แม่หม้ายสาวสุดช้ำใจ ถูกชายหลอกให้รักทางออนไลน์ สุดท้ายโดนชิงทรัพย์รวมกว่าแสนบาทหายวับ

กล้องวงจรปิดของโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 12.30 น. สามารถบันทึกภาพถ่ายผู้ก่อเหตุและหญิงสาวผู้เสียหายไว้ได้ขณะกำลังเข้าเช็คอินและ เปิดห้องพัก 1 คืนที่โรงแรมแห่งนี้

โดยจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าฝ่ายชายเป็นคนติดต่อเรื่องห้องพักและจัดการค่าใช้จ่ายเอง จากนั้นทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมมีการถ่ายคลิปลง tiktok ในลักษณะสวีตหวานเหมือนคู่รักหนุ่มสาวทั่วไป แต่ปรากฏว่าเช้าวันรุ่งขึ้น 28 มีนาคม ฝ่ายชายหายตัวไปอย่างปริศนาพร้อมทรัพย์สินสร้อยแหวนเงินทองของฝ่ายหญิง รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ซึ่งฝ่ายหญิงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.พญาไท และอยากเตือนภัยผู้หญิงอีกหลายคน

โดยทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับหญิงสาวคนดังกล่าวชื่อนางสาวนัทมล อายุ 42 ปี เธอเปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า รู้จักกับชายคนดังกล่าว ซึ่งใช้ชื่อว่า โต้ง FC พัทยา อายุ ประมาณ 40 ปี ผ่านทาง facebook และรู้จักกันได้เพียงแค่ 4 วัน นายโต้งทักมาหา ทักมาคุยทุกวัน , ถามไถ่เรื่องราวชีวิต กินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ , ซึ่งฝ่ายหญิงโสด ไม่มีแฟนและฝ่ายชายก็บอกว่า ไม่มีแฟนเหมือนกัน เพราะแฟนเสียไปนานแล้ว

ฝ่ายชายก็พยายามถามว่ามีคุยหรือถูกใจใครบ้าง ฝ่ายหญิงตอบกลับไปว่าก็มีบ้าง แต่พอมาคุยสักพักก็หายไป ทีนี้ฝ่ายชายเริ่มรุกหนัก บอกว่าชอบฝ่ายหญิง แล้วก็ตัดพ้อว่าคงได้แค่แอบชอบ , ฝ่ายหญิงเริ่มใจอ่อนและบอกว่าตัวเองเป็นคนจน ขอบคุณที่ชอบรู้สึกดีด้วย แล้วถามกลับไปว่าทำไมไม่ไปชอบผู้หญิงที่สวยๆ รวยๆ

ฝ่ายชายเลยตอบไปว่าจะรวยจนก็คนเหมือนกันมันอยู่ที่ใจมากกว่าส่วนเรื่องหน้าตาจะสวยหรือขี้เหร่เราให้ใจเราเลือกเองและไม่จำเป็นต้องเลือกคนที่หน้าตา ฝ่ายหญิงเลยถามว่าแล้วชอบตัวเองตรงไหน  ฝ่ายชายบอกว่า ชอบที่ความขยัน ไม่ท้อแท้ชีวิต ซึ่งตรงกับนิสัยของตัวเอง

จากนั้นก็มีการคุยกันต่อใน Line อีก 1-2 วัน วิดีโอคอลคุยกันนานกว่า 25 นาที และฝ่ายชายก็ส่งรูปพิธีแต่งงาน แล้วบอกว่าอยากให้ถึงแบบนี้ไวๆ จัง

นางสาวนัทมล ฝ่ายหญิงบอกว่าตอนนั้นตัวเองเริ่มใจอ่อน รู้สึกชอบนายโต้ง และอยากลองคบหาดูความสัมพันธ์หากสามารถไปต่อกันได้ด้วยดีก็จะตัดสินใจคบหาเป็นแฟน จึงยอมตกลงนัดเจอและพากันมาเที่ยวที่กรุงเทพฯ โดยฝ่ายหญิงนั่งรถตู้มาจากเกาะช้างและนัดเจอฝ่ายชายที่สถานีขนส่งฯ เอกมัย กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม นอนค้างด้วยกันคืนแรกที่โรงแรมแถวสุขุมวิท ฝ่ายชายเป็นคนออกค่าที่พัก

