สังคม

ตร.ไซเบอร์ทลาย 'แก๊งจีน' ส่งของเก็บเงินปลายทาง พบเงินหมุนเวียน 20 ล้าน เตรียมขยายผลตัวการใหญ่

โดย nattachat_c

25 เม.ย. 2566

441 views

โปลิศไซเบอร์ บุกทลายแก๊งตีเนียนส่งของเก็บเงินปลายทาง พบเหยื่อโผล่ทั่วไทย บุกค้นโกดังสินค้าย่านบางนา พบพัสดุนับหมื่นชิ้น รวบหญิงไทยผู้ดูแล เร่งขยายผลล่านายทุนจีนตัวการใหญ่ พบทำมา 5 เดือน เงินหมุนกว่า 20 ล้าน ส่วนผู้ก่อเหตุยังปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นการหลอกลวง อ้างถูกจ้างมาแพ็กของติดชื่อ ขณะที่ตำรวจ รู้ตัวหัวหน้าแก๊งที่เป็นคนจีนแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับเพิ่มเติม


วานนี้ (24 เม.ย. 66) เวลา 17.45 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท 2 นำกำลัง บก.สอท. 2 ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด ในพื้นที่บางนา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีพัสดุเก็บเงินปลายทางมาส่ง ทำให้หลงเชื่อว่าอาจจะมีบุคคลในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานเป็นคนสั่ง ก่อนชำระเงินให้ไป ทำให้เดือดร้อนและเกิดความเสียหาย มีผู้หลงเชื่อชำระเงินไปเป็นจำนวนมาก


โดยจุดที่น่าสนใจเป็นการเข้าตรวจค้นโกดังเก็บของและรับของ 2 แห่ง ภายในซอยบางนาตราด 17 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม. ซึ่งลักษณะเป็นโกดังให้เช่า


โกดังแห่งแรกเป็นโกดังเก็บพัสดุสินค้า

จากการตรวจสอบ พบพัสดุสินค้าหลายรายการ ภายในบรรจุสินค้าหลายรายการ อาทิ เครื่องสำอาง, รองเท้า, เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น


นอกจากนี้ ยังพบกล่องพัสดุเปล่าที่เตรียมแพ็กของสุ่มส่งลูกค้า และสติ๊กเกอร์รายชื่อที่อยู่ของเหยื่อ ที่ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตรวจค้นในสำนักงาน พบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีรายชื่อของผู้รับถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดในระบบ และยังมีสินค้าตีกลับอีกนับหมื่นรายการ


โกดังที่สอง เป็นโกดังสำหรับแพ็คพัสดุที่รอทำการส่ง

พบชั้นวางกล่องพัสดุที่ถูกตีกลับ และกระสอบใส่กล่องพัสดุที่ถูกตีกลับกว่าหมื่นกล่อง รวมทั้งบาร์โค้ดที่ใช้สำหรับส่งของพัสดุ


นอกจากนี้ ทั้งสองจุดสามารถควบคุมตัวผู้ดูแล คือ น.ส.สุรีพร โสภณชัยพร อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ. 225 /2566 ลงวันที่ 24 เม.ย.ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ คุมตัวนายตู่ อายุ 27 ปี พนักงานแพ็กของ


เบื้องต้น ทั้งสองอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นว่า เป็นพฤติกรรมการหลอกลวงส่งของเก็บเงินปลายทาง ทั้งในส่วนบาร์โค้ด รายชื่อลูกค้า และโลโก้บริษัทส่งของต่างๆ อ้างเพียงถูกจ้างมาแพ็คของติดชื่อส่งพัสดุไปยังผู้รับ ได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งในส่วนรายชื่อ หรือพัสดุ โดยเจ้าของกิจการซึ่งเป็นคนจีนจะจัดหามาให้ เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น


