แม่ฮ่องสอนไฟป่ายังดุ หมอกควัน-ฝุ่น เกินมาตรฐาน อ.ปาย ค่ามลพิษ วัดได้ 234 มคก./ลบ.ม.

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2566 ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง จ.แม่ฮ่องสอน รายงานสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ว่า จุดไฟป่าของวันที่ 1 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา มีจุดไฟป่าของแม่ฮ่องสอน จำนวน 574 จุด ค่ามลพิษในอากาศ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน วัดได้ 214 มคก./ลบ.ม. พบที่ อ.ปาย ค่ามลพิษ วัดได้ 234 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานต่อเนื่องมาแล้ว 50 วัน ส่วนในตัวเมือง เกินค่ามาตรฐาน ต่อเนื่องมาแล้ว 42 วัน



จากการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ในที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 29 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีจุดความร้อนสะสมทั้งหมด 7,283 จุด คิดเป็นร้อยละ 77.66 ของค่าเป้าหมายปี 2566 โดยปีนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งค่าเป้าหมายไม่เกิน 9,378 จุด โดยอำเภอที่มีจุดความร้อนมากที่สุดในขณะนี้ ได้แก่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอเมือง และอำเภอสบเมย ตามลำดับ ขณะที่ค่า PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 39 วัน

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังจากนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งจุดความร้อนและพื้นที่เผาไหม้ ดังนั้นจึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น ทุกมาตรการ โดยงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในระยะนี้ การจัดทำห้องปลอดฝุ่นของหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก เพื่อให้บริการประชาชน และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การดูแลตนเองของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง



นายกู้ชาติ สง่าศรี หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง เปิดเผยว่า ในด้านการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ทางสถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง ได้มีการจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปดับไฟป่าอย่างต่อเนื่องทุกคืนทุกวันไม่หยุดหย่อน เนื่องจากมีการเกิดไฟป่าเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของสถานี ฯ ออกประชาสัมพันธ์ พร้อมกับประชุมชี้แจง ทำความรู้ความเข้าใจ ขอความร่วมมือในการงดเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่การเกษตร การชิงเผาแบบเชิงวิชาการ ให้กับชาวบ้าน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของหมอกควัน และจุดความร้อนที่ขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ และร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับทางผู้นำชุมชนและชาวบ้าน หมู่บ้านห้วยโผ ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน



-ล่าสุดทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ออกมาตรการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ลักลอบเผาป่า เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างหนัก นอกจากนั้นยังให้ทุกหน่วยในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์เชิงรุก เข้าถึงราษฎรในทุกพื้นที่เพื่อประชุมชี้แจงถึงผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าที่ส่งผลอย่างหนักในปัจจุบัน

ขณะที่ทางเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์เหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน (ศบก.ไฟป่า) จ.เชียงราย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจอาสาสมัครดับไฟป่า ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ประกอบด้วย อาสาฯดับไฟป่า นายธนู อายุ 34 ปี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านห้วยห้าง เข้าดับไฟป่าชุมชนในหมู่บ้านเกิดอุบัติเหตุพลัดตกภูเขาทำให้ได้รับบาดเจ็บสบ้าหัวไหล่แขนข้างซ้ายหลุดต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเวียงเชียงรุ้ง และถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ รายที่ 2 นายอาบือ อายุ 61 ปี ลื่นล้มตกลำห้วยหน้าอกกระแทกหินจนซี่โครงหัก 5 ซี่ขณะกลับจากดับไฟป่าบนดอยจระเข้ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน



และล่าสุด นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์เหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน (ศบก.ไฟป่า) จ.เชียงราย ได้ให้ย้ายศูนย์ ศบก.ไฟป่า จ.เชียงราย (ส่วนหน้า) พื้นที่ บ้านห้วยขม ต.แม่ยาว อ.เมือง ไปที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน เพื่อที่จะควบคุมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ ดอยจระเข้ อ.แม่จัน และหากในพื้นที่ อ.แม่จัน สถานการณ์ดีขึ้นก็จะย้าย ศบก.ไฟป่า จ.เชียงราย (ส่วนหน้า) ไปที่ อ.พาน อ.แม่สรวย และ อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งบางจุดที่เข้าดับไม่ได้ในพื้นที่ทางโซนตอนใต้ อ.พาน อ.แม่สรวย และ อ.เวียงป่าเป้า เนื่องจากพื้นที่เป็นเขาสูงชันและหน้าผาสูง

ส่วนทุกอำเภอของจังหวัดเชียงราย ยังคงต้องเฝ้าระวังไฟป่าและเตรียมกำลังตลอด24ชั่วโมง และดำเนินการจับกุมผู้ลักลอยเผาและลักลอบเข้าป่าอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าขึ้นมาอีก