สังคม

กู้ภัยสุดทน ถูกวัยรุ่นกู้ภัยอีกฝั่งก่อกวนไม่เลิก แถมถูกท้าต่อย

โดย jeeraphat_d

30 มี.ค. 2566

113 views

ที่จังหวัดนครสวรรค์ จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6” ได้มีการโพสต์คลิปเหตุการณ์ของทีมกู้ภัยในพื้นที่ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ถูกกลุ่มแก๊งวัยรุ่นก่อกวน และพยายามใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมกับลงข้อมูลในโพสต์ด้วยว่า “เด็กดีของพ่อแม่อะนะ..แต่มาไล่ฟัน สมาชิก จนท.อาสากู้ภัย มีปมปัญหาอะไรควรจบด้วยการพูดคุยกันสิ ตร.เจ้าของพื้นที่ ช่วยจัดการป้องปรามจับกุมให้ด้วย


ล่าสุด วันนี้ 30 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่สมาคมอาสากู้ภัยโกรกพระ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้รับการเปิดเผยจาก นายพรรษา อายุ 31 ปี หัวหน้ากำลังพลสมาคมอาสากู้ภัยโกรกพระ ว่า เรื่องที่เกิดในคืนวันนั้น พวกผมและทีมกู้ภัย เพิ่งจะนั่งทานข้าวด้วยกันเสร็จ ในช่วงเวลา 22.00 น. แล้วจู่ๆ ก็มีกลุ่มวัยรุ่น ใช้รถจักรยานยนต์นับ 10 คัน คอยผลัดกันขับขี่มาเบิ้ลเครื่องรถเสียงดังอยู่ที่บริเวณด้านหน้ากู้ภัยอยู่หลายรอบ อีกทั้ง กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ยังส่งเสียงด่าทอให้ของลับ แล้วยังมีการเอาขวดเบียร์มาขว้างใส่รถกู้ภัยอีกด้วย แต่โชคดีที่ไม่โดน จึงไม่มีอะไรเสียหาย ซึ่งผมก็คิดว่ามันจะจบไปแล้ว แต่พวกนั้นมันก็ไม่จบ ขี่รถวนกลับมาก่อกวนอีกครั้ง และคราวนี้ ถึงกับจะเอามีดมาวิ่งไล่ขับฟันเจ้าหน้าที่กู้ภัยของผม จนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเอาชีวิตรอดให้วุ่นวายกันไปหมด จนสุดท้าย ผมทนไม่ไหว เลยให้ทีมงานถ่ายบันทึกคลิปเอาไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความเอาผิด และคลิปที่บันทึกเอาไว้ได้ ก็จะเห็นวัยรุ่นชายสองคน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนหน้ากู้ภัย แล้วตะโกนให้ของลับ พร้อมร้องเรียกให้เจ้าหน้าที่อาสาของผม ไปตีไปต่อยกับพวกมัน


“นาทีนั้น ผมไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุสถานเดียว แต่เมื่อตำรวจมาตรวจสอบความสงบเรียบร้อย และขับรถกลับไปแล้ว ไอ้กลุ่มวัยรุ่นพวกนี้ มันก็ขี่รถกลับมาวนเวียนก่อกวนต่ออีก ยันถึงตี 3 พวกผมหวาดกลัวสุดๆ จนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนในคืนนั้น”


เมื่อถามถึงกลุ่มวัยรุ่นที่มาก่อกวน นายพรรษา ระบุว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในทีมกู้ชีพกู้ภัยอีกแห่งหนึ่ง ที่มีที่ทำการอยู่ห่างจากที่ของตนไปประมาณ 60 เมตร และกู้ภัยทั้งของตน และของเขา ก็เปิดอยู่ร่วมกันมานานหลายปี ไม่เคยมีปัญหากระทบกระทั่ง ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัวกันมาก่อน จนกระทั่ง เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาสาของตน ได้เกิดไปมีเรื่องกับทีมวัยรุ่นของกู้ภัยกลุ่มนั้น โดยไม่ได้ตั้งใจ คือ ประมาณว่า อาสากู้ภัยของตนกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าที่ทำการของกู้ภัยฝั่งคู่กรณี แล้วเผอิญเครื่องรถจะดับ เจ้าหน้าที่อาสาของตน จึงได้เร่งเครื่องเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับกลางทาง ซึ่งจังหวะนั้น กลุ่มวัยรุ่นที่เป็นทีมของกู้ภัยอีกฝั่ง กำลังนั่งจับกลุ่มกันที่ด้านหน้ากู้ภัยของเขาเห็นแล้ว จึงเกิดความไม่พอใจ คิดว่า อาสากู้ภัยของตนไปเบิ้ลรถหาเรื่อง จึงทำให้เกิดเรื่องก่อกวนขึ้นตั้งแต่บัดนั้นมาตลอด และมาก่อกวนแทบจะทุกวัน จนทำให้ทีมกู้ภัยของตนหวาดระแวง จะเกิดความไม่ปลอดภัยกับชีวิต


ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า หลังจากเกิดเรื่องได้พยายามไปพูดคุย และพยายามเคลียร์ปัญหาหรือไม่ นายพรรษา กล่าวว่า พยายามเคลียร์ทุกช่องทางแล้ว แต่กลุ่มวัยรุ่นพวกนั้น ก็ไม่ยอมฟัง แถมยังมาก่อกวนดูดันแบบไม่เกรงใจหนักขึ้นทุกวัน จนถึงขนาดที่ตนทนไม่ไหว พยายามจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของกู้ภัยฝั่งคู่กรณีแล้ว แต่ทางนั้นเขาปฏิเสธว่า วัยรุ่นที่มาก่อกวน ไม่ใช่คนของเขาแล้ว เพราะเป็นเพียงแค่อดีตที่เคยมาทำอาสากู้ภัยด้วย แต่ได้ลาออกไปแล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร จึงได้มีการนำหลักฐานที่บันทึกคลิปไว้ได้ เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.โกรกพระ พร้อมกับแจ้งเรื่องไปทางเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง เพื่อขอให้ช่วยให้จัดการกับวัยรุ่นแก๊งนี้ที แต่ส่วนตัว ก็ไม่อยากจะอะไรมากนะ ขอแค่เคลียร์กัน และปรับความเข้าใจในเรื่องที่ทางนั้น เข้าใจผิด และขอให้รับปากว่าจะจบปัญหา ไม่มีเรื่องอะไรต่อกันอีก จะได้ต่างทำงานหน้าที่ช่วยเหลือสังคมกันได้อย่างสบายใจ แต่หากไม่จบปัญหา ตนก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่กู้ภัยฝั่งคู่กรณี คือ “สมาคมกู้ชีพ-กู้ภัยร่วมใจโกรกพระ” เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงของอีกฝ่าย แต่ปรากฏว่า วันนี้มีเพียงเจ้าหน้าที่อยู่ประจำสำนักงานเพียงแค่ 1 คน เท่านั้น และอ้างว่า ได้ออกไปปฏิบัติงานกันหมด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่พร้อมเปิดเผยข้อมูลใดๆ กับทางผู้สื่อข่าว เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการหาหลักฐาน และขณะนี้ กำลังไล่ตรวจเช็คภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อหาตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News