สาวสุดช้ำ แฉแก๊งแม่สื่อ หลอกแต่งชายจีน สุดท้ายมีลูกให้ไม่ได้เจอทุบตีน่วม-กักขังกว่า 3 ปี

ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับ น.ส.เตย (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ชาว จ.อุดรธานี เล่าให้ฟังว่า ตนเคยแต่งงานเมื่ออายุ 18 ปี แต่ได้แยกทางกับสามี ตอนนี้มีลูกติด 2 คน จากนั้นตนได้เดินทางไปทำงานนวดแผนไทยที่พัทยา ชลบุรี เพื่อส่งเงินกลับมาให้พ่อแม่เลี้ยงลูก


เดือนสิงหาคม ปี 2562 มีเพื่อนผู้หญิงในหมู่บ้านโทรมาหา บอกว่า มีแม่สื่อชาวไทยมาติดต่อหาผู้หญิงไทยให้ไปแต่งงานกับชายชาวจีน โดยจะให้ค่าสินสอด 1 แสนบาท แต่ต้องจดทะเบียนสมรส และเดินทางไปอยู่บ้านผู้ชายที่ประเทศจีน เมื่อมีลูกแล้วจะกลับบ้าน หรืออยู่ต่อก็ได้


ซึ่งตอนนั้นตนคิดแต่เพียงว่า อยากให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ดีขึ้นจึงตัดสินใจไปพบกับแม่สื่อชาวไทย ตอนนั้นได้บอกกับแม่สื่อว่า ตนเคยมีลูก และทำหมันแล้ว แต่แม่สื่อบอกว่า ไม่ต้องบอกให้หนุ่มจีนรู้


ต่อมา แม่สื่อพาหนุ่มจีนมารู้จักตน แล้วมีการทำสัญญากันขึ้น พอแต่งงานก็ให้ไปอยู่ที่บ้านผู้ชาย ภายใน 6 เดือน ต้องมีลูก หากมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น สามารถเดินทางกลับเมืองไทยได้ ซึ่งมีแม่สื่อและแม่ของตนเป็นคนลงชื่อในสัญญา


จากนั้นก็จัดงานแต่งตามประเพณี โดยจัดที่บ้านของตน มีค่าสินสอด 1 แสนบาท หลังจากจัดพิธีแต่งงานเสร็จ หนุ่มชาวจีนก็พาตนไปยื่นวีซ่า รอวีซ่าประมาณ 1 เดือน ช่วงนั้นตนรู้สึกว่า แต่งงานกันแบบไม่มีความรักคงจะไปไม่รอด จึงแจ้งแม่สื่อไป แต่แม่สื่อบอกให้ทนไปก่อน ถ้าไปอยู่จีน 6 เดือนแล้วไม่ตั้งท้องค่อยคิดหาทางกลับ แต่พอไปอยู่ได้ 2 เดือน ก็ติดต่อแม่สื่อไม่ได้


ปรากฏว่าอยู่ 6 เดือน ก็ยังไม่มีลูก ตนได้บอกกับแม่สามีว่า ตนมีลูกและทำหมันแล้ว แต่ครอบครัวสามีไม่เชื่อ หลังจากนั้นสามี และแม่สามี ก็ทุบตีทำร้ายตน บอกว่าเสียเงินให้แม่สื่อไป 1 ล้านบาท กลับไม่มีลูกให้ หนักเข้าก็กักขังตนไว้ในบ้าน 3 ปี จนป่วยซึมเศร้า ดีที่มีพ่อสามีช่วยพูดปลอบใจให้อดทน


สุดท้ายตนทนไม่ได้จึงหลบหนีไปขอความช่วยเหลือกงสุลไทยในเมืองเซี่ยงไฮ้ ให้ช่วยส่งกลับประเทศไทย ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 30,000 บาท (ค่าปรับวีซ่าหมดอายุ 1 หมื่นบาท และค่าเครื่องบินอีก 18,000 บาท)


เมื่อกลับมาถึงบ้าน จึงอยากตีแผ่ความจริงว่ามีขบวนการแม่สื่อหาหญิงไทยไปแต่งงานกับคนจีน แล้วกินค่าหัวคิวจำนวนมาก และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่ และตอนนี้ต้องการจดทะเบียนหย่ากับหนุ่มชาวจีนด้วย