พายุฤดูร้อนแผลงฤทธิ์ พัดหลังคาบ้านเมืองหนองคาย ปลิวกว่า 400 หลัง - ต้นจามจุรียักษ์ 100 ปีล้ม

วานนี้ (29 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจความเสียหายจากฤทธิ์พายุฤดูร้อน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นลักษณะลมกระโชกแรง ฝนตกเล็กน้อย แต่ลมแรงนานหลายนาที ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 400 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่หลังคาบ้านถูกแรงลมพัดสังกะสีมุงหลังคาปลิวว่อน หลุดออกทั้งแถบ บางหลังหลุดออกบางส่วน บางหลังส่วนต่อเติมบ้านถูกลมพัดแรงจนพังเสียหาย

นอกจากนี้ ยังพบว่าที่โรงเรียนบ้านเดื่อ ต้นจามจุรียักษ์อายุกว่าร้อยปี หักโค่นทับสนามตะกร้อ สังกะสีอาคารเรียนหลุดออกเป็นแถบ ครูต้องเร่งช่วยกันเก็บทรัพย์สินของทางราชการให้อยู่ในที่ปลอดภัย และประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนที่อยู่ระหว่างปิดภาคเรียน ให้ใช้ความระมัดระวังหากจะเข้ามาเล่นกีฬา หรือพักผ่อนในโรงเรียน เพราะอาจมีเศษซากความเสียหาย ตะปู สังกะสี ต่างๆ ตกอยู่บริเวณพื้นสนามของโรงเรียน เป็นอันตรายต่อนักเรียนได้

ขณะที่ ประตูทางเข้าวัดโนนสว่าง บ้านน้อย หมู่ 1 ต.บ้านเดื่อ ถูกแรงลมพัดพังเสียหายเช่นกัน ไฟฟ้าดับหลายชั่วโมง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าซ่อมแซม และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ชาวบ้านได้ใช้ตามปกติในช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา.
--------------

วานนี้ (29 มี.ค. 66) เมื่อเวลา 15.00 น. นายบุญจันทร์ มูลกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนสีชมพูศึกษา นำเจ้าหน้าที่กองช่าง อบจ.ขอนแก่น สำรวจความเสียหายของอาคารภูตะวัน หรืออาคาร 5 ซึ่งเป็นอาคารที่ใช้เรียนในกลุ่ม สาระการเรียนรู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกพายุฤดูร้อนพัด ทำให้ประตูหน้าต่างของห้องหลักสูตรศิลปะการแสดงที่บริเวณชั้นที่ 1 พังได้รับความเสียหาย และที่บริเวณชั้นที่ 4 บริเวณห้องเรียนนาฏศิลป์ ก็ถูกลมพายุฤดูร้อนพัดทำมให้หน้าต่างและฝ้าเพดาน พังเสียหาย เช่นกัน

นายบุญจันทร์ ผอ. กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นเพราะถูกพายุฤดูร้อนพัดแรงจนทำให้ประตูหน้าต่างของห้องเรียนพังเสียหาย ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้น ที่ห้องหลักสูตรศิลปะการแสดงซึ่งอยู่ที่ชั้น 1 นั้น มีครูจำนวน 3 คน นั่งทำเอกสาร เตรียมความพร้อมเรื่องการเรียนการสอน และครูเวรที่เข้าเวรในตอนกลางคืน นั่งทำงานกันอยู่ ช่วงที่ลมพักแรง หน้าต่างพัง 2 ด้าน แต่ละด้านสูงและกว้างประมาณ 4X4 เมตร แผงกระจกอลูมิเนียม ซึ่งเป็นที่กั้นห้องเข้าออกของครูนักเรียน ยาวปะมาณ 8 เมตรล้มลงทั้งแผง โชคดีที่ครูอาจารย์ทั้ง 6 คน หลบไปอยู่บริเวณทางขึ้นบันได ที่ไม่มีแรงลมไปถึง ปลอดภัยทุกคน

“หลังพายุสงบ ครูเวรโทรศัพท์รายงานจึงรีบมาตรวจสอบ จึงแจ้งให้ อบจ.ขอนแก่นทราบ เพราะโรงเรียนอยู่ในความดูแลของอบจ.ขอนแก่น เพื่อให้กองช่าง ลงพื้นที่มาสำรวจและประเมินความเสียหาย ซ่อมแซมให้แล้วเสร็จก่อที่โรงเรียนจะเปิดเทอมในวันที่ 15 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเมื่อกองช่างมาสำรวจก็ประเมินความเสียหายของห้องเรียรนทั้งสองห้องแประมาณ 4 แสนบาท และจะเร่งซ่อมแซมให้เร็วที่สุด”

ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวอีกว่า โรงเรียนปิดเทอมเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ก่อนที่โรงเรียนจะปิดเทอมได้ประชุมครูในโรงเรียน เพื่อสำรวจความเสื่อมโทรมของอาคารเรียน สายไฟ รวมทั้งการเข้าเวรยามรักษาความปลอดภัยใยนทรัพย์สินของโรงเรียน และเมื่อโรงเรียนได้ประสบความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ก็ยังโชคดีที่เป็นช่วงที่โรงเรียนปิดเทอม ครูก็ปลอดภัย จึงง่ายต่อการที่ช่างจะมาซ่อมแซม ส่วนความปลอดภัยในทรัพย์สินในจุดที่เกิดความเสียหายนั้น ก็มีครูเวรคอยรักษาความปลอดภัยอยู่ และจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สีชมพูมาตรวจความปลอดภัยในพื้นที่บ่อยขึ้น

ด้านครูชารีณัฏฐ์ ชัยสุรินทร์ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งเป็นครูหนึ่งในหกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะพายุพัด ประตูหน้าต่างของห้องกลุ่มสาระการเรียนรู้ พังขณะลมพายุพัด กล่าวว่า โรงเรียนปิดเทอมก็จริง แต่ครูยังต้องทำงาน ต้องเตรียมการเรียนการสอน จึงมาทำวงานทุกวัน

ช่วงที่ลมพายุพัดนั้น พากันนั่งรับประทานอาหารเย็น แต่มีลมกรรโชกแรงมาก จนหน้าต่างห้องมีเสียงดังแปลก จึงพากันย้ายที่นั่งไปอยู่มุมตึกทางขึ้นบันได จากนั้น หน้าต่างก็พังถล่มลงมาพร้อมๆกันทั้งสองด้าน แผงกระจกอลูมิเนียมที่กั้นห้องและเป็นทางเข้าออกของครูนักเรียนก็พังลงมา โชคดีที่ครูทั้งหมดไม่มีใครบาดเจ็บ จากนั้นไฟก็ดับ เมื่อพายุสงบจึงได้เดินทางกลับบ้าน

--------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/4n4DACL9XB8