ผู้เสียหายกว่า 20 คน ร้องเอาผิดอดีต ส.ส. หลอกมาทำงานไม่จ่ายเงินเกือบ 50 ล้านบาท

วันนี้ (28 พ.ค.)ผู้เสียหายกว่า 20 คน นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด เพื่อเอาผิด อดีต สส. และอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองชื่อดัง ที่มีสมาชิกพรรคเป็นอันดับ 2 ของประเทศ หลังหลอกผู้เสียหายมาทำงานให้ แต่เบี้ยวไม่จ่ายเงิน และการฉ้อโกงต่าง ๆ เสียหายรวมกันแล้วเกือบ 50 ล้านบาท


นายทรงกฤษดากร ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า อดีต ส.ส. ตัวย่อ อ. เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในรัฐบาลชุดก่อน โดยเป็นพรรคที่มีสมาชิกสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ มากกว่าพรรคการเมืองใหญ่ ๆ บางพรรค สามารถส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งได้มากกว่า 300 เขตทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันพรรคดังกล่าวถูกยุบไปแล้ว


แต่แม้จะเป็นถึงหัวหน้าพรรค กลับมีพฤติการณ์หลอกลวง และไม่จ่ายเงินหลายอย่าง เช่น เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา อดีต ส.ส. อ. ได้จัดงานวันเกิดแบบโต๊ะจีนจำนวน 4000 ที่นั่งในจังหวัดสระบุรี มีการจ้างทีมงานมาจัดงาน จัดไฟ จัดกิจกรรมการละเล่นคล้ายงานวัด แต่เมื่อเลิกงานกลับไม่จ่ายเงินให้ทีมงานต่าง ๆ มีเพียงวงดนตรีที่ได้รับเงินค่าจ้าง เพราะเรียกเก็บเงินก่อนขึ้นแสดง


อีกทั้งยังไปบอกให้พ่อค้าแม่ค้าที่นำเสื้อผ้ามือสองไปขาย ให้นำเสื้อผ้าไปแจกให้ผู้ร่วมงาน และติดต่อร้านค้าข้าวสาร สั่งข้าวสาร 5,000 ถุงไปแจก บอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเอง แต่สุดท้ายก็เบี้ยวไม่จ่ายเงิน มูลค่าความเสียหายทั้งหมดในงานดังกล่าวกว่า 5 แสนบาท


นอกจากนี้อดีต ส,ส. อ. ยังเป็นหัวหน้าพรรค ที่มีการเบิกถอนงบจาก กกต. ไปรวมกว่า 17.7 ล้านบาท ซึ่งนำไปใช้จ่ายอะไร ทางกรรมการพรรคไม่เคยทราบ ไม่เคยมีการพูดคุยในการประชุมพรรค แต่กลับมีการปลอมเอกสารการประชุมส่ง กกต. ว่ามีการพูดคุยเรื่องการนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ จนสุดท้าย กกต.มีหนังสือทวงหนี้มาถึงกรรมการพรรคกว่า 60 คนแทน เพราะติดต่อหัวหน้าพรรคไม่ได้


ยังไม่นับที่ อดีต ส.ส. อ. เบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าหาเสียงให้กับผู้สมัครแต่ละเขตกว่า 300 เขต ความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท และเบี้ยวจ่ายเงินเดือนพนักงาน แม่บ้านและลูกจ้างที่ทำงานในที่ทำการพรรค 7 เดือน จนหลายคนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินประทังชีวิต ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน และถูกยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขี่มาทำงาน


ซึ่งผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อเพราะอดีต ส.ส. อ. มี ส.ส. และรัฐมนตรีคนดังหลายคนจะช่วยเหลือเรื่องเงินทุน ชาวบ้านมักจะเห็น อดีต ส.ส. อ. ลงพื้นที่พร้อมกับรัฐมนตรีเสมอ ๆ จึงเชื่อว่ามีความสนิทสนมกันจริง และรับงานต่างๆ และทุกครั้งเมื่อทวงถามเงิน อดีต ส.ส. อ. ก็จะผัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็บล็อกช่องทางการติดต่อทุกช่องทาง


ล่าสุดหลังจัดงานวันเกิดแล้ว ก็หายตัวไป เพิ่งจะติดต่อมาเมื่อเช้า เพราะทราบว่าผู้เสียหายจะมาร้องเพจสายไหมต้องรอด ในลักษณะถามว่าจะมาทำอะไร


นอกจากนี้ยังมีการข่มขู่ผู้เสียหายว่าจะฟ้องกลับฐานแจ้งความเท็จมาโดยตลอด ทำให้ผู้เสียหายหลายคนหวาดกลัว และหวั่นว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะถือเป็นอดีต สส. ที่มีอิทธิพลในพื้นที่ พฤติกรรมลักษณะนี้เชื่อว่าทำมานานหลายปีแล้ว เพราะมีผู้เสียหายบางคนให้ข้อมูลมาว่าถูกเบี้ยวเงินโต๊ะจีนเมื่อ 6 ปีก่อน และร้านค้าเจ้าใหญ่ ๆ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีต่างรู้วีรกรรมของอดีต ส.ส. อ. เป็นอย่างดี เคยถูกหลอกจนในพื้นที่ไม่มีใครเชื่อแล้ว ทำให้ครั้งนี้ ส.ส. อ. ต้องจ้างร้านค้าในจังหวัดอยุธยามาจัดงานวันเกิดให้แทน


ด้านนายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้และจะตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคดีของผู้เสียหายทั้งหมดมีการแจ้งความไว้ในสถานีตำรวจท้องที่แล้ว ดังนั้นก็จะประสานไปติดตามความคืบหน้าคดีกับทางตำรวจให้ก่อน โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หาก อดีต ส.ส. รายนี้ ทำผิดจริง ก็อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก และต้องถูกดำเนินคดี