สังคม

บุกสอบ 'สำนักบูชากี' สั่งย้ายพระพุทธรูปให้ออกห่าง - 'พระพยอม' ชี้เป็นทัศนอุจาด

โดย nattachat_c

23 พ.ค. 2566

198 views

จากกรณีโลกโซเซี่ยล เผยแพร่เรื่องราวความเชื่อสุดแปลกประหลาดของสำนักพราหมณ์ ธรรมโชติหิรัญ ในพื้นที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ โดยพราหมณ์เนาวรัตน์กชพร ศรีเมธาวงศ์ เจ้าสำนัก โกนศีรษะ สวมเสื้อผ้าชุดไทย และเรียกตัวเองว่า 'แม่พราหมณ์'


โดย 'แม่พราหมณ์' อ้างว่า สิ่งที่เห็นเป็นไปตามตำราดูดวงตามศาสตร์ 'คัมภีร์มหานาม' เพื่อรักษาเยียวยาจิตใจของผู้หญิงที่ประสบทุกข์ ถือเป็นหนึ่งในความเชื่อเรื่องการแก้กรรมจากการทำแท้งของผู้หญิง ที่เป็นเหตุให้ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต หากินไม่ขึ้น และเจ็บไข้ได้ป่วย โดยจะจุดทำพิธีเผาวิญญาณ คล้ายเชิงตะกอน


ที่ผ่านมา มีผู้มีจิตศรัทธามักจะมาถือศีล 8 อาบน้ำมนต์ สะเดาะเคราะห์ เสียค่าทำพิธีคนละ 500 บาท เงินที่ได้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายทะนุบำรุงสำนักพราหมณ์แห่งนี้ โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักพุทธศาสนา ได้เข้าตรวจสอบ และสั่งให้เคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับรูปปั้นอวัยวะเพศชายและหญิง ออกไปให้ห่าง เพราะเวลาประชาชนถ่ายภาพจะทำให้เห็นภาพที่ไม่น่าดู อาจจะทำให้พุทธศาสนามัวหมองเสื่อมเสีย

-------------

ต่อมา วานนี้ (22 พ.ค. 66) ทีมข่าวสอบถาม อาจารย์จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา กล่าวว่า สำนักนี้เป็นธุรกิจ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด โดยใช้คำรุนแรง และเวอร์เกินไป เพื่อเรียกลูกค้า


ทั้งนี้ สำนักแบบนี้มีอยู่ทั่วไปในบ้านเรา ขอเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ขณะเดียวกัน ผู้ที่คิดจะไปแก้กรรมด้วยวิธีของสำนักนี้ แนะว่า ควรกราบแม่ตนเองดีที่สุด


จากนั้น เวลา 10.30 น. นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ สำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญ อีกครั้ง เพื่อจัดระเบียบให้เป็นไปตามศีลธรรมอันดีงาม และขอความร่วมมือจากเจ้าสำนักพราหมณ์ ธรรมโชติหิรัญ เนื่องจากในบางจุดยังมีการมีป้ายข้อความที่ไม่เหมาะสมก็ขอให้แก้ไข


ส่วนมีผู้มากราบไหว้รูปปั้นศิวลึงค์ เพศชายและเพศหญิง ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ยังไม่พบว่าเกิดความเสียหายแต่ประการใด ได้มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สอดส่องดูแลความผิดสังเกต และความเป็นระเบียบเรียบร้อย

-------------

แม่พราหมณ์ เนาวรัตน์กชพร ศรีเมธาวงศ์ เจ้าสำนักพราหมณ์ธรรมโชติหิรัญ กล่าวว่า ก่อตั้งสำนักแห่งนี้มาแล้ว 16 ปี สร้างในพื้นที่ส่วนตัว แรกเริ่มคือสร้างไว้เพื่อใช้ปฏิบัติธรรม


แต่ปีที่ผ่านมา มีคนที่เคยตั้งครรภ์แล้วไปทำแท้ง มาขอความช่วยเหลือ หลังชีวิตตกต่ำ มีแต่ปัญหา วิญญาณเด็กที่ไปทำแท้งก็ไม่ได้ไปเกิด เธอจึงตัดสินใจสร้างเมรุไว้ใช้ประกอบพิธี 'ส่งเทพบริสุทธิ์แก้กรรมทำแท้ง' โดยใครที่จะไปเข้าพิธี จะมีค่าใช้จ่าย 500 บาท เนื่องจากในพิธีจะนิมนต์พระมาสวดบังสุกุลให้


ครั้งแรกที่ทำพิธี คือวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 ทำมาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเธอต้องขอหยุดพิธีดังกล่าว เพราะร่างกายทรุดโทรม น้ำหนักลดลงถึง 20 กิโลกรัม แต่ก็ยังมีคนที่ทำแท้ง เดินทางมาหาเธออีก ทำให้เธอต้องจัดทำพิธีแก้กรรมอีกครั้ง โดยครั้งนี้เปิดทำพิธีเดือนละ 1 ครั้ง

-------------

ส่วนรูปปั้นอวัยวะเพศชายที่เรียกว่า 'พ่อใหญ่' และอวัยวะเพศหญิงที่เรียกว่า 'แม่ใหญ่' เอาไว้ที่สำนักของเธอ และเรียกรูปปั้นอวัยวะเพศทั้ง 2 รวมกันว่า 'ปากประตูแห่งการเกิด'


