หญิงร้องทนายรัชพล ร้านเพชรดังหลอกให้โอนเงิน แถมไม่ส่งของ ปิดร้านหนี ผู้เสียหายกว่า 500 คน รวมมูลค่า 40 ล้าน

วันที่ 7 พ.ค.66 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร ถนนประชาราษฎร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.สุธาสินี หนูอ้น อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางขอความช่วยเหลือกับทางทนายรัชพล ศิริสาคร หลังถูกร้านจำหน่ายเครื่องประดับเพชรไม่ส่งานค้าให้ หลังจากจากที่ได้โอนเงินค่าเครื่องประดับเพชร 4 รายการไปให้เป็นเงินจำนวน 45,800 บาท

โดย น.ส.สุธาสินี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนได้ติดตามเพจของร้านเครื่องประดับเพชรแห่งนี้มานานประมาณ 7 เดือนแล้ว และเห็นว่าทีความน่าเชื่อถือดีเพราะมีหน้าร้านเปิดขายสินค้าอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร และมีคนติดตามเพจร้านนับแสนคน จนกระทั่งต่อมาในวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางเพจร้านได้ไลฟ์สดขายานค้าเครื่องประดับเพชรชนิดต่าง ๆ ซึ่งตนได้สั่งซื้อสินค้าในไลฟ์สดของทางเพจร้านไป 4 รายการ เป็นสร้อยเพชร แหวนเพชร กำไลเพชร เป็นเงินจำนวน 45,800 บาท ซึ่งหลังจบการไลฟ์สดแล้วก็มีแอดมินเพจของทางร้านติดต่อแจ้งรายการที่ตนสั่งซื้อสินค้าไปและแจ้งยอดค่าสินค้าที่ตนจะต้องโอน ซึ่งตนเห็นว่าทางร้านนี้มีความเชื่อถือเปิดร้านขายมาเกือบ 5 ปี มีคนติดตามและรีวิวสินค้าเป็นจำนวนมาก จึงเชื่อมั่นโอนเงินค่าสินค้าดังกล่าวไปให้ครบจำนวน

น.ส.สุธาสินี เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ตนโอนเงินพร้อมแนบสลิปไปใก้แล้ว ทางแอดมินเพจของทางร้านแจ้งว่า ทางโรงงานจะจัดส่งสินค้าให้ตนในวันที่ 30 เม.ย.66 จนกระทั่งเมื่อถึงวันที่ 30 เม.ย.ตนก็ยังไม่ได้รับหมายเลขส่งพัสดุจากทางร้านมาให้ จึงได้ติดต่อกลับไปที่เพจ ทางแอดมินเพจก็แจ้งขอผลัดส่งสินค้าให้ตนไปอีก 2 วัน พอครบ 2 วัน ตนก็ติดต่อกลับไปอีกทางแดมินเพจก็แจ้งว่า ขอเวลาให้ทางโรงงานอีก 1 วัน จนกระทั่งผ่านไปอีก 1 วัน ตนก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากแอดมินเพจร้านมา เมื่อติดต่อกลับไปก็ติดต่อไม่ได้แล้วพบว่าทางร้านเครื้องประดับเพชรแห่งนี้ได้ปิดทำการไปแล้ว ตนจึงได้ตัดสินใจนำหลักฐานการโอนเงินซื้อสินค้าเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางร้านในวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากกลัวคดีจะล่าช้าและทางเจ้าของร้านจะยักย้ายถ่ายเทเงินจากลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหาย 40 ล้านบาท จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากทางทนายรัชพลให้ช่วยติดตามคดี

ทางด้านทนายรัชพล ศิริสาคร กล่าวว่า จากพฤติกรรมของร้านเครื่องประดับแห่งนี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนเพราะมีการจูงใจให้มาลงทุนด้วยรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่นการให้โอนเงินซื้อโปรโมชัน โอน 5 พันบาท รับ 5 หมื่นบาท เพื่อไปใช้ซื้อสินค้าเครื่องประดับต่างๆภายในร้าน หรือลงทุน 1 หมื่นบาทรับโปรโมชัน 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีการรับซื้อสินค้าคืนในลักษณะการลงทุน คือซื้อสินค้าราคา 1 หมื่นไปแล้ว อีก 1 ปีนำมาขายกลับคืนได้ 1.1.หมื่นบาท ยังไม่นับรวมที่ผู้เสียหายบางรายที่สั่งซื้อสินค้าไปโอนเงินแล้วแต่ไม่ได้รับสินค้า

หรือบางรายได้รับสินค้ามาก็เป็นสินค้าปลอมเป็นต้น ซึ่งตนมองว่ามีความผิดเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พรบ.คอมพิสเตอร์นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับ 1 แสนบาท ส่วนลักษณะของโปรโมชั่นนั้นมีลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งจะมีความผิดค่อนข้างหนักคือ มีโทษจำคุกไม่เกอน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้พรุ่งนี้ตนจะได้นำกลุ่มตัวแทนผู้เสียหายซึ่งมีเกือบ 500 คน เดินทางไปเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามในเวลา 13.00 น.ต่อไป