สังคม

บุกจับ ผอ.กองช่างคลองหลวง เรียกสินบน 3 ล้าน พร้อม 'เอกพจน์' นายกคลองหลวงคนดัง หลังพบร่วมทุจริต

โดย nattachat_c

4 พ.ค. 2566

20 views

วานนี้ (3 พ.ค. 66) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. (บก.ปปป.-กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ) นำกำลังเจ้าหน้าที่ ...

  • กก.2 บก.ปปป.
  • เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. (ป.ป.ท. - คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ)


บุกเข้าจับกุมตัว นายสถิต ฉ่ำแฉล้ม อายุ 50 ปี ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองคลองหลวง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหา

  • เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่
  • เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ


ภายในห้องทำงาน สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมประสานเชิญตัว นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง มาแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกัน


สืบเนื่องจาก ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่เข้าไปติดต่อขออนุญาตถมดินกับทางเทศบาลดังกล่าว ซึ่งเดิมที ผู้ขออนุญาตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียงแค่ 500 บาท


แต่ นายเอกพจน์ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง กลับเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย ลูกบาศก์เมตรละ 50 บาท จากดินที่จะใช้ถมจำนวน 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท


ผู้เสียหายเกรงว่า หากไม่ทำตามข้อเรียกร้องจะส่งผลกระทบต่องานที่ทำ จึงยอมจ่ายให้ก่อนเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท โดยมี นายสถิต ฉ่ำแฉล้ม ผอ.กองช่าง เป็นคนรับเงิน ก่อนจะขอผัดผ่อนทยอยจ่ายส่วนที่เหลือให้ในภายหลัง


หลังทราบเรื่อง ตำรวจ บก.ปปป. จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริงทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจริง ประกอบกับทางกลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อให้ผู้เสียหายนำเงินสดอีก 5 แสนบาท มาส่งมอบให้อีกครั้งในวันนี้ (3 พ.ค. 66) ที่ห้องทำงานสำนักงานเทศบาลคลองหลวง


จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ นายสถิต ฉ่ำแฉล้ม จนนำมาสู่การเข้าจับกุม ขณะกำลังรับมอบเงินของกลางได้ดังกล่าว พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืน 1 กระบอก ทั้งนี้จากการซักถาม นายสถิต ฉ่ำแฉล้ม ยังคงยืนกรานปฏิเสธ 


ขณะที่ ในส่วนของนายเอกพจน์ ปานแย้ม ขณะเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวงนั้น ปรากฎว่าเจ้าตัวไม่อยู่ เนื่องจากไปเฝ้าภรรยาคลอดลูก ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ จึงประสานติดต่อให้มาเข้าพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกัน จากกรณีดังกล่าว


นอกจากนี้ ยังแบ่งกำลังอีกชุด เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสถิต ฉ่ำแฉล้ม เพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งรายละเอียดปฏิบัติการครั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจ จะมีการแถลงสรุปภาพรวมการดำเนินการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง


ต่อมา เวลา 15.30 น. นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง (อดีตนักร้องชื่อดัง) เดินทางมาที่สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” จากคดีเดียวกัน ทั้งนี้ นายเอกพจน์ ปานแย้ม ปฏิเสธทุกข้อกล่าว  


ต่อมา หลังจากเค้นสอบ นายสถิต ฉ่ำแฉล้ม นาน 3 ชั่วโมง ตำรวจอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ด้วยจำนวนเงิน 4 แสนบาท ส่วนนายเอกพจน์ ปานแย้ม ได้รับการปล่อยตัวไป โดยไม่ต้องมีเงินประกัน เนื่องจากเป็นการเดินทางมามอบตัว

-------------
สำหรับ นายเอกพจน์ ปานแย้ม เกิดวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2512 ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี หลังจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ก็ออกเดินสายร้องเพลงลูกทุ่งไปตามที่ต่างๆ พร้อมกับเรียนการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ไปด้วย โดยเพลงที่ได้รับความนิยมและสร้างชื่อโด่งดังเป็นพลุแตก คือ เพลงทหารเกณฑ์คนจน


นายเอกพจน์ ปานแย้ม เริ่มเข้ามาเส้นทางการเมือง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการช่วยพี่ชายหาเสียงในระดับท้องถิ่น ซึ่งมีเสียงจากชาวบ้านถามตลอดว่าทำไมไม่ลงเอง ทำให้นายเอกพจน์ตัดสินลงสนามการเมืองอย่างจริงจัง ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2539 ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้ง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในพื้นที่จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิด


ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนั้น ถือว่าเป็นการ 'ล้มช้าง' เพราะนายเอกพจน์เอาชนะทั้งนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ และนางวาณี หาญสวัสดิ์ ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของพื้นที่มาหลายสมัย ส่งผลให้เอกพจน์ กลายเป็น 'นักร้องลูกทุ่งคนแรกที่ได้เป็น ส.ส.'


จากนั้น นายเอกพจน์ ได้ศึกษาต่อจนจบในระดับปริญญาตรี ที่สถาบันราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ในการเลือกตั้งในปี 2544 นายเอกพจน์ได้ลงสมัครในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งอีก


ส่วนการเลือกตั้งในปี 2548 นายเอกพจน์ได้ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งก็ได้รับการเลือกตั้งอีก


ส่วนการเลือกตั้งในปลายปี พ.ศ. 2550 ได้ลงเลือกตั้งอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 4 ใน จ.ปทุมธานี สังกัดพรรคชาติไทย และได้รับเลือกตั้งอีกเช่นกัน


แต่ในปี 2551 นายเอกพจน์ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง


เมื่อพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางเมือง จึงลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2557 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ


ช่วงหนึ่ง นายเอกพจน์มีมรสุมชีวิตอย่างหนัก เนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการทำเคมีบำบัดนานนับปี


จากนั้น นายเอกพจน์ได้หันมาทำงานการเมืองท้องถิ่น โดยเป็นหัวหน้าทีม 'เพื่อนเอกพจน์' และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และได้รับการเลือกตั้ง เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wIV0UrLm7oc



คุณอาจสนใจ

Related News