สังคม

พ่อแม่สลดรถตู้สาธารณะถูกชนลูก 2 คนกระเด็นจากหน้าต่างรถเจ็บสาหัสกล้องหน้ารถจับภาพได้

โดย onjira_n

11 เม.ย. 2566

1.3K views

อุบัติเหตุรถตู้สาธารณะโดนชน ลูกชายทั้ง2 เจ็บสาหัส 1คน ต้อง ทุพพลภาพถอดเครื่องช่วยหายใจก็ไปทันทีกระบะคู่กรณีอิดออดการเยียวยาส่วนรถตู้สาธารณะปิดปากเงียบค่าสินไหม



สืบเนื่องจากกรณีกล้องหน้ารถของพลเมืองดีจับภาพรถตู้สาธารณะโดนกระบะแซงซ้ายขึ้นมาชนท้ายเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 20:00 น. ทำให้เด็กทั้ง 2 คน กระเด็นออกจากตัวรถตู้โดยสารสาธารณะจนบาดเจ็บสาหัส ทางด้านคู่กรณี อิดออดไม่ยอมมาไกล่เกลี่ยหรือแสดงความรับผิดชอบตามข้อตกลงด้านรถตู้ พรบ.จ่ายมา3 หมื่นไร้ค่าสินไหมทดแทนจากประกันรถสาธารณะ ทำ2 พ่อแม่ไร้ปัญญารักษาขอร้องสื่อนำเสนอเรื่องราวขอความเป็นธรรม



เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เพลินพิศ ชนพิมาย อายุ 38 ปี ว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 ตน และลูกชาย 3 คน รวมแม่อีก1คน เป็น5 คน ได้นั่งรถตู้จากจังหวัดฉะเชิงเทรามาที่ จังหวัดระยอง เมื่อถึง บริเวณ อำเภอบ้านฉางทางคนขับรถได้มีการเปลี่ยนรถให้มาขึ้นอีกคัน ทะเบียน I5-7316 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ  ม.2 (จ) 57-21



จากนั้นก็นั่งมาดีๆจนถึงแยกเนินสำลีเวลาประมาณ 20:00 น.  เมื่อรถขับลงเนินมา ก็โดนรถกระบะที่แซงซ้ายขึ้นมาชนท้ายรถตู้ที่นั่งอยู่ทำให้ลูกชายคนกลางและคนเล็กกระเด็นออกจากตัวรถ รถไปจอดตรงบริเวณวัดโขดหิน-เขาไผ่ เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ตนจึงรีบวิ่งตามหาลูกทั้ง 2 และทางกู้ภัยได้ไปส่งที่ รพ กรุงเทพ-ระยอง และต่อมา ย้ายมารักษาตัวต่อ ที่ รพ ระยอง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีพลเมืองดีมอบคลิปกล้องหน้ารถจับภาพ ไว้เป็นหลักฐานได้



น.ส.เพลินพิศ  เล่าอีกว่า ลูกชายคนกลาง อายุ 10 มีอาการการตับฉีก เข้าทำการรักษาตัวผ่าตัด จนดีขึ้นและออกจาก รพ แล้ว  ส่วนลูกคนเล็ก อายุ 8 ขวบ มีอาการ เลือดออกในสมอง สมองบวม ตาข้างขวาลืมไม่ได้  ได้ทำการผ่าตัดด่วนที่ รพ แรก ( รพ กรุงเทพระยอง) และย้ายมารักษาตัวต่อที่ รพ ระยอง เนื่องจากตนเอง สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว น้องเข้าการักษาตัวมาจนถึงปัจจุบัน ก็ร่วม 4 เดือน อาการน้องไม่ดีขึ้น หายใจเองไม่ได้ แพทย์ต้องใช่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายไม่ตอบสนองใดๆ คุณหมอแจ้งว่า อาการน้อง 50:50 หากน้องกลับมา น้องก็ไม่เหมือนเดิม ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ อย่างใกล้ชิด



