สังคม

หนุ่มโพสต์ติดโควิด ตาอักเสบ-เลือดออกจมูก ด้าน ‘นพ.ธีระ’ ไม่ฟันธง ใช่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่

โดย passamon_a

17 เม.ย. 2566

731 views

หนุ่มไทยในออสเตรเลีย โพสต์เล่าติดโควิดเป็นครั้งแรก ตาอักเสบ-เลือดออกจมูก เชื่อเป็นโควิดสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ “หมอธีระ” ยังไม่ฟันธงเป็นอาการสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ชี้การไอรุนแรง ความดันในตาสูง ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยในตาแตกได้

วานนี้ (วันที่ 16 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย กำลังติดโควิค-19 และได้โพสต์ข้อความระบุว่า “บันทึกโควิดสายพันธุ์ใหม่ Arcturus ไม่ได้มีการตรวจเชื้ออย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าโดนตัวนี้เพราะกำลังระบาดในออสเตรเลีย และสายพันธุ์นี้จะทำลาย soft tissue บริเวณใกล้เคียงที่ติดเชื้อ เช่น ตา และโพรงจมูก วัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็มแทบไม่ช่วยอะไร หรือช่วยไม่ได้เลยอาการหนักเหมือนคนที่ติดแรกๆสมัยยังไม่มีวัคซีน”

วันแรกรู้สึกแปลกๆ ในลำคอ แต่ตรวจ ATK ผลยังเป็นลบ วันที่ 2 รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เลยตรวจอีกที ผลบวกแล้ว เลยรีบกักตัวเองทันที และจากนั้นไข้ขึ้นสูงตลอด ระยะเวลา 3 วัน โดยยาพาราสามารถลดไข้ได้เพียงไม่เกิน 2 ชม. ไข้จะกลับมาสูงใหม่ ต้องนอนทนอยู่แบบนั้นโดยไม่สามารถขยับหรือช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะไม่สามารถให้ใครเข้ามาช่วยเช็ดตัวลดไข้ได้ ต้องบอกว่าเป็นช่วงที่เหมือนจะขาดใจตายได้ตลอดเวลา

โดยตั้งแต่วันที่ 2 เป็นต้นมา อาการไอแบบมีเสมหะสีเขียวข้น ขากออกมาเป็นก้อนๆ มีน้ำมูกสีเขียวข้นสั่งออกมาได้จำนวนมากทุกเช้า ถ้าเทียบปริมาณก็เหมือนได้เต็มถ้วยน้ำจิ้มขนาดพอเหมาะหรือประมาณ 1 กอบมือ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นชา ชาแบบรู้สึกว่ามันชา

วันที่ 4 เริ่มมีอาการเคืองตา จากนั้นตาทั้ง 2 ข้างก็อักเสบรุนแรงแทบมองอะไรไม่เห็น เหมือนมองผ่านผ้าม่านบางๆ สีขาว วันที่ 6 เริ่มมีเลือดสดออกมากับน้ำมูกเขียว บางทีไอแรง มีเลือดพุ่งออกมาจากจมูกจำนวนมาก คาดว่าเป็นเลือดกำเดา แต่เข้าใจว่าน่าจะมีอาการไซนัสอักเสบ เพราะเลือดนึกจะไหลออกมาก็ไหลซะงั้น แต่แค่ซึมๆ ออกมาไม่น่าใช้เลือดกำเดา หลังจากผ่านอาทิตย์แรกไปยังคงมีไข้ต่ำๆเวลากลางคืน เลือดยังออกจากจมูกเป็นบางครั้ง ยังไอมีเสมหะพร้อมน้ำมูกเขียวปนเลือดจำนวนมาก ตายังคงแดงแต่อาการดีขึ้นเป็นลำดับเพราะหยอดตาตลอดเริ่มรู้สึกแข็งแรงขึ้นหลังผ่านไป 13 วัน

ขณะที่เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.66) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า สิ่งที่ควรระวังคือ ลักษณะอาการของ XBB.1.16 นั้นยังไม่แน่ชัดว่าแตกต่างไปจากสายพันธุ์เดิมมากน้อยเพียงใด ข่าวจากอินเดียที่ระบุว่ามีอาการไข้สูง และเยื่อบุตาอักเสบนั้น เป็นรายงานจากการสังเกตอาการในผู้ป่วยเด็กอย่างไรก็ตาม เท่าที่สืบค้นดู ยังไม่เห็นรายงานวิชาการที่รวบรวมสถิติอาการเปรียบเทียบออกมาอย่างเป็นระบบ

ที่แน่ๆ มีหลักฐานเป็นรายงานวิชาการออกมาเผยแพร่แล้วคือ ผลพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการ ที่ชี้ชัดว่า XBB.1.16 มีสมรรถนะการแพร่ที่สูงกว่า XBB.1 และ XBB.1.5 โดยที่สมรรถนะดื้อต่อภูมิคุ้มกันพอๆ กัน ซึ่งถือว่าตระกูล XBB.x นั้นถือว่าดื้อสุดเท่าที่มีการระบาดของสายพันธุ์ต่างๆ มาหลายปี