ได้สร้างเพื่อเตือนสติให้ลูกศิษย์และคนที่มาทำพิธีว่า จุดเริ่มต้นของคนที่เป็นทุกข์จากการทำแท้ง เกิดจาก 2 สิ่งนี้ และทุกการเกิดก็มาจาก 2 สิ่งนี้ เช่นเดียวกัน


ขณะที่เจ้าสำนัก ยืนยันว่า ไม่ได้มีลัทธิ หรือสอนให้คนมากราบไหว้อวัยวะเพศ เพียงแต่ว่ามีลูกศิษย์คนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก พอเอาแผ่นทองเปลวไปแปะ อาการของเขาก็ดีขึ้น จึงทำให้มีลูกศิษย์เอาแผ่นทองมาแปะไว้ ไม่ได้มีการกราบไหว้อย่างที่เข้าใ


และเธอเองยินดีให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบได้เลย และตอนนี้รู้สึกดีใจที่ทุกคนให้ความสนใจ 'พ่อใหญ่ แม่ใหญ่'


การมีผู้ศรัทธาเข้ามากราบไหว้รูปปั้นศิวลึงค์ เพศชายและเพศหญิง คือเป็นต้นกำเนิดของชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ของชีวิตในโลก ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่แปลก เพราะถือเป็นสิ่งเคารพบูชา อย่างหนึ่งของผู้นับถือสาสนาพราหมณ์ ในอินเดียมาตั้งแต่โบราณ เมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว หรือ 3,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช เกิดขึ้นครั้งแรกที่บริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ ในแคว้นปัญจาบ ของอินเดีย


และยังมีคำสอนให้เพศหญิงต้องให้ความเคารพสามีที่เป็นเพศชาย ถึงแม้นว่าปัจจุบันหญิงและชายจะมีสิทธิเท่าเทียมกันตามกฎหมายก็ตาม แม่พราหมณ์กล่าว

-------------
วานนี้ (22 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามความคิดเห็นกับทางพระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่า


พระพุทธเจ้าไม่ยอมรับในเรื่องเหล่านี้ว่าจะเป็นเหตุทำให้พ้นทุกข์ได้ เรื่องความร่ำรวยเป็นเรื่องความเชื่อขั้นพื้นฐานของคนที่อยากรวย ทำให้คิดไปเองว่า เอาทองไปแปะตรงนั้นตรงนี้แล้วจะรวยขึ้น ถ้าให้เรียกตามสมัยใหม่ก็ต้องเรียกว่า 'ทัศนอุจาด' เพราะเอาสิ่งที่ปกปิดมาเปิดเผย เอาสิ่งที่คนเขาอำพรางมาเปิดเผย


ซึ่งลัทธิพรรค์นี้สมัยก่อนก็เคยมีเกิดขึ้นมาแล้ว การที่จะมาอ้างว่าเป็นองค์กำเนิดอะไรนั้น ก็ไม่ใช่เพราะเมื่อคนเราเกิดมาแล้วก็กลายเป็นอดีต มั่วแต่ไปยึดติดอยู่กับทางที่เราเกิด แต่ทำไมถึงไม่ยึดติดอยู่กับปัจจุบันในตอนนี้ว่า จะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ดีที่สุด ไม่ใช่มั่วแต่ท้าวภูมิหลังอยู่แต่ว่า เกิดมาจากจุดไหน ตรงไหน อะไรทำให้เกิด


พระพุทธเจ้าก็สอนไว้แล้วว่า เพราะตัณหาจึงทำให้เกิด ไม่ใช่อวัยวะ อวัยวะมีกันทุกคน แต่ถ้าคนที่ทำอุปสมบท อวัยวะเหล่านี้ถึงจะมีก็ไม่ต้องใช้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนที่อยากตั้งตนเป็นศาสดา เป็นเจ้าลัทธิ จึงสร้างลัทธิขึ้นมา เป็นยุคที่เกลื่อนกลาดศาสดา แต่มาแล้วก็จะเสื่อมลง ดับลงไปเอง


พระพยอม กล่าวอีกว่า หลักของเรามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องไปพึ่งพาไอ้สิ่งที่ปั้นแต่งขึ้นมา ซึ่งคนไทยในสังคมจะมีอยู่ 3 แบบ คือ เห็นด้วยชื่นชอบ ไม่เห็นด้วยคัดค้าน และพวกเฉยๆ ไม่สนใจอะไร ลัทธิแบบนี้เกิดขึ้นมาได้สักพัก แล้วก็จะเสื่อมดับไปเองเพราะถูกต่อต้าน เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบดูอย่าปล่อยไว้ อะไรที่ดูแล้วเป็นการกระทำที่หมิ่นเหม่ อุจาด ลามก ก็ไม่ควรปล่อยไว้


แล้วถ้าคนอยากรวยพระพุทธเจ้าก็สอนเอาไว้แล้วว่า อุ อา กะ สะ ซึ่งเป็นหัวใจเศรษฐีคือ ขยันหา รักษาทรัพย์ดี มีมิตรชี้ขุมทรัพย์ และใช้ชีวิตให้สมดุลกับรายได้ แต่ไม่ใช่การเอาทองไปแปะตรงนั้นตรงนี้แล้วจะรวยขึ้นมาได้ เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเลย ใช้แต่ความเชื่อนำ โดยไม่สัมปะยุทธ์ด้วยปัญญา เหมือนกับปล่อยให้ศรัทธาเดินนำไปโดดเดี่ยว แต่ปัญญาไม่ตามไปด้วย ก็จะพาเข้ารกเข้าพงแบบนี้

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/VX-e_2c0YTI








คุณอาจสนใจ