สังคม

รพ.แจงกรณีเด็ก 1 เดือนท้องเสียหนัก สุดท้ายเท้าขึ้นสีดำ จนต้องตัดทิ้ง

โดย paranee_s

3 ก.ค. 2566

1.6K views

สำหรับกรณีที่มีพ่อแม่ร้องขอความเป็นธรรม ลูกอายุ 1 เดือน 10 วัน ท้องเสีย เข้าโรงพยาบาลสุดท้ายถูกตัดเท้า ผ่านเพจโหนกระแส ที่ติดใจเรื่องการรักษา ว่าทำไมลูกต้องตัดเท้า อยากให้โรงพยาบาลออกมาชี้แจงสาเหตุให้ชัดเจน จนทราบว่าเรื่องราวดังกล่าวได้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเด็กหญิงรายดังกล่าวที่ถูกตัดเท้าด้านขวา


ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ก.ค.66 ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส นายแพทย์พรประสิทธิ์ จันทระ ผอ.โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์, น.ส.กฤตยา แดงสุวรรณ หน.พยาบาล และแพทย์หญิงนูเรีย พัฒนปรีชาวงศ์ แพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านกุมารเวชกรรม ได้ร่วมชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น


โดยนายแพทย์พรประสิทธิ์ ผอ.โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า พ่อแม่เด็กพาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 66 ด้วยอาการท้องเสียแต่ไม่ดีขึ้น จนวันที่ 24 มิ.ย. 66 ทางโรงพยาบาลจะส่งเด็กไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพราะเด็กเลือดเป็นกรดต้องทำการเจาะเลือดแต่เด็กตัวเล็กมาก ไม่สามารถเจาะได้เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่มีผู้เชี่ยวชาญ และได้ปรึกษากับพ่อแม่เด็กแต่พ่อแม่เด็กตัดสินใจจะส่งรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ จ.นราธิวาส


แต่หลังจากออกจากโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ พ่อแม่ไม่ได้นำลูกเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน แต่นำกลับมานอนพักที่บ้าน 1 คืน และในวันที่ 26 มิ.ย.66 พ่อแม่เด็กได้พาเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนที่แจ้งไว้ แต่หมอไม่สามารถที่จะรักษาเด็กได้ เนื่องจากไม่สามารถเจาะเลือดเด็กได้เช่นกัน จึงได้ส่งตัวเด็กมารักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์อีกครั้ง ถ้าไม่เจาะจะขาดน้ำและเสียชีวิตได้


จนวันที่ 27 มิ.ย.66 ทางโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ส่งตัวเด็กไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลยะลา เพราะว่าเส้นเลือดดำใหญ่เริ่มตีบเมื่อเจาะเสร็จทางโรงพยาบาลยะลา ได้ส่งเด็กกลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ดังเดิม และในวันที่ 29 มิ.ย.66 ทางโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ปรึกษาพ่อแม่จะส่งตัวเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เนื่องจากเท้าเด็กเริ่มมีสีดำคล้ำ แต่พ่อแม่ตัดสินใจไม่ได้ต้องเสียเวลาไป 1 วัน


วันที่ 30 มิ.ย.66 พ่อแม่ตัดสินใจให้ส่งลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ตามคำแนะนำของหมอ เนื่องจากทางโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมเส้นเลือดเฉพาะทาง จนแพทย์พบเด็กจึงแจ้งพ่อแม่จำเป็นต้องตัดเท้าด้านขวา เพื่อรักษาชีวิตเด็กไว้


ด้านนายแพทย์พรประสิทธิ์ ผอ.โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในส่วนของเด็กสุดท้ายก็ต้องมาดูแลต่อเรื่องการฟื้นฟู ทางโรงพยาบาลจะดูแลเต็มที่ ในส่วนของการเยียวยาก็เป็นไปตามขั้นตอนของสิทธิทุกประการ ทางโรงพยาบาลเองเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นเราก็จะทบทวนต้นตอจุดอะไรที่เราจะปรับปรุงได้บ้างที่จะไม่ให้มีเกิดขึ้นอีก ซึ่งขั้นตอนนี้เราดำเนินการแล้วถึงแม้ว่าจะดีแล้วแต่จะทำให้สมบูรณ์กว่านี้ ส่วนแผนการระยะยาวเราจะสร้างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ครบทุก ๆ ด้านเพื่อชาวนราธิวาส