แต่ให้ข้อมูลว่า สินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากจีน แต่ไม่ทราบวิธีการนำเข้า จากนั้นจะนำชื่อที่อยู่ของผู้รับจากระบบคอมพิวเตอร์ ปรินท์ลงกระดาษแปะหน้ากล่อง ก่อนจะนำไปส่งต่อยังบริษัทรับส่งพัสดุ เพื่อนำส่งไปตามที่อยู่ที่ระบุหน้ากล่อง ซึ่งทั้งหมดจะถูกเก็บเงินปลายทางยังผู้รับทุกวัน โดยแต่ละวันจะ ส่งวันละหลายร้อยกล่อง ที่ผ่านมาก็ถูกตีกลับเกินครึ่ง


หากสินค้าที่ถูกตีกลับมา จะนำลอกชื่อหน้ากล่องออก แปะข้อมูลของอีกคนเข้าไปแทน จากนั้นดำเนินการส่งใหม่อีกรอบ ทำซ้ำๆ วนไปแบบนี้ เป็นวงจรปกติ สำหรับรายชื่อของผู้รับ ไม่ทราบว่าเจ้าของซึ่งเป็นคนจีนนำมาจากไหน แต่จะมีเข้ามาในระบบเรื่อยๆ

-------------

ด้านพล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สถิติการรับแจ้งความทางออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจากการสั่งสินค้าทางออนไลน์สูงเป็นอันดับหนึ่ง



ขณะเดียวกัน ทางบก.สอท.2 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาว่า ได้สั่งซื้อสินค้าผ่านเพจเฟชบุ๊ก Wdecd-US แต่ได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่สั่ง และกรณีที่ผู้เสียหายได้รับสินค้าที่ไม่ได้สั่งซื้อ โดยเรียกเก็บเงินปลายทางกับผู้เสียหาย จึงได้แจ้งความไว้ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ หลังรับเรื่องได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะเป็นขบวนการ จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายค้นและหมายจับ


โดยพฤติกรรมของขบวนการนี้มีสองรูปแบบ คือ จะส่งสินค้าที่ไม่ตรงปกและส่งสินค้าทั้งที่ไม่ได้สั่ง และจะเก็บเงินปลายทาง โดยสินค้าส่วนใหญ่ เป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพและเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งหากผู้รับปฏิเสธไม่จ่ายเงินปลายทาง ก็จะสามารถตีกลับคืนไปยังต้นทางได้ทันที ส่วนเหยื่อรายไหนที่เผลอรับหรือจ่ายเงินปลายทาง นั้นถือเป็นรายได้ของแก๊งมิจฉาชีพ  ซึ่งส่วนใหญ่คนที่มีรายชื่อระบุหน้ากล่องจะรู้ตัวเองว่าไม่ได้สั่ง แต่คนในบ้าน ซึ่งเป็นญาติพี่น้องจะไม่รู้ว่าไม่ได้สั่ง จึงเผลอจ่ายเงินปลายทาง รับของไว้ให้ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และมีอยู่ทั่วประเทศ เนื่องจากขบวนการนี้จะทำการสุ่มกระจายรายชื่อเหยื่อ


ส่วนชิ้นไหนถูกบริษัทขนส่งเอกชนตีกลับ ก็จะนำมาลอกรายชื่อกระดาษหน้ากล่องออก แปะทับรายชื่อใหม่ส่งวนไปสู่เหยื่อรายใหม่ โดยในแต่ละวันทางหัวหน้าขบวนการจะส่งรายชื่อไม่ต่ำกว่าวันละ 100-200 ราย  


อย่างไรก็ตาม จากแนวทางสืบสวนพบว่าทำมาไม่ต่ำกว่า 5 เดือน มีเงินหมุนเวียนจากการที่หลอกลวงประชาชนกว่า 20 ล้านบาท อีกทั้ง จากการตรวจสอบฐานข้อมูลในรายชื่อ พบรายชื่อเหยื่อกว่า 2.5 หมื่นราย ส่งสำเร็จ 1.6 หมื่นราย และตีกลับ 7 พันราย และชุดสืบสวนได้พิสูจน์ทราบและรู้ตัวผู้เช่าอาคารดังกล่าวที่เป็นคนจีนแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติม ผบช.สอท. กล่าว

-------------

คุณอาจสนใจ

Related News