น้าเขย ขอโทษแม่เด็ก 2 เดือน รับรู้สึกผิดโยนหลานทิ้งน้ำ

เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัว นายโก้ อายุ 18 ปี น้าเขยก่อเหตุอุ้มเด็ก 2 เดือน โยนทิ้งคูน้ำใต้ถุนบ้านเสียชีวิต เข้าไปยังห้องสืบสวนเพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นให้ถึงแก่ความตายโดยเจตนา

ขณะที่พนักงานสอบสวนควบคุมตัว นายโก้ ขึ้นรถผู้ต้องขัง เพื่อนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี นายโก้ มีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ทำลงไปรู้สึกผิด อยากจะขอโทษทางครอบครัว ก่อนที่ตนจะโยนหลานทิ้ง หลานยังมีลมหายใจอยู่ ยังไม่เสียชีวิต ที่โยนลงไปเพราะเด็กร้อง แต่หลังจากที่โยนไปแล้ว เด็กไม่ร้องคิดว่าเสียชีวิต ถ้าตนมีโอกาสจะเข้าไปขอขมาศพ อยากจะขอโทษแม่ของเด็ก และที่ทำลงไป รู้สึกผิดจริงๆ


ด้าน พ.ต.อ.อภิศักดิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า นายโก้ รับสารภาพว่า ที่ก่อเหตุเพราะเด็กร้องไม่หยุด ให้นมกินแล้วแต่ก็ไม่หยุดร้องจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ นำเด็กไปทิ้งใต้ถุนบ้าน ส่วนรายละเอียดต้องดูผลชันสูตรอีกครั้ง ว่าเด็กเสียชีวิตก่อนที่จะโยนลงไปหรือไม่ ซึ่งก่อนเด็กจะเสียชีวิต ได้นอนอยู่ข้างยาย แต่ยายไม่รู้เรื่อง เป็นการรับสารภาพคนเดียว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ทิ้งประเด็นเรื่องคนในบ้านว่ามีส่วนร่วมบ้างหรือไม่ จะเรียกมาสอบปากคำใหม่อีกครั้งให้ครบทุกคน

พ.ต.อ.อภิศักดิ์ ยืนยัน นายโก้ ไม่มีโรคประจำตัวเป็นโรคจิต แต่เรื่องเป็นลมชัก นายโก้เป็นมานานแล้ว ไม่มีการเสพยาเสพติด ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจะต้องรอผลชันสูตรและต้องสอบเพิ่มอีกครั้ง


ขณะที่ แม่ของเด็ก กล่าวด้วยเสียงเศร้าสร้อยว่า ตนเองไม่ให้อภัยนายโก้ อย่างเด็ดขาด อย่าให้มาขอขมาศพที่วัด ส่วนตัวรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และโกรธจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ขอให้น้องเกิดใหม่ในชาตินี้ แล้วมาเป็นลูกของตนเองอีก

ด้าน นางสาววลัยพร อายุ 47 ปี ผู้เป็นยาย เปิดเผยด้วยเสียงอันเศร้าว่า ตนไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือลูกเขยที่โยนหลานลงคูน้ำทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ยอมรับว่าโกรธแต่ก็ให้อภัยลูกเขย เสียใจมากที่ตัวเองถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตลอดทั้งวัน เพราะเข้าใจว่าเป็นคนลงมือฆ่าหลาน ทั้งๆที่ตนเองยืนยันตั้งแต่แรกว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ ส่วนที่ลูกเขยสารภาพว่าหลานร้องเสียงดังนั้น ตนเองยอมรับว่านอนหลับไปด้วยความเหนื่อย ไม่ได้ยินเสียงหลานร้อง หากตื่นขึ้นมาตอนนั้น หลานอาจจะไม่ตายก็ได้


ส่วนภรรยาของนายโก้ กล่าวทั้งน้ำตาว่า คิดไม่ถึงว่าสามีจะลงมือทำร้ายหลานได้ขนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองก็รู้สึกเสียใจจนอยากให้สามีไปขอขมาศพน้องที่วัด แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาไปหรือไม่ ตนรู้จักและอยู่กินกับโก้ได้แค่ 3 เดือน รู้ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ฉุนเฉียวบ่อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำร้ายน้องจนเสียชีวิต