วัดแทบแตกแยกแทบไม่ทัน! พระเอกดวลหมัดพระอาจ เดือดอ่อนพรรษา ไปนั่งแถวหน้างานบังสุกุล

ศึกผ้าเหลือง วัดแทบแตกแยกแทบไม่ทัน 2 พระนักมวย ดวลหมัดกันนัวกลางงานบังสุกุล ปมแย่งที่นั่งแถวหน้า เจ้าอาวาสลงดาบขับออกจากวัด และให้ลาสิกขาบท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.66 เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์พระภิกษุสงฆ์ 2 รูป ชกต่อยกันต่อหน้าพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้าน ที่กำลังทำพิธีบังสุกุลอัฐิให้กับคนที่ตายล่วงลับไปแล้ว ที่บริเวณข้างอุโบสถวัดโพธิ์ศรีสว่างอารมณ์ โดยขณะเกิดเหตุมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายภาพ ขณะที่พระกำลังต่อยกัน จนทำให้เกิดความสงสัย สาเหตุของการทะเลาะกันระหว่างพระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ในวัดเดียวกัน เป็นเพราะอะไร


ต่อมา วันที่ 17 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัด ที่เกิดเรื่องราวชกต่อยกัน พบกับ พระกรปพล รักษาการเจ้าอาวาส วัดโพธิ์ศรีสว่างอารมณ์ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เล่าว่า ท่านได้รับนิมนต์ไปทำพิธีบังสุกุลอัฐิอุทิศส่วนกุศล ให้กับคนตาย อยู่บริเวณข้างอุโบสถที่ไว้สำหรับเก็บอัฐิของคนตาย ก็ไม่รู้ว่าพระสงฆ์ 2 รูป มีปัญหาหรือเรื่องอะไรกันมาก่อน เพราะตนเองนั่งอยู่เก้าอี้แถวหน้า เห็นแต่พระภิกษุสงฆ์ 2 รูปชกต่อยกัน จึงเข้าไปถามว่า เรื่องราวเป็นมายังไง


พระกรปพล เล่าต่อว่า ตอนนั้นช่วงบ่ายโมง มีการจัดพิธีบังสุกุล มีญาติโยมมาจากจังหวัดจันทบุรี มาและนิมนต์พระสงฆ์ทั้งหมดในวัดไปทำพิธี ในขณะที่ทำพิธีอาตมาก็ไม่สักเกตเท่าไหร่ เพราะอาตมาอยู่หัวสุดคือนั่งบนเก้าอี้แถวหน้า มีเก้าอี้ที่จัดไว้สำหรับพระภิกษุสงฆ์ไว้นั่งทำพิธีจำนวน 2 แถว เก้าอี้แถวหน้าจะเต็ม หรือแถวหลังหน้าจะยังไม่เต็ม ก็พระภิกษุสงฆ์มีเรื่องกันก็ตามที่โยมเห็นในรูปภาพนั้นล่ะ เพราะอาตมานั่งอยู่หัวเก้าอี้ พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ใกล้กันจะรู้ดีว่ามีเรื่องอะไรกัน


หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น เรื่องราวครั้งนี้ก็ไปรับรู้ถึงหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทางวัด ทางอำเภอจอมพระ หลายส่วนโทรศัพท์มาสอบถามว่าเรื่องราวเป็นมายังไง อาตมาจึงกำลังหาทางปรึกษากับคณะกรรมการวัด เพื่อหาสาเหตุพระชกต่อยกันครั้งนี้ ช่วงที่มีเรื่องราวชกต่อยกัน พระเอกกับพระอาจ ทางชาวบ้าน ญาติโยม พระสงฆ์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็ห้ามกันไม่ให้มีเรื่องกัน พระเอกที่อยู่ข้างบนท่านตัวใหญ่กว่า อีกอย่างพระภิกษุสงฆ์ทั้งสองค่อนข้างแรงจะเยอะ ก็ห้ามกันแบบทุลักทุเลมาก ทางโยมแม่ของพระเอก ก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะโยมแม่ของพระเอก กลัวว่าพระอาจจะอาฆาตจองเวรจองกรรมมีเรื่องราวกันไม่จบสิ้น จึงไม่ให้มีการแจ้งความดำเนินคดี


อาตมาก็ได้ยินข่าวว่าพระอาจ ไปลาสิกขา เป็นสาธุชนอยู่ที่วัดในเมืองสุรินทร์ แต่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เพราะพระอาจได้ให้พระลูกวัดส่งไปขึ้นรถอยู่หน้าถนนใหญ่ เวลาประมาณเวลา 10 โมงกว่า ของวันถัดมา ไปในช่วงเช้า


ด้านพระเอก พระสงฆ์ที่ถูกพระอาจชกก่อน เล่าว่า มีโยมเขานิมนต์ให้ไปทำพิธีบังสุกุล ก็จัดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้พระภิกษุสงฆ์นั่งทำพิธี แต่ด้วยเก้าอี้แถวหลังเต็ม จึงมีหลวงพี่รูปหนึ่งบอกว่าเก้าอี้แถวหน้ายังว่างอยู่ 3 ที่ พระเอกจึงลงไปนั่ง แต่แล้วพระอาจที่เป็นคู่กรณี ถามว่าพรรษาที่เท่าไหร่ หมายถึงบวชได้กี่พรรษาแล้ว


หลังจากนั้นพระเอกก็บอกว่า พระอาจได้ชกต่อยตนก่อน ตนเองก็ชกต่อยสู้กับพระอาจ แต่ไม่สามารถสู้แรงพระอาจได้ จึงนอนอยู่ข้างล่าง พระอาจอยู่ข้างบน ขณะนั้นญาติโยม ชาวบ้าน พระสงฆ์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เข้ามาห้ามกัน ให้แยกย้ายกันไป เหมือนเรื่องราวคล้ายกับว่า พระอาจสอบถามกับพระเอกว่า บวชได้กี่พรรษาแล้ว จะมานั่งหน้า หลังจากนั้นก็ชกต่อยก่อนเลย


จากนั้นพระสงฆ์ก็ได้พาไปดูจุดที่เกิดเหตุ พระสงฆ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เล่าเพิ่มเติมว่า พระอาจยกเก้าอี้ขึ้นจะฟาดพระเอก แต่มีพระสงฆ์ และญาติโยม ชาวบ้าน แย่งเก้าอี้พลาสติกที่นั่งออกมาก่อน โชคดีไม่ถูกเก้าอี้ตี อย่างไรก็ตามทาง พระกรปพล ได้ให้พระที่ก่อเรื่องชกต่อย ออกจากวัด และสึกแล้วเป็นที่เรียบร้อย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HhdQitore-8