นอกจากนี้สถิติระบาดในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย สะท้อนชัดว่าติดกันเร็วและมาก โดยทำให้อัตราการตรวจพบผลบวกในผู้ที่มาตรวจนั้นสูงมากกว่าระลอกที่ผ่านมาด้วย (Cr: Weiland J) ข้อสรุปที่เราได้จากองค์ความรู้ตอนนี้คือ มีโอกาสติดง่ายขึ้น มากขึ้นและพึงระวังเสมอว่า การติดแต่ละครั้งนั้นทำให้ป่วยได้ รุนแรงได้ ลงปอดได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อ Long COVID ด้วยการป้องกันตัวสม่ำเสมอ จะช่วยลดเสี่ยงลงไปได้มาก ทำได้ด้วยตนเองและเกิดประโยชน์ต่อทั้งตนเอง ครอบครัว และคนรอบข้างในสังคม

ไม่ควรไปปรามาสว่าหวัดธรรมดา กระจอก ไม่กลัว กลัวอดตายมากกว่ากลัวไวรัส เพราะเป็นตรรกะวิบัติ การใช้ชีวิต ทำงาน เรียน เที่ยว อย่างมีสติ ป้องกันตัว ใส่ใจสุขภาพ เป็นวิถีปฏิบัติที่ไม่ได้ยากลำบากอะไรเลย แต่กลับเกิดผลดีต่อตัวเราและทุกคน ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน จะได้ไม่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติที่ต้องรำพึงรำพันว่า "ไม่น่าเลย...รู้งี้" โดยไม่สามารถนั่งไทม์แมชชีนกลับไปได้แม้จะอยากเพียงใด ด้วยความปรารถนาดี

ขณะเดียวทีมข่าวได้พูดคุยกับ นพ.ธีระ ถึงกรณีการเกิดอาการเยื่อบุตาอักเสบ จากโควิดสายพันธุ์ดังกล่าว โดย นพ.ธีระ กล่าวว่า จากการที่สื่อมีการนำเสนอ เรื่องเยื่อบุตาอักเสบจากโควิดสายพันธุ์นี้ ตนยังไม่อยากให้เร่งด่วนสรุป เพราะรายงานเรื่องนี้ ได้มีรายงานจากหมอเด็กประเทศอินเดียออกยืนยัน โดยเป็นการสังเกตอาการจากตัวผู้ป่วยเด็กที่มี อาการไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ไข้สูง แล้วมีเรื่อง เยื่อบุตาอักเสบเป็นอาการเด่นร่วมด้วย

ซึ่งเป็นรายมาจากแหล่งเดียวโดยที่ยังไม่มีการสรุปเป็นรายงานวิชาการ อยากให้ฟังหูไว้หู หรือฟังไว้เป็นข้อมูลเพื่อการสังเกตุ แต่ข้อมูลอย่างเป็นระบบหรือรายงานที่รวบรวมออกมาจากเคสจำนวนมาก ว่าสายพันธุ์ดังกล่าวมีอาการอะไรขึ้นอาการเด่น ยังไม่มี

นพ.ธีระ ยังกล่าวถึง เคสของหนุ่มไทยในออสเตรเลีย ที่โพสต์เล่าว่าตัวเองติดโควิด-19” เป็นครั้งแรก เชื่อเป็นสายพันธุ์ใหม่ แล้วมีอาการตาอักเสบด้วยว่า อาการเด่นของเคสนี้คือพี่อาการไข้สูง มีอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ ซึ่งอาการนี้จะเห็นได้ชัดจากอาการของการติดเชื้อโควิดที่ผ่านมา ว่าเมื่อติดโควิดแล้วจะเกิดอาการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ หรือหากหลุดเข้าไปในปอดจะทำให้ปอดอักเสบได้ ทั้งนี้ เบื้องต้น เคสของหนุ่มไทยในออสเตรเลีย ดูแล้วอากาศค่อนข้างเยอะ ซึ่งหลักๆจะมีทั้งอาการไอ น้ำมูกสีเขียวเยอะ อาจจะมีเป็นการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้

นพ.ธีระ ยังกล่าวว่า หลายคนอาจเป็นกังวลและตื่นตระหนกในเรื่องของตาของหนุ่มไทยจะออสเตรเลียรายนี้  ซึ่งหากสังเกตจะเห็นได้ว่ามีเลือดออกใต้เยื่อบุตา ซึ่งหลายคนอาจเคยเห็น อาการเหล่านี้ซึ่งไม่ได้จำเพาะเป็นจากโควิดเท่านั้น บางครั้งคนเราเมื่อมีอาการไอหรือจามรุนแรงมากๆ ก็ทำให้เส้นเลือดฝอยในตาแตก มีเลือดออกใต้เยื่อบุตาได้ ถ้าแตกเยอะทำให้ตาเป็นสีแดงได้ ส่วนตัวยังไม่กล้าฟันธงว่าอาการเกี่ยวกับเยื่อบุตาอักเสบ จะเป็นอาการเด่นของโควิดสายพันธุ์นี้ เพราะยังไม่มีข้อมูล แต่ตัวไวรัสต่างๆ ที่ติดทางเดินหายใจ สามารถทำไมเกิดเยื่อบุตาอักเสบได้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/YEqrzeLAYIE


คุณอาจสนใจ

Related News