สังคม

พายุฤดูร้อนแผลงฤทธิ์! ถล่มตลาด ร้านค้า บ้านพังยับ - พระพุทธรูปหนัก 100 กก. หล่นจากซุ้มประตูโบสถ์

โดย nattachat_c

25 เม.ย. 2566

365 views

วานนี้ (24 เม.ย. 66) ผู้ใช้ TikTok ได้โพสต์คลิปสุดระทึก เกิดพายุหมุน หรือลมบ้าหมู พัดเอาเต็นท์และร่มของร้านข้าวหลาม ริมถนนกำแพงเพชร -สุโขทัย ฝั่งขาออกเมือง บริเวณหน้าศูนย์ตรวจสภาพรถแห่งหนึ่ง พื้นที่บ้านศรีโยธิน ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ส่งผลให้เต็นท์และร่มกันแดดขนาดใหญ่ได้รับความเสียหาย และเกือบทำให้เจ้าของร้านข้าวหลามที่วิ่งมาจับเต็นท์ไม่ให้ปลิวนั้น หวิดลอยตามแรงลมไปด้วย โชคดีที่ลมมาไว และหายไปอย่างรวดเร็ว


สอบถามนายวัชระ บุญศิริ หรือบาส อายุ 33 ปี ผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิป ซึ่งพยายามจะวิ่งเข้ามาช่วย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. มีลมพัดมา และก็มาหยุดหน้าร้านข้าวหลาม สังเกตจากถุงพลาสติกที่ค่อยเคลื่อนตัวช้าๆ ในตอนแรก จากนั้นก็ปลิวแล้วเกิดเป็นพายุหมุน หรือลมบ้าหมู พัดเข้าร้านข้าวหลาม


ซึ่งเจ้าของร้านกำลังเก็บร้าน เมื่อลมพัดมาอย่างรวดเร็ว เจ้าของร้านพยายามจะจับและยึดเต็นท์ไว้ แต่ด้วยลมที่หมุนแรง จึงทำให้เต็นท์และร่มลอยปลิวขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะตกลงมา และพัดหายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เต็นท์ได้รับความเสียหาย แต่ยังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและช่วงนั้นไม่มีรถขับผ่านมา จึงไม่มีอะไรเสียหายไปมากกว่านี้


โดยในวันนี้พบว่า ร้านข้าวหลามดังกล่าวปิดบริการ คาดว่าเจ้าของร้านน่าจะอยู่ระหว่างการซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ภายในร้านที่ได้รับความเสียหาย

-------------
ช่วงเย็นวานนี้ (24 เม.ย. 66) เกิดฝนและลมพายุฤดูร้อน พัดถล่มในพื้นที่อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว อย่างรุนแรง ถนนหลายสายมีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นขวางถนน ในพื้นที่ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว


ส่วนพื้นที่หมู่ 6 ซ.วัดชนะสงสาร ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ลมพายุได้โหมพัดกระหนำอย่างหนักเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง จนข้าวของภายในบ้านปลิวไปตามกระแสลม โดยจุดนี้พบว่า มีลูกเห็บตกลงมาเป็นจำนวนมาก โดยลูกเห็บตกลงมาพร้อมกับสายฝนที่พัดถล่มอย่างต่อเนื่อง


ขณะที่บริเวณตลาดนัดคลองเจ้า ริมถนนสุวินทวงศ์ ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง ฉะเชิงเทรา จุดนี้ถือว่าค่อนข้างหนัก กระแสลมแรงพัดถล่มอย่างต่อเนื่อง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ภายในตลาดนัดแห่งนี้กว่า 200 ร้านค้า ต้องช่วยกันจับเต็นท์เพื่อไม่ให้ปลิวไปกับกระแสลม


แต่ขณะที่เต็นท์ใหญ่สีขาวตั้งอยู่ด้านในทนแรงลมที่พัดมาอย่างหนักไม่ไหว จนผ้าใบหลังคาปลิวหลุดออกมา จากนั้นโครงเหล็กก็พังถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ภายในเต็นท์ต้องรีบวิ่งหนีตายออกมาจากเต็นท์ เพราะเต็นท์ได้ถล่มทับร้านค้าที่อยู่ด้านใน


ด้านนางสี พลูสวัสดิ์ อายุ 65 ปี แม่ค้าขายไส้กรอกย่าง เปิดเผยนาทีหนีตายว่า ขณะที่กำลังก่อไฟเพื่อจะย่างไส้กรอก มีลมพายุพัดมาอย่างแรงและรวดเร็ว ตอนนั้นเต็นท์เริ่มกระพือ ไม่คิดว่าเต็นท์ใหญ่จะพังถล่มลงมา ซึ่งช่วงเวลาแป๊บเดียว เมื่อตนหันหลังกลับมาพบว่า เต็นท์ใหญ่ได้พังถล่มจะทับร้านตน


ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปใต้โต๊ะ มือกำพระ นึกถึงพ่อนึกถึงแม่ แล้วเอามีดปักดิน โชคดีที่ตนมุดอยู่ใต้โต๊ะ ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกเต็นท์ทับจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตอนนั้นไม่ได้คิดห่วงของที่ปลิวไปกับลม ห่วงแต่ชีวิตตนเองจึงรีบวิ่งไปหาที่กำบัง ตนเองเกิดมา 65 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์ลมพายุที่พัดถล่มรุนแรงขนาดนี้
-------------
เมื่อช่วงเย็น วานนี้ (วันที่ 24 เม.ย.) ทีมข่าวได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม ว่า เกิดเหตุพายุฤดูร้อนได้เข้าพัดกระหน่ำชุมชุนบ้านน้ำซับ หมู่ 10 ต.นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จึงได้รีบเข้าตรวจสอบ


พอมาถึงก็ได้พบต้นไม้ข้างทาง และต้นไม้ที่อยู่ภายในบ้านเรือนของประชาชน ได้ถูกลมพายุพัดหักลงมาพับหลังคาบ้านจนได้รับความเสียหายจำนวนหลายหลัง และแรงลมพายุยังได้พัดหลังคาบ้านปลิวพังเสียหายอีกหลายสิบหลัง และร้านค้าสะดวกซื้อตลาดสดที่อยู่ริมข้างทาง ลานจอดรถ ศาลารอรถ ได้รับความเสียหาย


สอบถามนางสาวปรียานุส นิยม อายุ 33 ปี ชาวบ้านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ในขณะที่กำลังนั่งอยู่ภายในบ้าน ก็ได้มีเมฆพัดมาพร้อมกับแรงลมพัดกระโชก ตามด้วยมีฝนตกลงมาอย่างหนัก หลังจากนั้นก็มีแรงลมพัดหลังคาบ้านอย่างเร็ว


เพียงแค่ไม่ถึง 3 นาที จนทำให้หลังคาบ้านและข้าวของที่อยู่ในบ้าน รวมไปถึงร้านค้าของในตลาดได้รับความเสียหาย และลมก็ได้พัดเอาต้นไม้หักลงมาทั้งต้น ซึ่งตนเองเกิดมา 30 ปี ก็ไม่เคยเห็นลมพายุพัดน่ากลัวขนาดนี้เลย


ด้าน ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ กรจิระเจริญ นายกอำเภอพนัสนิคม และ นายมานพ สีนวล นายกตำบลนาวังหิน หลังทราบข่าว ก็รีบเดินทางเข้าตรวจสอบความเสียหายทันที พร้อมเปิดเผยว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น มีบ้านเรือนในพื้นที่ตำบลนาวังหิน ถูกพายุพัดถล่ม จำนวน 100 หลังคาเรือนความเสียหาย ต้องให้ทางฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยทำการสำรวจมูลค่าความเสียหาย และยังไม่สามารถประเมินได้ ส่วนชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 6 ราย


เบื้องต้นในการช่วยเหลือ จะต้องดูความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละหลังคาเรือนเสียก่อน และส่วนที่ต้องเร่งมือทำนั่นคือการเปิดเส้นทางการจราจร และหาที่พักอาศัยในเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยก่อน

-------------

ช่วงบ่าย วานนี้ (24 เม.ย. 66) เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ในหลายพื้นที่ของ จ.ระยอง หลังจากฝนหยุดตก ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลว่า ที่วัดห้วงหิน ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ลมได้พัดเอา องค์พระพุทธรูปน้ำหนักกว่า 100 กิโล หล่นลงมาจากซุ้มประตูโบสถ์ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดดังกล่าว


พบพระอธิการลำยอง เจ้าอาวาสวัดห้วงหิน พาผู้สื่อข่าวดูตรงจุดที่ พระพุทธรูปตกลงมา บริเวณซุ้มประตูพบเพียงฐานรอง ที่พื้นใต้ซุ้มประตู พบองค์พระตกแตกกระจายเป็นชิ้นๆ นอกจาก พระพุทธรูปแล้วยังมีกุฏิ อีก 3 หลัง เพิงร้านค้าบริเวณหน้าวัดยังได้รับความเสียหายอีกด้วย


พระอธิการลำยอง เจ้าอาวาสวัดห้วงหิน เผยว่า ตอนเกิดลมแรงนั้น ทั้งลมทั้งฝนมาพร้อมกันเลย วูบมาทีเดียว หอบเอาพระพุทธรูปหนักว่า 100 กิโลกรับร่วงลงมา และยังเกิดความเสียหายตามที่เห็น ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วันนี้ลมแรงมากจริงๆ


ผู้สื่อข่าวสำรวจความเสียหาย ตรงบริเวณริมรั้ววัด พบกุฏิสงค์ ที่เอาไว้ทำกิจกรรม งานบุญต่างๆ ล้มพังเสียหาย 3 หลัง ที่บริเวณเพิงขายของหน้าวัด พบร้านค้าถูกลมหอบยกเสาลอยขึ้นมาทั้งหลัง กระเบื้องมุงหลังคาแตกกระจายเหลื่อนพื้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวมีแต่ทรัพย์สินเสียหาย ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ySrt22uMxSc

คุณอาจสนใจ

Related News