ต่อมาทราบภายหลังจากพนักงานสอบสวน ว่า คู่กรณีที่เป็นรถกระบะ แคป ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว คันต้นเหตุไม่มีใบขับขี่  ไม่มีพรบ.และ รถ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  ซึ่งตั้งแต่น้องเข้ารักษาตัวมา มีการมาเยี่ยม เพียง 1 ครั้งเท่านั้น และอิดออดการช่วยเหลือ เยียวยา ให้มาไกล่ที่ที่สถานีตำรวจภูธรมาบตามพุด ก็ไม่มา ทางตนนั้น ก็หาเช้ากินค่ำ รับจ้างเป็นรายวัน ไม่มีเงินที่จะมาใช้จ่าย มารักษาลูก



น.ส.เพลินพิศ ยังเล่าอีกด้วยน้ำตาคลอหน้าว่า 3 เดือนกว่าแล้ว ที่พยายามติดต่อคู่กรณีให้มารับผิดชอบ แต่ก็ ถูกปฏิเสธ จะมีก็ คนกลางที่ช่วยไปพูดให้ก็ จะได้มาครั้งล่ะ 4-5 พันบาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กที่เจ็บหนักทั้ง 2 คน ตนมืดแปดด้านแล้ว สอบถามทางตำรวจเรื่องทางคดีความก็ต้องรอใบรับรองแพทย์ จากลูกคนเล็ก แต่ ทาง หมอก็ยังไม่สามารถออกให้ได้ เพราะลูกคนเล็กยังรักษาตัวอยู่



แต่เหมือนมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเมื่อ ตนและสามี ได้เดินทางมาที่วัดโขดทิมธาราม อ.เมืองระยอง เพื่อขอพรองค์หลวงพ่อขาวให้อาการลูกของตนดีขึ้น และเรื่องคดีความขอให้เดินไปอย่างความเป็นธรรม จึงได้พบกับ ทนายพิรุณ สมบรม จาก สนง.บริษัท บาร์ริสเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลลอว์เฟริม จำกัด จึงเข้ามาช่วยเรื่องคดี ตนถึงทราบว่า  ทางรถตู้โดยสารก็ต้องเข้ามารับผิดชอบ มาเยียวยาเราด้วย เนื่องจากมีความคุ้มครองของการใช้รถสาธารณะ



ตนและสามีก็แปลกใจ ทำไม ทางฝั่งรถตู้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องประกันความคุ้มครองของคนใช้รถสาธารณะเลย บอกแต่เพียงว่า ทางพรบ จ่ายให้มา 8 หมื่น จ่ายจริงแค่ 3 หมื่น อีก 5หมื่นต้องสำรองจ่ายและเอาไปเบิกเอง ซึ่งตนเองก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น จึงได้แค่3 หมื่นที่จ่ายค่ารักษาลูกไป



ทางด้านนายอำพล วงศ์งาม อายุ 52 ปี พ่อของเด็ก เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองนั้นไม่ได้อยากได้เงินแต่อย่างใด อยากได้ความน่ารัก สดใส อยากได้ ชีวิตลูกกลับคืนมามากกว่า ซึ่งตอนนี้ ลูกชายคนเล็ก ก็เหมือนตายทั้งเป็น ซึ่งเราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ ใจแทบสลายแต่ในเมื่ออุบัติเหตุมันเกิดขึ้นแล้ว จากความประมาทหรือความคึกคะนองของคู่กรณีก็ควรจะต้องมารับผิดชอบ มาชดใช้ให้กลับลูกและตัวเราบ้าง ทุกอย่างมันเป็นค่าใช้จ่าย ตนเองและภรรยานั้นก็ หาเช้ากินค่ำ ตอนนี้ภรรยาก็ไปทำงานไม่ได้ ต้องมาเฝ้าดูแลลูกคนเล็ก และ ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น จึงอยากให้เห็นใจทางครอบครัวเราด้วย



เบื้องต้นผู้เสียหายพร้อมทนายความ จะนำเรื่องราวดังกล่าวไปแจ้งยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดระยอง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือในเรื่องคดีก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