สังคม

ผู้การแต้มยืนยันไม่รู้จักนายเป้ ตั้งข้อสังเกตคนอยู่เบื้องหลังพลเรือน 3 คน

19 มิ.ย. 2566

1.1K views

พลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เรียกรับเงินผู้ต้องหาเว็บพนัน 140 ล้านบาทว่า ตนมองว่าเรื่องนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มีส่วนเกี่ยวข้องจริง และอาจจะหนีลำบาก เพราะลักษณะกระทำอย่างโจ่งแจ้ง มาทำที่กองบังคับการฯ อาจจะคิดว่าเป็นที่ของตัวเอง ไม่มีใครรู้  และรู้ด้วยว่ามีการจับกุมไม่ถูกต้องตามขั้นตอน รวมถึงเรื่องการถอนหมายจับ ซึ่งเป็นเจตนาทุจริต โดยทั้งหมดจะมัดตัวผู้ที่เกี่ยวข้องได้



แต่สิ่งที่ตนตั้งข้อสังเกต คือ จำนวนเงินที่เรียกเป็นยอดเงินที่สูงมาก น่าจะสูงที่สุดตั้งแต่เคยมีคดีรีดเงินมา ดังนั้น คนที่ทำเว็บนี้ ต้องเป็นระดับใหญ่มาก มีผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งตัวแปรสำคัญ คือ พลเรือน 3 คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่าเข้ามาเกี่ยวกับเจ้าของเว็บพนัน และผู้บังคับการฯ ได้อย่างไร เอางานมาให้ผู้บังคับการฯ เอง จี้ให้จับแล้วเรียกเงินเองหรือไม่ ผู้ต้องหาถึงโวยวายขึ้นมา เพราะมีการเรียกเงินเยอะ อมเงินเยอะ เพราะถ้าเรียกตามปกติที่จะจ่ายได้ เรื่องก็จบ  ดังนั้น ต้องดูว่าใครที่อยู่เบื้องหลังพลเรือน 3 คนนี้ ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีอิทธิพลมาก



ส่วนกรณีที่คนสนิทของนายเป้ มีการพาดพิงชื่อของตนเองว่าเป็นผู้หนุนหลังเว็บพนันออนไลน์ของนายเป้นั้น พลตำรวจตรีวิชัย ยืนยันว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่เคยรู้จักนายเป้เลย แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติของกลุ่มเหล่านี้ ที่มักจะแอบอ้างชื่อของนายตำรวจ หรือนักการเมืองดังๆ เพื่อแสดงว่าตัวเองมีอิทธิพล มีคนหนุนหลัง ซึ่งคนที่เอามาพูดก็อาจจะไปฟังต่อๆ กันมา โดยชื่อของตนเองก็ถูกเอาไปอ้างอยู่บ่อยครั้ง ตนยืนยันตนเป็นตำรวจน้ำดี และบทบาทตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับงานตำรวจแล้ว แต่มาทำงานช่วยเหลือสังคม



พลตำรวจตรีวิชัย กล่าวอีกว่า ตอนนี้เรื่องเว็บพนันถือเป็นเรื่องอันตรายมาก และเข้าถึงกลุ่มเด็กนักเรียนนักศึกษา เกิดความเสียหายจำนวนมาก ดังนั้น ตำรวจต้องเอาจริงเอาจัง รวมถึงหน่วยงานรัฐด้วยที่ต้องสั่งปิดเว็บ เพราะในแต่ละพื้นที่ย่อมรู้อยู่แล้วว่าเว็บไหนใครเป็นเจ้าของเว็บ  ทั้งนี้ มองว่า สิ่งที่ต้องปฏิรูป ไม่ใช่องค์กรตำรวจ แต่เป็นตัวบุคคลที่ทำไม่ดี อย่างกรณีนี้พฤติกรรมก็เกิดจากตัวของตำรวจเองที่กระทำไม่ถูกต้องจริงจนถูกร้องเรียนได้ ซึ่งหากจะแก้ไข ฟันเฟืองใหญ่คือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่ต้องเอาจริงเอาจัง ถ้าหัวกระดิก หางก็ไม่กล้า  อยากให้ตำรวจทุกคนละเลิกการกระทำที่ไม่ดี หันมาดูแลประชาชน แล้วศรัทธาต่อองค์กรตำรวจก็จะกลับมาเอง

คุณอาจสนใจ

Related News