนื้อหาสรุปรายละเอียดเบื้องต้นของการตรวจสอบทางท่าอากาศยานดอนเมืองกับกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วชี้แจงในที่ประชุม


จากนั้นเมื่อเวลา 13.30 น. ได้มีการลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุเพื่อให้ทั้งคณะกรรมการและตัวแทนญาติได้เห็นจุดเกิดเหตุและตรวจสอบ และมีการทดสอบอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆของทางเลื่อนที่ใช้งานตามปกติกับ ทางเลื่อนที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรโดยมีหน่วยงานส่วนกลางเป็นตัวช่วยในการตรวจสอบเพื่อความ โปร่งใส


ส่วนบริษัทฮิตาชิซึ่งเป็นบริษัทที่ติดตั้งทางเลื่อนดังกล่าวและเป็นบริษัทที่ดูแลเรื่องการซ่อมบำรุงนั้นยังไม่ได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเครื่องยนต์กลไกลว่ามีอะไรผิดหรือผิดปกติหรือมีความชำรุดเสื่อมเสียหรือไม่จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว


ส่วนกรณีที่สังคมสงสัยว่ามีการตรวจเช็คเครื่องทางเลื่อนทุกวันนั้นใช้วิธีการใดจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ระบุว่าการตรวจเช็คจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายวิศวกรเครื่องกลและไฟฟ้าจากตรวจสอบโดยเปิดทางเลื่อนดู ดูระบบการไหลเลื่อนของทางเลื่อนและบริเวณจุด เชื่อมต่อต่างๆและจุดสำคัญก็สุดท้ายคือบริเวณหวีที่ก่อนจะสิ้นสุดทางเลื่อนซึ่งทำแบบนี้เป็นประจำทุกวันก็ไม่เคยเกิดเหตุแบบกรณีนี้    


 ซึ่งที่ผ่านมาหากตรวจสอบพบว่าตอนเช้าเครื่องทางเลื่อนเสียก็จะมีการหยุดซ่อมบำรุงปรับปรุงทันทีไม่มีการฝืนใช้ต่อไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียด


ขณะเดียวกันทีมข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกซึ่งจะมีประชุมทั้งหมดสามครั้งก่อนจะมีการสรุปและแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง


ส่วนกรณีเรื่องกล้องวงจรปิดและข้อมูลต่างๆที่ทางตำรวจสน. ดอนเมือง ยังไม่ได้รับรวมไปถึงลูกชายของผู้บาดเจ็บยังไม่ได้รับนั้น “ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้ทั้งสองฝ่ายเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.ค.” โดยส่งผ่านรองผู้กำกับท่านหนึ่ง ส่วนฝั่งผู้บาดเจ็บนั้นได้ส่งให้กับทนายความแล้ว


โดย รศ.ดร.วีระชัย หรือ อาจารย์อ๊อด เปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ว่า จากการตรวจสอบ สาเหตุการเกิดเหตุหนึ่ง มีความคืบหน้าประมาณ 80% และจะมีการประชุมอีกครั้งรอบต่อไป


โดยจากประชุม และลงพื้นที่ตรวจสอบอุปกรณ์ในวันนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุ โดยพบว่าแผ่นทางเลื่อน ชิ้นที่ผู้โดยสารที่บาดเจ็บยืนอยู่นั้น เกิดหลุด และเมื่อมาถึงช่วงที่แผ่นทางเลื่อน จะม้วนตัว จึงทำให้ เกิดแรงดูดดึงขาเข้าไปด้านใน


ลักษณะเป็นการยืนอยู่ตรงแผ่นที่จะหลุด จะมีน็อตยึด 4 จุด แต่เหลือแค่ 1 จุดที่เกี่ยวไว้ทำให้แผ่นทางเลื่อน ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเหยียบอยู่นั้น หลุดแล้วโค้งม้วนลงไปอยู่ข้างล่างระยะเวลาประมาณ 10 วินาที ก่อนที่ เซฟตี้สวิทช์ ที่อยู่กับทางเลื่อนมี 5 จุด เริ่มทำงาน หยุดภายใน 10 วินาทีแต่ช่วง 10 วินาทีนี้ขาของผู้เสียหายถูกอัดเข้าไปเรื่อยๆ


ส่วนหวีเหล็กที่อยู่ตรงนั้นก็หลุด เข้าไปบริเวณโคนขามีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตรด้วยแรงอัดของทางเลื่อน มันดันและอัดไปเรื่อยๆทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/63XLMz6mJno

คุณอาจสนใจ

Related News