ด้าน น.ส.กฤตยา แดงสุวรรณ หน.พยาบาล กล่าวว่า พ่อแม่เด็กคงสงสัยว่าเด็กทำไมเจาะเลือดบ่อยจัง อย่างที่ผู้อำนวยการเรียนให้ทราบว่า เด็กมีภาวะเลือดเป็นกรดในการแก้เลือดเป็นกรดหมอต้องให้ยา และการคำนวณปริมาณยาซึ่งจะต้องสอดคล้องกับผลตรวจเลือด เด็กพวกนี้จะถูกเจาะเลือดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้หมอคำนวณยาให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้นวันละ 2 ครั้งในสายตาพ่อแม่ ไหนเวลาจะแทงน้ำเกลือเส้นเลือดมันแตก เพราะเด็กเส้นเล็กมากเด็กนี้เพียง 2,400 กรัม ตัวเล็กมากเล็กกว่าเด็กปกติ เพราะฉะนั้นเมื่อให้เลือดไปนาน เส้นเลือดมันเสียแล้วที่ต้องแทงบ่อย ที่บ่อยกว่านั้นต้องเจาะเลือดเด็กไปตรวจ หลายอย่างมาก เพราะหมอต้องใช้ผลเลือดเป็นตัวมาคำนวณยา เท่าไรถึงจะเหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป นี้คืออีกหนึ่งสาเหตุที่แม่เข้าใจว่าทำไมเจาะกันบ่อยจัง มันเป็นกระบวนการรักษาในเด็กที่มีอาการค่อนข้างมากที่หมอต้องดูผลเลือกประกอบในหลาย ๆ ตัว เด็กคนนี้ทางเราต้องดูผลเลือดบ่อยมาก วันละ 2 ครั้ง ซึ่งในเด็กเล็ก ๆ แม่เข้าใจว่าที่นั่งดูอยู่ก็คงรู้สึก ทุก ๆ ครั้งเราจะอธิบายคุณแม่แล้ว


ส่วนความคืบหน้าทางคดีญาติโวยไม่คืบนั้น จากการเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.โสรจ ชนะพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ได้รับการชี้แจงว่า ในเรื่องดังกล่าวนางอังคณา อายุ 61 ปี ชาวม.5 ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของแม่เด็ก ได้เดินทางมาลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานแทนพ่อแม่เด็ก เมื่อวันที 30 มิ.ย.66 เพื่อร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไปยังโรงพยาบาลให้รับทราบ คือ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.66 ด.ญ.อายุ 1 เดือน 10 วัน ได้เข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ด้วยอาการท้องเสีย พยาบาลได้พาเด็กไปเจาะเลือดหลายแห่งทั้งแขนขา แต่ไม่สามารถเจาะได้ จนวันที่ 26 มิ.ย.66 ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวเด็กไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลยะลา เมื่อเจาะแล้วเสร็จได้ส่งตัวเด็กกลับ ต่อมาเมื่อเด็กนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสประมาณ 4 ถึง 5 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 30 มิ.ย. 66 พบว่าเท้าของเด็กด้านขวา มีสีดำพ่อแม่ก็เลยขอให้หมอโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ส่งเด็กไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หมอวินิจฉัยว่าต้องตัดขาด่วน


“ส่วนที่บอกว่าคดีไม่คืบหน้านั้น ตนได้ประสานไปยังพ่อแม่เด็กแล้ว แต่พ่อแม่ไม่สะดวกที่จะมาให้ปากคำ เพราะต้องดูแลอาการบุตรที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และตนได้ประสานไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อขอใบการชันสูตรโรคทั้ง 2 แห่ง และทางโรงพยาบาลได้ส่งมาให้เรียบร้อย แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้มันเป็นหลักฐานทางคดี


ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงสอบปากคำพ่อแม่เด็ก ที่กำลังเฝ้าลูกรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์อยู่ในขณะนี้ ก่อนที่จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง มาให้ปากคำเพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป” ร.ต.อ.โสรจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