พอคืนที่ 2 คืนเกิดเหตุฝ่ายชายออกอุบายขอยืมเงินสดจากฝ่ายหญิง เดี๋ยวกลับไปคืนเงินให้ เนื่องจากเห็นว่าฝ่ายหญิงพกเงินสดมา 2 หมื่นกว่าบาท เป็นเงินเดือนที่นายจ้างฝ่ายหญิงเพิ่งจ่ายให้ ฝ่ายหญิงจึงยอมให้ยืม 25,000 บาท , จากนั้นคืนที่ 2 ก็พากันกินเที่ยวแถวซอยรางน้ำ เปิดไวน์กินกัน 2 ขวดต่อด้วยเบียร์อีก 3 ขวดและสปาย



ซึ่งนางสาวนัทมล บอกว่าปกติตัวเองไม่ค่อยดื่มเหล้า ทำให้วันนั้นที่นั่งกินกับฝ่ายชายรู้สึกเมามาก และพากันกลับเข้าห้องพักตอนเที่ยงคืน จากนั้นฝ่ายหญิงก็นอนหลับไม่ได้สติ จนกระทั่งตื่นมาตอนตี 5 หันซ้าย หันขวา เจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีทั้งฝ่ายชายรวมถึงทรัพย์สินเงินทองในกระเป๋าหายเกลี้ยง



โดยทรัพย์สินของนางสาวนัทมล ที่โดนฝ่ายชายขโมยไป มูลค่ารวม 100,000 กว่าบาท ประกอบด้วย , เงินสด 25,000 บาท , สร้อยคอทองคำ 1 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง หนัก 1 บาทจำนวน 1 องค์ , แหวนทองคำหนัก 1 สลึงจำนวน 3 วง , สร้อยข้อมือหนัก 1 บาทจำนวน 1 เส้น ตอนนี้เหลือเพียงแหวนทอง 1 สลึง 3 วงที่ใส่ติดนิ้ว




ซึ่งนางสาวนัทมล พยายามติดต่อหาฝ่ายชาย เพื่อถามว่าหายไปไหนโดยฝ่ายชายตอบกลับมาว่าออกมาเปิดโรงแรมอีกที่หนึ่งเพื่อรอฝ่ายหญิงไปหา พร้อมบอกว่าเดี๋ยวกลับมารับ ซึ่งฝ่ายหญิงรอตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 9 โมงเช้า ฝ่ายชายก็ยังไม่มารับ ทำให้มั่นใจว่า ถูกหลอกและถูกขโมยทรัพย์สินไป จึงเข้าแจ้งความที่ สน.พญาไทและพยายามติดต่อฝ่ายชายอีกรอบรอบนี้อ่านไลน์แต่ไม่มีการตอบกลับโทรฯไปก็ไม่รับสาย



น.ส.นัทมล บอกว่า เคยเห็นข่าวลักษณะนี้มาหลายรอบ ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง เหตุผลที่ยอมนัดเจอฝ่ายชายทั้งที่รู้จักกันเพียง 4 วัน เธอยอมรับว่า ตอนที่คุยก็รู้สึกดีที่ฝ่ายชาย เพราะพูดจาดี ดูเอาใจใส่ แล้วตัวเองเป็นแม่หม้ายลูกติดจึงอยากลองคบหาดู ทำให้ตัดสินใจไปหาตามนัด ซึ่งทรัพย์สินเงินทองที่เสียไป นัทมล บอกว่า มีความสำคัญต่อตัวเองมากเพราะต้องนำไปจ่ายค่าเทอมให้กับลูกชายวันที่ 2 เมษายนนี้และจ่ายหนี้ ธกส.ให้กับแม่ วอนขอฝ่ายชายนำเงินและทรัพย์สินทั้งหมดมาคืนตัวเองพร้อมยกโทษและให้อภัย




ขณะที่ผู้สื่อข่าวฯ พยายามติดต่อไปยังฝ่ายชายหลายสาย แต่ฝ่ายชาย ไม่ยอมรับสาย ก่อนจะปิดเครื่องไป